Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

97

 

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม

 


ภาวะ Bear Steepening ที่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 กำลังสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่มากขึ้นด้านวินัยทางการคลัง ปรากฏการณ์ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวพุ่งสูงขึ้นเร็วกว่าระยะสั้นนี้ บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เริ่มสั่นคลอน โดยมีสาเหตุหลักมาจากความกังวลต่องบประมาณรายจ่ายและภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงของรัฐบาล

ความเสี่ยงที่แท้จริงของสหรัฐฯ ในปัจจุบันไม่ใช่การผิดนัดชำระหนี้ แต่คือวิกฤตความเชื่อมั่นที่อาจก่อตัวขึ้น แม้สถานะของสหรัฐฯ จะแตกต่างจากกรณีของกรีซ ในอดีต แต่ความเสี่ยงสำคัญกลับซ่อนอยู่ในจิตวิทยาของตลาด หากความหวาดระแวงต่อการขาดวินัยทางการคลังมีมากขึ้น ก็อาจจุดชนวนให้เกิดการเทขายพันธบัตรครั้งใหญ่ ซึ่งจะผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น สร้างแรงกดดันต่องบประมาณรายจ่าย และทำให้ความกลัวกลายเป็นความจริงในที่สุด (self-fulfilling prophecy) อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ยังมีปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ได้เปรียบเป็นกันชนอยู่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจในการออกมาตรการทางการเงิน การถือครองหนี้สาธารณะโดยสถาบันในประเทศเป็นหลัก และบทบาทของ Fed ในฐานะผู้ซื้อรายสุดท้าย (Lender of Last Resort)


เราคาดการณ์ว่าความตึงเครียดในตลาดพันธบัตรจะมีแนวโน้มคลี่คลายลงในช่วงไตรมาส 4/2025 โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) การส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของ Fed 2) ความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลง ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ และ 3) ความชัดเจนที่เพิ่มขึ้นจากข้อสรุปด้านงบประมาณของรัฐบาลจะช่วยลดความไม่แน่นอน เมื่อภาพรวมต่างๆ ดีขึ้น จึงเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าสะสมพันธบัตรระยะยาวในช่วงที่อัตราผลตอบแทนยังคงอยู่ในระดับสูงน่าดึงดูดใจ



สรุปภาพตลาดวานนี้
หุ้นไทยยังบวกต่อหลังทดสอบต้านแรก โดยเมื่อวานเป็นการรีบาวด์ของกลุ่มในประเทศ AOT TRUE ADVANC CRC CPAXT HMPRO BEM BGRIM BTS STECON เป็นต้น ขณะที่ด้านแรงขายที่เป็นกลุ่มก้อนพบว่าเป็นธนาคาร และหุ้นที่ลงแรงยังลงต่อ XPG BEC (ไม่ได้ฟื้นตาม KTC)

แนวโน้มตลาดวันนี้
ข่าวลบบรรเทา-เบาแรงเดอะแบก
ประเด็นลบหวังว่าจะบรรเทา แม้ข่าวบวกยังไม่เด่นชัดช่วงนี้ แต่อย่างน้อยหุ้นไทยน่าจะลุ้นรีบาวด์จากแรงซื้อคืนต่อไปได้อีกระยะ
และเราคง คาดแรงซื้อคืนจากฝั่ง นลท.สถาบัน ที่ขายแรงไปไม่กี่วันก่อนหน้านี้ กว่า 6 พันล้านบาท แถวดัชนีฯต้นทุน 1120 จุด แรงซื้อคืน น่าจะหนุนตลาดหุ้นไทยไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่เมื่อพ้น 1120 จุด ไปแล้วแรงซื้อคืน น่าจะเริ่มแผ่วลง (คาดกองทุนชะลอซื้อเมื่อราคาสูงเกินจุดที่ขายไปก่อนหน้า) เพื่อรอประเมินสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง เช่น รอติดตามการเมืองในประเทศ, ท่าทีของอิสราเอลและอิหร่าน ต่อคำสั่งยุติสงคราม จาก ปธน.ทรัมป์...
ส่วนปัจจัยบวก จากประเด็นข่าวในประเทศ จะเห็นได้ว่ามีอิทธิพลต่อราคาหุ้นจำกัด ยกตัวอย่าง โครงการเที่ยวคนละครึ่งแต่เม็ดเงินอุดหนุนน้อยกว่าในอดีต, ลดหย่อนภาษีติดตั้งโซลาร์ แต่หุ้นกลุ่มโซลาร์ไม่มีแรงซื้อ, รถมือสองแลกรถใหม่ แต่หุ้นยานยนต์ หุ้นขายรถยนต์ ก็ไม่ขึ้น
ดังนั้นเราจึงยังไม่รีบเข้าเล่นหุ้น ตามกระแส โดยเลือกกอดหุ้นปันผลต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ถือหุ้นปันผล

