Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

135

 

 

 

สรุปภาพตลาดวานนี้

หุ้นไทย Ok // not ok บวกก็เหมือนไม่บวก เพราะเป็นการนำของ DELTA เป็นหลัก แถวปริมาณการซื้อขายยังเบาบาง เรียกว่าที่เหลือ เจ๊ากันเอง อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีหุ้นที่บวกแรงได้ตื่นเต้น เช่น BCH SCGP SCC แต่ก็มีหุ้นถูกทิ้งหนัก SAWAD BCP เป็นต้น ขณะที่ IPO น้องใหม่ NUT เข้ามาวันแรกปิดลบ

แนวโน้มตลาดวันนี้

HOLD! (ในที่สุดก็สะกดถูกแล้ว)
อย่าเพิ่ง หมดหวัง เราคงประเมินว่าหุ้นไทยรายตัวจะสร้างฐาน และ ฟื้นตัวกลับมาได้อีกรอบ หลังจากการปรับฐานครั้งนี้ผ่านไป เพราะเมื่อหมดข้ออ้าง “ให้รอ” ทั้งเรื่องการเมืองในประเทศ เช่น คดีอดีตนายกทักษิณ ศุกร์-เสาร์นี้ รู้เรื่อง! แต่วันนี้ นลท.สายการเมืองอาจ เริ่มเดาแนวทางคดี ผ่านมติแพทย์สภาฯ ที่จะลงคะแนนเสียง อาจโหวต สวน รมต.สาธารณะสุข...

ส่วนเรื่อง การปรับ ครม., กรณีพิพาทกับ กัมพูชา เรามองผลกระทบจำกัดต่อตลาดหุ้นไทย ตลอดจน ประเด็น “เทรดวอร์” ซึ่งคาดว่าไทยน่าจะปิดดีลกับสหรัฐฯได้ และ ระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ ก็ควรจะได้ปิดดีลเร็วขึ้น จากแนวทางการเจรจา ที่เราอิงจากสหรัฐฯ และจีน ล่าสุด โดยคาดว่าไทย-สหรัฐฯจะปิดดีลทันเส้นตาย ต้นเดือนหน้า
กลยุทธ์เราคงคำแนะนำ ทนถือหุ้นที่พาเข้าไปก่อนหน้านี้ไว้ก่อน แม้ราคาหุ้นเช่น BGRIM GPSC จะย่อลงบ้าง รวมถึงหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ตัวอื่นด้วย

กลยุทธ์การลงทุน


กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร เล่นรอบ เน้นไปที่หุ้น 1Q25 ส่อแววผ่านจุดต่ำสุด และเริ่มจะเห็นสัญญาณของการฟื้นตัว เช่นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ดัชนีเข้าโหมดสร้างฐาน เกาะเส้น EMA 5 วัน ออกข้าง..เริ่มทำค่าเฉลี่ยขึ้นทีละนิดๆ ขณะที่ RSI มิเตอร์วัดพลัง ล่าสุดตัดเส้น signal line……สำเร็จบ่งชี้ความแข็งแกร่งมาแล้ว หากดัชนีทะลุเส้นกด 1,140 จุด จะมีโอกาสขึ้นไปถึงโซนต้านถัดไป 1,175 จุด (EMA 25 วัน) ในแง่ความเสี่ยง downside risk ลงมาปิด gap บริเวณ 1,100-1120 จุด เริ่มน้อยลงๆ.... อย่างไรก็ตามดัชนีอาจจะยังไม่รีบร้อนขึ้น รอปัจจัยหนุน รอความชัดเจนทั้งปัจจัยภายในและตปท. ขอลุ้นข่าวดี หนุนตลาดติดเครื่องให้ได้เสียที…สัปดาห์นี้รู้กัน Theme play: US-China trade negotiation….หุ้นไหนขึ้นเด่นสุด ขณะที่ตัว TOP สู้ได้ตามแผน มีอยู่ถือต่อครับ

 

 

 

 


What to watch
ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ นัดไต่สวนคดีภาษีทรัมป์ 31 ก.ค. ระหว่างนี้ยังมีผลบังคับใช้ได้ /ศาลอุทธรณ์กลางในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีคำสั่งล่าสุดว่า ภาษีนำเข้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เคยประกาศใช้ จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปในระหว่างที่การอุทธรณ์คำตัดสินของศาลชั้นต้นกำลังดำเนินอยู่
แม้ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้ตัดสินว่าภาษีเหล่านี้มีความชอบด้วยกฎหมายภายใต้กฎหมาย IEEPA ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจพิเศษทางเศรษฐกิจในภาวะฉุกเฉินระดับนานาชาติ แต่ศาลก็เห็นควรให้ภาษีดังกล่าวยังคงมีผลบังคับใช้ในระหว่างที่การพิจารณาคดียังไม่แล้วเสร็จ
คาดหุ้นติดโผ SET50 รอบใหม่ BCP KKP TCAP TIDLOR หุ้นออก BGRIM GLOBAL ITC SAWAD // ส่วน SET100 หุ้นเข้า AURA JTS MBK TFG TOA WHAUP หุ้นออก CKP COCOCO ROJNA SAPPE SKY SNNP
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยข่าวดีล่าสุดว่าขณะนี้ประเทศสหรัฐฯ ได้ตอบรับอย่างเป็นทางการแล้ว ที่จะเริ่มเจรจากับประเทศไทยเรื่องมาตรการภาษี และการค้าระหว่างสองฝ่าย

สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุฉันทามติด้านการค้าแล้ว โดยตัวแทนจากทั้งสองฝ่ายเปิดเผยหลังการเจรจาระดับสูงเป็นวันที่สองในกรุงลอนดอน
โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า "เราได้บรรลุกรอบความร่วมมือในการดำเนินการตามฉันทามติที่ได้จากการประชุมที่เจนีวา และจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีทั้งสองประเทศแล้ว"

ลุตนิกกล่าวว่า "เขาและเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จะเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อให้แน่ใจว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะอนุมัติกรอบข้อตกลงนี้ และหากสี จิ้นผิง ผู้นำจีนอนุมัติเช่นกัน เราก็จะดำเนินการตามกรอบข้อตกลงนี้

สหรัฐฯ ได้แสดงความพร้อมที่ผ่อนคลายข้อจำกัดในการส่งออกเทคโนโลยี หากจีนยอมลดข้อจำกัดในการส่งออกแร่หายากซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญที่ใช้ในผลิตภัณฑ์พลังงาน อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น สมาร์ตโฟน เครื่องบินขับไล่ และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ โดยจีนเป็นผู้ผลิตแร่หายากเกือบ 70% ของตลาดโลก

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการแก้ไขหลักเกณฑ์เพื่อให้ผู้ให้บริการ "พิโกไฟแนนซ์" สามารถปล่อยกู้ข้ามจังหวัดได้ หรือปล่อยกู้ได้ในหลายจังหวัด เพื่อทำให้เกิดการกระจายของการให้บริการพิโกไฟแนนซ์ได้มากยิ่งขึ้น และลดข้อจำกัดในการกระจายสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้มากขึ้น เนื่องจากปัญหาของประเทศไทยในปัจจุบันคือ ไม่สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้อย่างมีศักยภาพ ดังนั้นอะไรที่เป็นข้อจำกัด ก็ควรจะมีการทบทวนเพื่อให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น
ประกาศ ตลท.ห้าม HFT (โรบอท) ซื้อขายหุ้นนอก SET100 เริ่ม 7 ก.ค.นี้

หุ้นแนะนำวันนี้

GPSC เล่นรับโอกาสลงทุนผ่านงานเสวนาฯ เจาะลึกอนาคตธุรกิจโรงไฟฟ้าไทย กับ BLS Research
แนวรับ 32 ต้าน 34.5 Stop loss 31

 

 

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Healthcare Sector
ประกันสังคมขยายการันตีโรคค่าใช้จ่ายสูง และส่งสัญญาณเพิ่มอีก
เมื่อวานบอร์ดประกันสังคมฯ ประกาศขยายเวลาการจ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่มีความซับซ้อนสูง (Adj.RW ≥ 2) ในอัตรา 12,000 บาท/Adj.RW ต่อไปอีก 6 เดือน หรือเรียกว่าค้ำประกันรายได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งถือเป็นข่าวดีต่อกลุ่มโรงพยาบาลโดยเฉพาะ BCH CHG และ BDMS หากดูรายได้ประกันสังคมของ BCH สูงที่สุดที่ 35% ตามมาด้วย CHG ที่ 30% และ BDMS ที่ไม่ถึง 5%
การที่ประกันสังคมออกมาค้ำประกันแบบนี้ ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการตั้งสำรองหายไป ดังนั้น ด้วยราคาปัจจุบัน เรามองว่า downside จำกัดมาก
มองต่อไปข้างหน้า เรามองว่าประกันสังคมไม่ได้มีการปรับค่าใช้จ่ายรายหัว ของกลุ่มการรักษาดังกล่าวมานานกว่า 5 ปีแล้ว ดังนั้น ปี 2026 เราประเมินเบื้องต้นว่ามีโอกาสที่จะเห็นการปรับการจ่ายเงินส่วนนี้มากขึ้น นอกจากไม่ต้องกังวล Downside อีกต่อไป แต่จะมี upside จากส่วนนี้อีกด้วย เช่น มีโอกาสการจ่ายเงินเพิ่มเป็น 13,000-14,000 บาท/Adj.RW
Fundamental view: เรามองว่าผู้เล่นที่จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในเรื่องประกันสังคม คือ BCH และยังคงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมาย 18.5 บาท

