Today’s NEWS FEED

News Feed

AOT ประกาศจุดยืนผู้นำท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก เน้นบริการผู้โดยสารแบบ World Class Hospitality เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเสริมความแข็งแกร่งของประเทศ

96

 
 




สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 1 กรกฎาคม 2568 )----- บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ครบรอบ 46 ปี วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ประกาศจุดยืนความเป็นผู้นำด้านการบริหารท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก มุ่งยกระดับการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้โดยสาร พร้อมเร่งพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งอย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทางอากาศของประเทศสู่มาตรฐานระดับสากล
      
นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นี้ AOT จะดำเนินงานครบรอบ 46 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา AOT ได้มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทางอากาศ อีกทั้งยังมีบทบาทโดยตรงต่อระบบโลจิสติกส์ของประเทศด้วยการพัฒนาท่าอากาศยานให้มีความทันสมัย เพื่อรองรับหน้าที่ "ประตูสู่ประเทศ" โดยมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค Aviation Hub) นอกจากนี้ AOT ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานการให้บริการสู่ระดับสากล ควบคู่กับการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบินและไม่เกี่ยวกับการบิน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม
 
AOT บริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (เดือนตุลาคม 2567 – พฤษภาคม 2568) มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งรวม 88.53 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 54.24 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.8% และผู้โดยสารภายในประเทศ 34.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.9% ขณะที่มีเที่ยวบิน 544,590 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.9% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 308,777 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.5% และเที่ยวบินภายในประเทศ 235,813 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.9% นอกจากนี้ AOT ได้ประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศในปีงบประมาณ 2569 (เดือนตุลาคม 2568 - กันยายน 2569) คาดว่าจะมีผู้โดยสารรวมกว่า 130 ล้านคน เที่ยวบินรวมกว่า 859,000 เที่ยวบิน และคาดว่าจะมีจำนวนสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ (Cargo) ประมาณ 1.64 ล้านตัน  
 
จากประมาณการผู้โดยสารและเที่ยวบินข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าทิศทางของอุตสาหกรรมการขนส่งและการบินมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น AOT ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจท่าอากาศยาน จึงมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อยกระดับทั้งในด้านคุณภาพการให้บริการและการเพิ่มประสิทธิภาพด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบาย รวดเร็ว น่าประทับใจ และรองรับการเติบโตของผู้โดยสารในอนาคต โดยเน้นแนวคิด "World Class  Hospitality" ที่มุ่งเน้นการให้บริการที่เหนือระดับ ความใส่ใจ และการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าบ้านที่ยินดีต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยตลอดการเดินทางเป็นสำคัญ ซึ่งในกระบวนการให้บริการผู้โดยสารภายในสนามบินได้มีการเก็บสถิติระยะเวลาเฉลี่ยที่ผู้โดยสารใช้เวลาผ่านทุกขั้นตอน พบว่า ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถิติดีกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีสถิติผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ย 21 นาทีต่อคน ขาออกระหว่างประเทศ 27 นาทีต่อคน และผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ 14 นาทีต่อคน ขาออกภายในประเทศ 15 นาทีต่อคน ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีสถิติผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ย 21 นาทีต่อคน ขาออกระหว่างประเทศ 22 นาทีต่อคน และผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ 8 นาทีต่อคน ขาออกภายในประเทศ 10 นาทีต่อคน
 