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET Index ขึ้นต่อ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 2 วัน +4.2% ขณะที่ผลตอบแทน YTD -19% (ติดลบน้อยลง) โมเมนตัมตลาดระยะสั้นกำลังฟื้นตัวขึ้นจากภาวะ oversold กลับขึ้นสู่โหมดปรกติ เป็นไปตามรูปแบบ price pattern “Double bottom” แม่นยำ! นอกจากนี้วอลุ่มตลาดปรับขึ้นมาอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท “ตลาดขึ้น โมเมนตัมมา วอลุ่มแน่น” บ่งชี้สัญญาณกลับตัวและมีโอกาสขึ้น test แนวต้านถัดไป 1,125 จุด (EMA 25 วัน) ลุ้น Hattrick เชียว 3 วันติด! ไฮไลท์แผนเทรดทำไมหุ้นโรงแรม…ฟื้น! กองทุนในปท. เริ่มซื้อดุดัน…เพราะเหตุใด! ขณะที่ต่างชาติ net buy ช่วยอีกแรง ไปติดตามรายละเอียดกันครับ
(อ่านต่อหน้า 11)


What to watch
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า จีนสามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไป ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า สหรัฐกำลังผ่อนคลายนโยบายกดดันต่ออิหร่าน หลังมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับอิสราเอล
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ขู่ไว้ในเดือนพ.ค.ว่า ประเทศใดที่ซื้อน้ำมันจากอิหร่านจะถูกห้ามทำธุรกิจกับสหรัฐ
ติดตามการเมืองในประเทศ การปรับ ครม. และคดีสำคัญ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกเลิกมาตรการจำกัดเพดาน Ceiling floors
นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และนโยบายการเงินของเฟด
ร่างแถลงการณ์ระบุว่า นายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดไม่ได้เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อ และเฟดกำลังจับตาทิศทางเศรษฐกิจก่อนที่จะพิจารณาการปรับนโยบายของเฟด
การประชุม กนง. 25 มิ.ย. // ตลาดเริ่มคาดการณ์ลดดอกเบี้ย
ครม.เคาะดีเดย์ เที่ยวไทย คนละครึ่ง เริ่มใช้สิทธิ์เที่ยวได้ 1 ก.ค.นี้

หุ้นแนะนำวันนี้
PTT แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 เติบโตดี และปันผลสูง
แนวรับ 29.75 ต้าน 31 Stop loss 29

 

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Wealth Insight

ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ เริ่มมีความตึงเครียดสะสม
ภาวะ Bear Steepening ที่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 กำลังสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่มากขึ้นด้านวินัยทางการคลัง ปรากฏการณ์ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวพุ่งสูงขึ้นเร็วกว่าระยะสั้นนี้ บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เริ่มสั่นคลอน โดยมีสาเหตุหลักมาจากความกังวลต่องบประมาณรายจ่ายและภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงของรัฐบาล
ความเสี่ยงที่แท้จริงของสหรัฐฯ ในปัจจุบันไม่ใช่การผิดนัดชำระหนี้ แต่คือวิกฤตความเชื่อมั่นที่อาจก่อตัวขึ้น แม้สถานะของสหรัฐฯ จะแตกต่างจากกรณีของกรีซในอดีต แต่ความเสี่ยงสำคัญกลับซ่อนอยู่ในจิตวิทยาของตลาด หากความหวาดระแวงต่อการขาดวินัยทางการคลังมีมากขึ้น ก็อาจจุดชนวนให้เกิดการเทขายพันธบัตรครั้งใหญ่ ซึ่งจะผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น สร้างแรงกดดันต่องบประมาณรายจ่าย และทำให้ความกลัวกลายเป็นความจริงในที่สุด (self-fulfilling prphecy) อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ยังมีปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ได้เปรียบเป็นกันชนอยู่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจในการออกมาตรการทางการเงิน การถือครองหนี้สาธารณะโดยสถาบันในประเทศเป็นหลัก และบทบาทของ Fed ในฐานะผู้ซื้อรายสุดท้าย (Lender of Last Resort)
เราคาดการณ์ว่าความตึงเครียดในตลาดพันธบัตรจะมีแนวโน้มคลี่คลายลงในช่วงไตรมาส 4/2025 โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) การส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของ Fed 2) ความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลง ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ และ 3) ความชัดเจนที่เพิ่มขึ้นจากข้อสรุปด้านงบประมาณของรัฐบาลจะช่วยลดความไม่แน่นอน เมื่อภาพรวมต่างๆดีขึ้น จึงเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าสะสมพันธบัตรระยะยาวในช่วงที่อัตราผลตอบแทนยังคงอยู่ในระดับสูงน่าดึงดูดใจ

 