BANK Sector
ประเด็น ลบ มีน้ำหนักกว่า บวก
เราประเมินว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะเผชิญแรงท้าทาย ทั้งในด้านของคุณภาพสินทรัพย์และ NIM ใน 2H25 โดยในกลุ่มธนาคาร เราแนะนำ “ซื้อ” เพียง BBL และ KTB เพราะมีสัดส่วนลูกค้ารายใหญ่และรัฐบาลมาก อีกทั้ง ยังมี loan-loss coverage ratio สูง ทำให้เรามองว่าน่าจะบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ ทั้งนี้ เราให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคาร “น้อยกว่าตลาด” จาก 3 เหตุผล ได้แก่
1) แนวโน้มเศรษฐกิจใน 2H25 จะอ่อนแอกว่า 1H25 ซึ่งเราก็ไปศึกษาข้อมูลในอดีตตั้งแต่ 1Q16-1Q25 พบว่าทิศทาง NPLs/loans ratio ของธนาคารพาณิชย์ไทยและทิศทาง GDP growth ของไทย มี correlation ติดลบ 40% ซึ่งก็สะท้อนได้ว่าคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ไทยมักจะอ่อนแอลงในช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแอ
2) ทิศทาง bond yield 1 ปี ล่าสุดอยู่ที่ 1.52% ปรับลดลง 10bps เมื่อเทียบกับวันที่ 30 เม.ย. ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดดอกเบี้ยรอบก่อน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดประเมินว่า ธปท. มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลง 25bps ในการประชุมกนง. ในวันที่ 25 มิ.ย. นี้ หรืออาจจะเป็นการประชุมในรอบถัดไป ซึ่งก็สอดคล้องกับมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ของเรา ซึ่งจะกดดัน NIM ของกลุ่มแบงก์ใน 2H25 และ
3) เราคาดกำไรกลุ่มธนาคารที่เราศึกษาจะลดลง 7% YoY ในปี 2025 กดดันจาก NIM ที่อ่อนตัวลง 30bps โดยประมาณการกำไรปี 2025 ของเราต่ำกว่าประมาณการของตลาดอยู่ราว 6% ทำให้เรามองว่ามีความเสี่ยงที่ตลาดจะปรับลดประมาณการกำไรกลุ่มธนาคารลงได้ในช่วง 2H25

 

 

 

PLANB
แพลน บี มีเดีย
I’m OK // Not OK
การเปลี่ยนแปลงดีลเข้าซื้อ HELLO LED ของ PLANB เป็นความเข้าใจที่แยกกันเติบโตก่อนในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย โดยขยายกรอบเวลาการเข้าซื้อหุ้น 50% จาก ROCTEC ออกไปเป็น ส.ค. 2027 (จากเดิม ส.ค. 2025) พร้อมจ่ายเงินมัดจำ 240 ล้านบาทเป็น 10 งวด ภายใต้โครงสร้างใหม่ PLANB จะรับรู้กำไรจาก HELLO ครึ่งหนึ่งก่อน (ประมาณ 100 ลบ./ปี จากเดิม 130 ลบ./ปี หากรวมเต็ม) แต่ไม่ต้องกู้เงินคงสถานะไม่มีหนี้ เพราะใช้เงินสดจาก PP ที่ VGI และ Win Harvest (ผู้ถือหุ้นเดิม HELLO) ลงทุนในราคาหุ้น 7 บาท ซึ่งเรามองว่าเป็นจังหวะดีในการรักษาเงินสดท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจไม่แน่นอน
แนวโน้ม 2Q25 ภาพเศรษฐกิจยังกดดันแต่ได้แรงหนุนจากคอลัมน์ BTS เต็มไตรมาส และรายได้บริหารสินทรัพย์จาก VGI 2 เดือน อย่างไรก็ตาม รายได้ BNK และมวยอาจลดลง QoQ คาดกำไร 2Q25 ทรงตัวหรือโต YoY เล็กน้อย
Fundamental view: โครงสร้างดีลใหม่ช่วยลดความเสี่ยงด้านหนี้ และยังคง upside จาก HELLO ในระยะถัดไป เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยให้จับตาการปิดดีล PP กับ VGI ใน ก.ค. เป็น key catalyst สำคัญ


สรุปประเด็นจาก Quick take

SCC
ปูนซิเมนต์ไทย

การปรับสถานะการลงทุนใน CAP
SCGC ซึ่ง SCC ถือหุ้นทั้งหมด จะปรับสถานะการลงทุนใน PT Chandra Asri Pacific Tbk (CAP) ที่ SCGC ถือหุ้นในสัดส่วน 30.57% จากเดิมที่เป็นบริษัทร่วม (Associated Company) เป็นการลงทุนอื่น (Other Investments)
View from fundamental: ข่าวดังกล่าวน่าจะเป็น positive sentiment ต่อราคาหุ้น นอกจากนั้นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่มีแนวโน้มผ่อนคลายลงน่าจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่ม commodity-linked รวมถึง SCC ให้ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง

 


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ศุกร์13 By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม วันนี้ การเมืองในประเทศ รุมเร้า แถม ศุกร์13ด้วย ผนวก สถานการณ์ตะวันออกกลาง ส่อแวว ระอุ วันนี้ ไม่มีอะไรดี...

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้