Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

89

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 30 มิ.ย.68 ปิด +7.14 จุด อยู่ที่ 1,089.56 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,225 ลบ. สถาบันขาย 402 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 84 ลบ. ต่างชาติซื้อ 115 ลบ. และรายย่อยซื้อ 370 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,194 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,ADVANC,GULF,KBANK และยอดขายหุ้น KTC,TCAP,KTB,SCB,KKP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,696 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HSHD23,TDEX,JAPAN10001 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 10,486 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 105,425 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 3,285 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.63%, S&P500 +0.52%, Nasdaq +0.47% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +0.98%, การเงิน +0.86% นำขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -0.86%, พลังงาน -0.66% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.42% จากแรงขายหุ้นไบเออร์ -5.3% หลังศาลสูงของสหรัฐของความเห็นจาก ปธน.ทรัมป์ ในกรณีที่ไบเออร์พยายามจำกัดข้อร้องเกี่ยวกับสารก่อมะเร็ง ส่วนกลุ่มธนาคาร -0.3% นำโดยดอยช์แบงก์ -3.2%             
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น หลังแคนาดาได้ถอนการเก็บภาษีดิจิทัลที่เก็บกับบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐออกไป ส่งผลให้สหรัฐ – แคนาดากลับสู่การเจรจาข้อตกลงการค้าอีกครั้ง ขณะที่ รมว.คลังสหรัฐเตือนหากการเจรจาการค้าล้มเหลว บางประเทศอาจถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูง โดยสหรัฐคาดหวังจะสามารถเจรจาข้อตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าหลัก 10 ประเทศได้ทันก่อนเส้นตายวันที่ 9 ก.ค. ส่วนการพิจารณาแผนลดภาษีมูลค่า 5 ลล.ดอลลาร์ของ ปธน.ทรัมป์นั้น ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการอภิปรายของวุฒิสมาชิก ก่อนจะส่งไปยังสภาผู้แทน ฯ และรอการลงนามของ ปธน. ส่วนกลุ่มที่หนุนตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ คือ กลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Apple +2.03% หลังเตรียมนำระบบ Open AI หรือ Anthropic เข้ามาร่วมการปฏิบัตงานของ Siri ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม US PMI/ISM ภาคผลิต & บริการ มิ.ย.
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง ระหว่างรอความคืบหน้าการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – สหภาพยุโรป โดยผู้แทนการค้ายุโรปจะเดินทางไปสหรัฐเพื่อเจรจาในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์คาดรัฐบาลสหรัฐจะขยายเส้นตายในวันที่ 9 ก.ค. ออกไป เพื่อเพิ่มเวลาการเจรจาแบบทวิภาคี ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ CPI เยอรมัน เบื้องต้น มิ.ย. ชะลอตัวอยู่ที่ 0% & พ.ค. 2.1% YoY ส่วนค่ำวันนี้ติดตามข้อมูล PMI ภาคการผลิตยูโรโซน มิ.ย. และ CPI ยูโรโซน เบื้องต้น มิ.ย.
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีนิเกอิ +0.84% ปิดสูงสุดในรอบ 11 เดือน ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานไฟฟ้า & ก๊าซ, สื่อสาร และเหมืองแร่ ขณะที่กลุ่มยานยนต์ญี่ปุ่นปรับลดลงจากความกังวลจะถูกสหรัฐเก็บภาษีนำเข้า ส่วน Kospi เกาหลีใต้วานนี้ +0.52% จากคาดหวังเชิงบวกต่อผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐ ขณะที่ดัชนีเซียงไฮ้วานนี้ +0.59% หลังข้อมูล PMI ภาคผลิตจีน มิ.ย. อยู่ที่ 7 เพิ่มเมื่อเทียบกับ พ.ค. 49.5 แต่ยังอยู่ในโซนถดถอย ส่งผลให้รัฐบาลจีนยังจำเป็นต้องออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมโปลิตบูโร ก.ค. นี้
  • SET วานนี้ +0.66% ปริมาณการซื้อขาย 72 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 115 ลบ. รายยซื้อ 370 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 84 และสถาบันขาย 402 ลบ. โดยดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวตามตลาดหุ้นภูมิภาค หลังนักลงทุนคาดเฟดมีโอกาสลดลงดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ หลังข้อมูล US PCE พ.ค. ปรับขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 2.3% YoY กอปรกับ ปธน.ทรัมป์เผยจะพยายามทำข้อตกลงการค้ากับกลุ่มประเทศคู่ค้าหลัก 10 ประเทศให้ทันภายในเส้นตายวันที่ 9 ก.ค. โดยคณะเจรจาการค้าของไทยจะหารือกับสหรัฐในช่วงค่ำวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งไทยน่าจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่ปฏิบัติดีตามข้อเสนอของสหรัฐ โดยไทยจะหารือการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจเกษตร, อาหาร, เทคโนโลยี รวมถึงการลดภาษี – อุปสรรคการนำเข้าสินค้าสหรัฐ, เพิ่มการนำเข้าพลังงาน และคุมเข้มการสวมสิทธิ์สินค้า ดังนั้นไทยจีงน่าจะมีโอกาสเจรจาภาษีศุลกากรให้ลงมาที่ระดับ 18 – 25% ได้ เพื่อลดอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้าไทย ส่วนกลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ ไอซีที หลัง ADVANC, TRUE ชนะประมูลคลืนในต้นทุนที่ต่ำกว่าเดิม ขณะที่เม็ดเงินบางส่วนเลือกเข้าพักในกลุ่มปลอดภัย เช่น อาหาร, รพ. ประเด็นสำคัญวันนี้ ติดตามศาล รธน.จะพิจารณาคำร้องของ สว.ต่อกรณีจริยธรรมของนายก ฯ ว่าจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่       