AOT ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการยกระดับคุณภาพการให้บริการ (Airport Service Quality) ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ซึ่งหนึ่งในภารกิจที่สำคัญ คือ การผลักดันและขับเคลื่อนแผนปรับปรุงพื้นที่ให้บริการภายในท่าอากาศยานให้มีความทันสมัย โปร่ง โล่ง สบาย ผ่อนคลาย และสะอาด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้โดยสารในปัจจุบัน เช่น การจัดโซนนิ่งในอาคารผู้โดยสารใหม่ให้เหมาะสม จัดพื้นที่สันทนาการ สนามเด็กเล่น พื้นที่พักคอยในบรรยากาศผ่อนคลาย เพิ่มจุดให้บริการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงจัดการแสดงศิลปะวัฒนธรรมทั้งไทยและสากล เป็นต้น สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการมากสุด AOT มีแผนจะผลักดันให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก้าวเป็นศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค ยกระดับประสบการณ์และความพึงพอใจของผู้โดยสาร ผ่านโครงการ Suvarnabhumi Airport Experience Enhancement ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก Concourse C เพื่อเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารทุกเพศทุกวัย เช่น Kids and Gaming Zone สำหรับผู้โดยสารกลุ่มครอบครัว และพื้นที่ Relaxing Co-Working Space Zone และ Digital Park Seats สำหรับกลุ่มวัยทำงาน พร้อมเปิดใช้งานได้ภายในปี 2569 นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการปรับปรุงห้องน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทั้งในส่วนของอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จภายในปี 2571
 
ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AOT จะเร่งดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ตามปริมาณการเติบโตของผู้โดยสาร โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเร่งก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ให้แล้วเสร็จในปี 2573 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถจากปัจจุบัน 65 ล้านคนต่อปี เป็น 80 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ควบคู่กับการเริ่มดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้านทิศใต้ ประกอบด้วย อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) และทางวิ่งเส้นที่ 4 (4th Runway) สำหรับท่าอากาศยานดอนเมืองคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 ได้ภายในปี 2569 และเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 เพื่อรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศในปี 2573 และปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศในปี 2575 พร้อมกันนี้ จะดำเนินการปรับปรุงท่าอากาศยานเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จในปี 2576 ทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 20 ล้านคนต่อปี ส่วนท่าอากาศยานภูเก็ตจะก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสสามารถของท่าอากาศยานภูเก็ตเป็น 18 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573 และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายมีแผนจะพัฒนาให้รองรับผู้โดยสารจาก 3 ล้านคนต่อปี เป็น 6 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2576
 
นางสาวปวีณา กล่าวว่า แม้ว่า AOT จะมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการให้บริการผู้โดยสาร และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ซึ่งจะเป็นที่มาของแหล่งรายได้ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Aeronautical Revenue) ขณะเดียวกัน AOT ก็มีแผนหาแหล่งรายได้อื่นเพื่อมาสนับสนุนสภาพคล่อง และเพิ่มรายได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue) โดย AOT มีพื้นที่ศักยภาพรอบสนามบินทั้ง 6 แห่งที่จะสามารถนำมาสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการธุรกิจหลายด้าน จึงได้จัดงาน AOT Property Showcase เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีนักลงทุนติดต่อสอบถามรายละเอียดเข้ามาจำนวนมาก ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่ให้ความสนใจและแจ้งความประสงค์ขอเช่าพื้นที่กับ AOT จำนวน 28 โครงการ สำหรับประกอบธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น โรงแรม  โครงการ MRO โครงการ Private Jet Terminal โครงการ Logistics Hub Training Center ศูนย์ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า โชว์รูมรถยนต์ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และโครงการ Attraction in Terminal เป็นต้น โดย AOT เปิดให้นักลงทุนที่สนใจเริ่มเสนอโครงการเข้ามา เพื่อ AOT จะได้พิจารณาความเหมาะสมของแต่ละโครงการให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของ AOT ต่อไป
 
นางสาวปวีณา กล่าวในตอนท้ายว่า AOT พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบประสบการณ์เดินทางที่ดีเยี่ยมในระดับสากลด้านโครงสร้างพื้นฐาน การบริการ และนวัตกรรม มุ่งยกระดับประสบการณ์การเดินทางที่ สะดวก ปลอดภัย ทันสมัย และเป็นมิตรกับผู้โดยสารเพื่อยืนหยัดในบทบาทผู้นำด้านการบริหารท่าอากาศยาน และเป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบคมนาคมทางอากาศเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป
 
 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

หุ้น รอศาล By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ อาการหุ้นไทย ตอนนี้ รอ ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ พิจารณากรณีคลิปเสียงว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณา....

NAM เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

NAM เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้