สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 26 มิถุนายน 2568)-------นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)GUNKUL เปิดเผยว่าบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “GUNKUL”) ขอเรียนให้ทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2568 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทในเครือได้แก่ บริษัท กันกุล วัน เอ็นเนอร์ยี 2 จำกัด ("GOE2") และบริษัท กันกุล โซลาร์ พาวเวอร์เจน จำกัด ("GSPG") ในสัดส่วนร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนของแต่ละบริษัท ให้แก่บริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด ("GULF RE") ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มกัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ("GULF") นั้น บริษัทฯขอเรียนให้ทราบว่าไดดำนินการโอนกรรมสิทธิ์หุ้นใหแก่GULF RE แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 รวมมูลค่าจำหน่ายจ านวน 704 ล้านบาท โดยหลังจากธุรกรรมดังกล่าวบริษัทฯ จะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน GOE2 และ GSPG อยู่ที่ร้อยละ 50
ทั้งนี้GOE2และ GSPG เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จ านวนรวม 9 โครงการ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement: PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ ายผลิตแห่งประเทศไทย คิดเป็นก าลังการผลิตตามสัญญารวม460.8 เมกะวัตต์ ภายใต้รูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2569 – 2573
การดำเนินธุรกรรมดังกล่าว ถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่งระหว่างสองกลุ่มบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านโดยบริษัทฯ มีความช านาญด้านพลังงานทดแทนแบบครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงงานวิศวกรรมก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไฟฟ้าและงานบริการบริหารจัดการโรงไฟฟ้า ในขณะที่ GULF มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ มีศักยภาพด้านเงินทุนและเครือข่ายซัพพลายเชนระดับโลก ทั้งนี้ความร่วมมือดังกล่าวจะเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนร่วมกัน เพิ่มประสิทธิภาพจากขนาดโครงการ (Economiesof Scale) ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนการดำเนินงาน พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศต่อไป
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นดังกล่าว ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการบันทึกบัญชีจากบริษัทย่อยเป็นการร่วมค้า จะช่วยรักษาโครงสร้างเงินทุน (Capital Structure) อัตราส่วน IBD/EBITDA และ IBD/Equity ในระยะยาวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตไม่ว่าจะเป็นโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเติบโตในอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve Growth) ทั้งนี้ การร่วมทุนกับ GULF RE ช่วยให้บริษัทฯสามารถรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างและงานให้บริการที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าดังกล่าวในงบการเงินรวม คิดเป็นมูลค่า Backlogงานก่อสร้างและให้บริการ รวมหลายพันล้านบาทตลอดช่วงปี2568–2573 ส่งผลให้รายได้และกำไรรวมของบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้นในระยะยาวอีกทั้งยังเปิดโอกาสให้บริษัทฯ ได้รับงานก่อสร้างและให้บริการในโครงการพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ ของ GULF REในอนาคต ซึ่งจะเสริมรายได้จากงานก่อสร้างและบริการอย่างต่อเนื่อง
ในด้านผลประโยชน์ที่บริษัทฯ จะได้รับจากเงินสดสุทธิจากการจำหน่ายหุ้นประมาณ 704 ล้านบาทจะช่วยเสริมสภาพคล่องและลดภาระหนี้ระยะสั้น ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมรองรับการลงทุนโครงการใหม่ เพิ่มอัตราผลตอบแทนรวมของพอร์ตจากการบริหารต้นทุนก่อสร้างและอัตราดอกเบี้ยที่ดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจะได้ประโยชน์จากเครือข่ายซัพพลายเชนระดับโลกของ GULF ซึ่งเอื้อต่อการควบคุมต้นทุน รวมถึงการต่อยอดสู่โครงการพลังงานลม และระบบกักเก็บพลังงานในอนาคต พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการด าเนินงานด้วยการใช้ทรัพยากรร่วม (SharedServices) ช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยในทุกโครงการ
เมื่อพิจารณาจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ สำหรับไตรมาส 1/2568 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 ธุรกรรมนี้มีขนาดคิดเป็นร้อยละ 5.140 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมตามเกณฑ์สินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิต่ำกว่าเกณฑ์ร้อยละ 15 บริษัทฯ จึงไม่เข้าเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลการได้มาหรือจ าหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์อย่างไรก็ดีเนื่องจากการจำหน่ายหุ้นครั้งนี้ส่งผลให้บริษัทโครงการ เปลี่ยนสถานะจาก “บริษัทย่อย” เป็น “บริษัทร่วม” ของบริษัทฯอนึ่ง ธุรกรรมดังกล่าวมิใช่รายการที่เกี่ยวโยงกันตามนิยามของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาธุรกรรมดังกล่าวอย่างรอบคอบในทุกมิติแล้วเห็นว่า การจำหน่ายหุ้นครั้งนี้ เป็นกลยุทธ์ส าคัญในการบริหาร “โครงสร้างเงินลงทุน-ต้นทุน-พร้อมรองรับการเติบโต” ของบริษัทฯ ให้สมดุลยิ่งขึ้น ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
คณะกรรมการบริษัทเชื่อมั่นว่าการดำเนินธุรกรรมนี้จะยกระดับการบริหารจัดการสัดส่วนทางการเงิน ลดต้นทุนการดำเนินงาน และรักษาความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทฯ เพื่อรองรับการเติบโตตามวิสัยทัศน์ที่บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้ในการเป็นพาร์ตเนอร์ด้านพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับสูงสุด และสร้างมูลค่าระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกท่านอย่างยั่งยืน
ด้านนางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)GULF เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขอแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบว่าเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 บริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด (“GRE”)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ได้เข้าลงทุนใน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท กันกุล โซลาร์ พาวเวอร์เจนจำกัด (“GSPG”) และบริษัท กันกุล วัน เอ็นเนอร์ยี่ 2 จำกัด (“GOE2”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)(“GUNKUL”) ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100 โดย GRE เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนใน 2 บริษัท รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น
ประมาณ 704 ล้านบาท ขณะที่ GUNKUL ถือหุ้นในสัดส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50
GSPG และ GOE2 เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โดยมีโครงการภายใต้ 2 บริษัทดังกล่าว รวมทั้งสิ้น 9โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวมทั้งสิ้น 460.8 MW โดยแบ่งเป็น solar farmsจ านวน 7 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 410.2 MW และsolar farms with battery energy storage systemsจำนวน 2โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 50.6 MW
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวทั้งหมดได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. เป็นระยะเวลา 25 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีก าหนดเปิดด าเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2569-2573โดยภายหลังจากที่ GRE เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50 ใน 2 บริษัทดังกล่าว ทำให้ GRE มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของของบริษัทฯ (Equity MW) รวมทั้งสิ้น 230.4 MW
การเข้าลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการผนึกความแข็งแกร่งระหว่างสองกลุ่มบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจผลิตไฟฟ้าและการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ ในขณะที่ GUNKUL มีความช านาญด้านพลังงานทดแทนแบบครบวงจรและงานวิศวกรรมก่อสร้าง ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวจะเสริมสร้างศักยภาพในการด าเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของบริษัทร่วมทุน และสนับสนุนเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ภายในปี2578ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประเทศที่มุ่งผลักดันการใช้พลังงานไฟฟ้าสะอาดเพื่อเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและเพิ่มศักยภาพ ในการแข่งขันของประเทศ โดบริษัทฯ มีแผนการขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแบบต่าง ๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังน้ำและพลังงานขยะอุตสาหกรรม ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการดังกล่าว บริษัทฯ จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป