Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

79

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 23 มิ.ย.68 ปิด -4.85 จุด อยู่ที่ 1,062.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 32,506 ลบ. สถาบันขาย 400 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 409 ลบ. รายย่อยขาย 102 ลบ. และต่างชาติซื้อ 913 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 137 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น GULF,ADVANC,CPALL,KTC,BTS และยอดขายหุ้น PTTEP,DELTA,KBANK,AOT,CPN มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,245 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TDEX,QH,IVL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3,638 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 91,348 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,319 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.89%, S&P500 +0.96%, Nasdaq +0.94% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +1.75%, อสังหาฯ +1.49% ขณะที่กลุ่มพลังงาน -2.51% หลังเจ้าหน้าที่เฟด 2 ท่าน ให้ความเห็นหนุนเฟดลดดอกเบี้ยในการประชุม ก.ค. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.28% จากแรงขายกลุ่มประกันภัย -1%, การบิน & กลาโหม -0.7% ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี +1% โดยนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง       

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น ได้ปัจจัยหนุนจากความเห็นของมิเชล โบว์แมน คณะกรรมการเฟดชี้เงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มลดลงสู่เป้าหมายที่ 2% กอปรกับนโยบายการค้ามีผลกระทบน้อยต่อเงินเฟ้อ จึงหนุนให้เฟดลดดอกเบี้ยใน ก.ค. เพื่อรักษาสมดุลในตลาดแรงงานสหรัฐ ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่ม Growth ของสหรัฐ ขณะที่เช้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้เปิดเผยข้อมูลผ่าน Truth Social ว่าอิสราเอล – อิหร่านตกลงหยุดยิง ซึ่งถือว่าเป็นการยุติสงคราม 12 วัน ส่งผลให้ DJIA Futures เช้านี้ +0.44% และ WTI Futures -3.6% ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ วันอังคาร – พุธ ติดตามปธ.เฟดจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส,วันพฤหัส US GDP Q1/68 และวันศุกร์ US PCE พ.ค.คาด 2.5% & เม.ย. 2.6% YoY  
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ Stoxx600 -0.28% จากความกังวลภาวะสงครามอิสราเอล – อิหร่านอาจมีการปิดช่องฮอร์มุช แต่อิหร่านเลือกปฏิบัติการโจมตีฐานทัพสหรัฐในกาตาร์เท่านั้น ถือว่าเป็นการตอบโต้ในเชิงสัญลักษณ์ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ PMI รวมภาคผลิต & บริการยูโรโซน มิ.ย. ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 50.2 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยนักลงทุนยังรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – อียู ก่อนจะถึงเส้นตายในวันที่ 8 ก.ค.
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.65%, ฮั่งเส็ง +0.67% โดยนักลงทุนรอการประชุม NPC ของจีน ในการออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อลดกระทบจาก ม.ภาษีของสหรัฐ ขณะที่ดัชนีนิเกอิ -0.13% แม้ว่า PMI ภาคการผลิตญี่ปุ่น มิ.ย.อยู่ที่ 50.4 ดีกว่าคาดที่ 49.5 สูงสุดในรอบ 11 เดือน แต่นักลงทุนยังรอประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง สัปดาห์นี้วันศุกร์ติดตาม Tokyo Core CPI มิ.ย. คาด 3.4% & พ.ค. 3.6% YoY
  • SET -0.45% ปริมาณการซื้อขาย 25 หมื่น ลบ สถาบันขาย 400 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 409 ลบ. รายย่อยขาย 102 ลบ. และต่างชาติซื้อ 913 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากความกังวลต่อภาวะสงครามอิสราเอล – อิหร่าน มีความเสี่ยงที่อาจจะปิดช่องฮอร์มุช ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับสูงขึ้น และเป็นผลลบต่อกำไร บจ.ไทย  ดังนั้นทาง ตลท. จึงออกมาตรการปรับลด Ceiling/Floor จาก 30% เหลือ 15% ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 23 – 27 มิ.ย. เพื่อช่วยลดความผันผวนของดัชนี โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับลดลง คือ กลุ่มไฟแนนท์ -5.38% จากแรงชาย KTC ปิดฟลอร์ ซึ่งมาจากการบังคับขายในบัญชีมาร์จิ้น ที่มีการนำหุ้น KTC มาเป็นหลักประกันสูงถึง 16.3% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ขณะที่กลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ กลุ่มปลอดภัย เช่น ประกัน, ไอซีที และค้าปลีก โดยภาวะการซื้อขายวันนี้คาดจะฟื้นตัว จากข่าวการหยุดยิงระหว่างอิสราเอล – อิหร่าน กอปรแรงกดดันจากการเมืองในประเทศเริ่มลดลง หลังกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้บริหารประเทศต่อ และอยู่ระหว่างรอการปรับ ครม. ส่วนประเด็นเศรษฐกิจวันนี้ รมว.คลังจะแถลงรายละเอียด ม.กระตุ้นเศรษฐกิจไทย และวันพรุ่งนี้ติดตามผลการประชุม กนง. ซึ่งคาดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75%         