Daily Strategy

  • ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,080 – 1,100 ระหว่างรอศาล รธน. พิจารณาคำร้องของ สว.ว่าจะสั่งให้นายก ฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ตามคำร้องประเด็นจริยธรรม และยังรอผลการเจรจาการค้าไทย – สหรัฐในวันที่ 3 ก.ค. ดังนั้นจึงแนะนำ Selective Buy ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการรีบาลานท์ลดน้ำหนัก DELTA ในการคำนวณดัชนี SET 50 เช่น ADVANC,PTT,GULF,AOT,CPALL ลบ.
  • SCC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 170.00 บาท) แนวโน้ม 2Q68 คาดผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นต่อจากปรับขึ้นราคาขายด้วยการลดส่วนลดทางการตลาดและได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่ลดลง ขณะที่อัตรากำไรของธุรกิจปิโตรเคมีดีขึ้นจากต้นทุน naphtha ที่ลดลงตามราคาน้ำมัน รวมถึง SCGP ที่ทยอยฟื้นตัว มีการบันทึกรายได้เงินปันผลตามฤดูกาล และกำไรพิเศษจากการเข้าซื้อกิจการในสิงคโปร์ นอกจากนี้มีประเด็นบวกจาก SCGC ขายหุ้น CAP 10% ส่งผลให้เปลี่ยนสถานะจากบริษัทร่วม เป็นเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งทำให้มีกำไรพิเศษจากการประเมินมูลค่ายุติธรรม และกำไรจากการขายหุ้นเข้ามาอีก สอดคล้องกับแผนลดภาระทางการเงินของบริษัท ไม่ต้องรับส่วนแบ่งขาดทุนจาก CAP เข้ามาในงบ/รอรับเงินปันผลแทน และได้เงินสดกลับมาเสริมสภาพคล่อง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 8 พันล้านบาท +26%YoY และ 2 หมื่นล้านบาท +52%YoY
  • NEO* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 39.16 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 256 ลบ. (-4.5%YoY , +6.7%QoQ) อ่อนตัว YoY จาก GPM ที่ลดลงแม้รายได้ยังเติบโตได้ ส่วนการดำเนินงานช่วงถัดไป คาดว่าต้นทุนจะมีความกดดันน้อยลงตามราคาPalm Kernal Oil ที่ปรับลดลงในเดือนพ.ค.-มิ.ย.68 เทียบต้นปี ด้าน NEO* เอง วางเป้ารายได้ปีนี้ +High Single Digit% วาง CAPEX 2,300-2,500 ลบ. ส่วนกำลังผลิตปีนี้จะสูงขึ้นอีกจากโรงงานสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ซึ่งเสร็จไปเมื่อวันที่ 20 มี.ค.68 เตรียมเปิดใช้งานเต็มรูปแบบภายในปีนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ NEO* จะอยู่ที่ 915 ลบ.(-9%YoY) และ 1,019 ลบ.(+11%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ส.ค.-$0.41 อยู่ที่ $65.11 / บาร์เรล, Brent ส.ค. -$0.16 อยู่ที่ $67.61/บาร์เรล หลังอิหร่าน – อิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิง กอปรกับการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 6 ก.ค. มีโอกาสเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรล/วัน ใน ส.ค.

 

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$20.10 อยู่ที่ $3,307.70 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.54% อยู่ที่ 96.875 โดยสัปดาห์นี้ยังรอประเมินข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐ

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -16.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +3.56 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -22.22 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +2.03 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.222 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -32 จุด อยู่ที่ 1,489

(+) BitCoin เช้านี้ -1.10% อยู่ที่ 107,371 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

30 มิ.ย.     ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค 

(ก.ค.)       

 

 

ต่างประเทศ

30 มิ.ย.     CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (มิ.ย.)

01 ก.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มิ.ย.) 

US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ 

                US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS ( พ.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มิ.ย.)

02 ก.ค.     US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(มิ.ย.)

03 ก.ค.     US วันชาติ - ปิดทำการก่อนกำหนด ณ เวลา 13:00

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US อัตราการว่างงาน (มิ.ย.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.)

US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (มิ.ย.)

US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)

04 ก.ค.     US วันหยุด-วันชาติ

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC*,GULF*

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NAM เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

NAM เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

IND เยี่ยมชมโปรเจคสนามบินอู่ตะเภา

IND เยี่ยมชมโปรเจคสนามบินอู่ตะเภา

ATLAS โรดโชว์นครปฐมคึกคัก-ตอกย้ำศักยภาพการเติบโต

ATLAS โรดโชว์นครปฐมคึกคัก-ตอกย้ำศักยภาพการเติบโต

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้