Auto Sector

การฟื้นตัวยังช้า
หลังจากการผลิตและยอดขายรถยนต์ในประเทศซบเซามานาน ล่าสุดในเดือน พ.ค. เริ่มเห็นการฟื้นตัว โดยยอดผลิตเพิ่มขึ้น 10.3% YoY และ 33.5% MoM โดยเฉพาะการผลิต BEV (+641% YoY)และ PHEV (+130.5% YoY) ที่หนุนโดยยอดขายในประเทศกลับมาโต 4.7% YoY นำโดยกลุ่ม BEV (+118.6%) และ PHEV (+234.7%) แต่รถกระบะยังติดลบถึง -24.8% YoY และส่งออกยังลดลง -9.2% YoY
แม้แนวโน้มเริ่มดีขึ้น แต่การฟื้นตัวคาดว่าจะช้า จากหลายปัจจัยที่ยังเป็นข้อจำกัด ทั้งเศรษฐกิจโดยรวมยังเปราะบาง สินเชื่อยังเข้าถึงยาก และนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับ EV และการส่งออกยังไม่ชัดเจน ความเสี่ยงเพิ่มเติมคือการล้มละลายของแบรนด์ EV อย่าง NETA ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นและคำสั่งซื้อ
อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็น valuation ที่น่าสนใจในบางตัว เช่น SAT เทรดที่ PER ปี 2025 ที่ 7.3x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว และให้ Dividend yield สูงถึง 12% โดยมีรายได้จากอุปกรณ์การเกษตรหนุนกำไร ขณะที่ AH เทรดที่ PER เพียง 6.1x และแม้ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายจะกดดัน แต่ฐานรายได้กระจายหลายประเทศและเริ่มฟื้นตัว
Fundamental view: เรายังไม่คาดหวังการฟื้นตัวแรงในระยะสั้น แต่หากเศรษฐกิจและนโยบาย EV มีทิศทางชัดเจนขึ้น จึงจะมีโอกาสเห็นการ Re-rating Valuation ของ AH และ SAT

 

GUNKUL
กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง
เข้าฤดู “ตกปลาที่ก้นบ่อ”
แม้แนวโน้มกำไรยังอ่อนใน 2Q–3Q25 จากรายได้ EPC ที่ลดลง อัตราค่า Ft ที่ต่ำ และผลผลิตไฟฟ้าลมที่น้อยลง โดยคาดกำไรหลัก 2Q25 อยู่ที่ 367 ล้านบาท (-21% YoY, -6% QoQ) และ 3Q25 คาดว่าจะทรงตัว QoQ แต่ลดลง 20% YoY
อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังของปีมีโอกาสพลิกบวกจากการลุ้นคว้างาน EPC ขนาดใหญ่รวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการสายส่งใต้น้ำ 230kV ไปเกาะสมุย (7 พันล้านบาท) ใน 3Q25 และโครงการไฟฟ้าชุมชนบนเกาะ 12 แห่ง (4 พันล้านบาท) ใน 4Q25 ซึ่งหากชนะประมูลจะหนุน backlog รองรับกำไรปี 2026
โดยปี 2026 จะเป็นปีแห่งการฟื้นตัว โดยคาดกำไรหลักเติบโต 26% สู่ 1.68 พันล้านบาท จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าโซลาร์ใหม่ 184MW (หนุนกำลังผลิต +25% YoY) และ EPC ที่ฟื้นตัวดังกล่าว อีกทั้งการร่วมมือกับ Sungrow ผู้จัดจำหน่ายแบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์ จะเป็นอีกแรงส่งในธุรกิจพลังงานสะอาด
Fundamental view: แม้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2025 ลง 7% เหลือ 1.33 พันล้านบาท (-22% YoY) และลดราคาเป้าหมายเหลือ 4 บาท แต่หุ้นยังน่าสะสมจาก Valuation ที่ถูก (PER 2025 เพียง 9.5x) และ Div yield ราว 6.4% และแนวโน้มการฟื้นตัวแกร่งดังกล่าว เราจึงคงคำแนะนำซื้อ


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

PTG ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ: รับมอบประกาศนียบัตร Carbon Footprint ตอกย้ำวิสัยทัศน์ "อยู่ดี มีสุข"

PTG ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ: รับมอบประกาศนียบัตร Carbon Footprint ตอกย้ำวิสัยทัศน์ "อยู่ดี มีสุข"

ไปต่อ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย เห็นตลาดหุ้นไทย ไปต่อ ตามแรงซื้อ หุ้นใหญ่หลายตัว ขยับปรับตัวขึ้น ไปต่อ ด้วยตัวแปรเชิงลบใหม่.....

(เพิ่มเติม) ดิ้นต่อ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ นักลงทุน คงต้องดิ้นรนกันต่อไป เพื่อส่งสัญญาณชีพ สัญญาณชีวิต ต่อสู้ต่อ ด้วย...

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้