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,160 แนวต้าน 1,185 คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว หลังอิสราเอล – อิหร่านประกาศหยุดยิง กอปรกับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศก็เริ่มลดลง แนะนำซื้อเก็งกำไร GULF,GSPC,SCC,AOT,AAV,BA ที่คาดได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มลดลง
  • CENTEL* (ทยอยซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 36.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q68-3Q68 จะอ่อนตัว QoQ ลงตามปัจจัยฤดูกาลที่เข้าช่วง low season ท่องเที่ยวไทยและมัลดีฟส์ แต่คาดยังเห็นการเติบโต YoY จากธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่น และโรงแรมพัทยาและภูเก็ตกลับมาเปิดหลังรีโนเวต ภาพรวมปี 68 บริษัทวางเป้ารายได้ธุรกิจโรงแรม +17-20%YoY เป็น 3 หมื่นล้านบาท โดยมี RevPAR ที่ 4.3-4.6 พันบาท ส่วนธุรกิจอาหารรายได้ +4-6%YoY เป็น 1.35-1.4 หมื่นล้านบาท และเน้นการขยายผ่าน JV ที่มีอัตรากำไรดีอย่าง Shinkanzen ทั้งนี้คาดราคาลงมาตอบรับปัจจัยลบเรื่อง low season จำนวนนักท่องเที่ยวจีน และแผ่นดินไหวไปแล้ว ล่าสุดนักท่องเที่ยวในเดือน มิ.ย.-ก.ค.มีโอกาสฟื้นตัว MoM ตามสถิติย้อนหลัง โดยตลาดคาดกำไรปี 68-69 ไว้ที่ 1.94 พันล้านบาท (+10%YoY) และ 2.23 พันล้านบาท (+15%YoY)

SKR (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย 10.30 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 207 ลบ. (-13% YoY, +1066% QoQ) ภาพ YoY อ่อนตัวจากรายได้ที่ลดลงในส่วนของการรักษาโรคยากที่ซับซ้อนด้วยการผ่าตัด(ลดลงจากกลุ่มลูกค้าประกันสังคมโครงการ MOU ปรับลดจำนวนกลุ่มโรค จากเดิม 5 กลุ่มโรค เหลือเพียง 2 กลุ่มโรค) ส่วน 2Q68 คาดการดำเนินงาน QoQ ถูกกดดันจาก Low Season อย่างไรก็ตาม 3Q68 จะเข้าสู High Season แล้ว และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการกลับมาของรายได้การผ่าตัดเย็บกระเพาะที่ SSO มีเกณฑ์ใหม่(ท้ายปี67) คือให้รักษาทางเลือกก่อน 6 เดือน ถึงจะให้ผ่าได้

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ส.ค.-$5.33 อยู่ที่ $68.51 / บาร์เรล, Brent ส.ค. -$5.53 อยู่ที่ $71.48/บาร์เรล หลังอิหร่านยังไม่ได้ปิดช่องแคบฮอร์มุช และเลือกที่จะโจมตีฐานทัพสหรัฐในกาตาร์แทน ขณะที่เช้านี้ ปธน.ทรัมป์เผยอิสราเอล – อิหร่านประกาศหยุดยิง และยุติสงคราม 12 วัน ส่งผลให้เช้านี้ WTI Futures -3.18% อยู่ที่ $66.30/บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$9.30 อยู่ที่ $3,395 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.3% อยู่ที่ 98.411 ขณะที่ Gold Spot เช้านี้ -0.51% อยู่ที่ $3,350/ออนซ์ หลังอิสราเอล – อิหร่านประกาศหยุดยิง

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +12.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +27.65 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -16.79 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +1.87 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.345 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -15 จุด อยู่ที่ 1,674

(+) BitCoin เช้านี้ +3.91% อยู่ที่ 105,065 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

25 มิ.ย.     ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/68

30 มิ.ย.     ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม 

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค     

 

 

ต่างประเทศ

23 มิ.ย.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มิ.ย.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.) 

                US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( พ.ค.)

24 มิ.ย.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (มิ.ย.)

US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ 

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

25 มิ.ย.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1)

27 มิ.ย.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( พ.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: AURA*, MONO*, PR9*, PTTEP, IVL*

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NAM ผนึกกลุ่ม PRINC ลุยขยายธุรกิจ Serviso ทั่วประเทศ

NAM ผนึกกลุ่ม PRINC ลุยขยายธุรกิจ Serviso ทั่วประเทศ

บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC จัดเต็มโรดโชว์ จ.นครปฐม เดินหน้าเข้าเทรดใน SET ปีนี้ เตรียมเสนอขายหุ้น 79 ล้านหุ้น

บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC จัดเต็มโรดโชว์ จ.นครปฐม เดินหน้าเข้าเทรดใน SET ปีนี้ เตรียมเสนอขายหุ้น 79 ล้านหุ้น

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้