Market Wrap-Up
- SET วันที่ 11 มิ.ย.68 ปิด +2.42 จุด อยู่ที่ 1,141.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 26,216 ลบ. สถาบันขาย 1 ลบ.ต่างชาติขาย 234 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 23 ลบ. และรายย่อยซื้อ 257 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 579 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น CPF,PTTEP,BBL,SCC,PTT และยอดขายหุ้น KBANK,MINT,CPALL,BDMS,TRUE มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,282 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HKCE01,JAPAN10001,HMPRO โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 2,588 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 49,114 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,928 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.00%, S&P500 -0.27%, Nasdaq -0.50% ถูกแรงชายจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -1.02%,วัสดุ -0.98% ขณะที่กลุ่มพลังงาน +1.49% จากความกังวลต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง แม้ว่า US CPI พ.ค. จะออกมาต่ำกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.27% จากแรงชายกลุ่มค้าปลีก -1.7% จากแรงขายหุ้น Inditex เจ้าของแบรนด์ Zara -4.4% หลังยอดขายใน Q1/68 ต่ำกว่าคาด
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง แม้ว่าช่วงเปิดตลาดจะปรับขึ้นรับข่าวบวกสหรัฐ – จีนสามารถตกลงกรอบการเจรจาข้อตกลงการค้า โดยสหรัฐจะเก็บภาษีสินค้าจีนที่ 55% และจีนเก็บภาษีสินค้าสหรัฐที่ 10% ซึ่งเป็นระดับเดิมก่อนเกิดข้อขัดแย้ง โดยจีนจะผ่อนคลายการส่งออกแร่หายากให้กับสหรัฐ และสหรัฐจะผ่อนคลายการส่งออกชิปดีไซน์, เปิดรับนักศึกษาจีน แต่ยังไม่ละเอียดของส่งออกชิป Ai ให้กับจีน ซึ่งยังต้องรอการอนุมัติจาก ปธน.ของทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนรายงาน US CPI พ.ค. อยู่ที่ 2.4% & เม.ย. 2.3% แต่ต่ำกว่าคาดที่ 2.5% YoY ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดมีโอกาส 70% ที่จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม ก.ย. ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงในตะวันออกกลางสูงขึ้น หลังสหรัฐสั่งอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนออกจากสถานทูตในอิรัก จากความกังวลอิหร่านอาจโจมตึฐานทัพสหรัฐ หากผลกาเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ล้มเหลว ค่ำวันนี้ติดตาม US PPI พ.ค.คาด 2.6% & เม.ย. 2.4% YoY
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง จากแรงชายหุ้นกลุ่มค้าปลีก กอปรยังรอดูรายละเอียดกรอบข้อตกลงการค้าสหรัฐ – จีนที่ยังไม่ชัดเจน ส่วนค่ำวันนี้ติดตามความเห็นของคณะกรรมการ ECB หลายท่าน หลัง ปธ.ECB ได้เริ่มส่งสัญญาณยุติการลดดอกเบี้ย ซึ่งตลาดยังคาด ECB จะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในช่วงปลายปีนี้
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.52%, ฮั่งเส็ง +0.84% หลังจีนกับสหรัฐสามารถบรรลุกรอบการทำงานเพื่อดำเนินการลดภาษีศุลกากรต่อกัน ขณะที่ดัชนีนิเกอิ +0.55% และ Kospi เกาหลีใต้ +1.23% ได้แรงหนุนจากกลุ่มผู้ผลิตชิป และกลุ่มยานยนต์ Hyundai Motor โดยนักลงทุนยังรอผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และอินเดีย
- SET วานนี้ +0.21% ปริมาณการซื้อขาย 62 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 1 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 22 ลบ. ต่างชาติขาย 234 ลบ.และรายย่อยซื้อ 257 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Global & China Play เช่น บรรจุภัณฑ์, ปิโตรเคมี, อิเล็กทรอนิกส์ และขนส่ง ตอบรับข่าวบวกสหรัฐกับจีนสามารถบรรลุกรอบข้อตกลงการค้าในเบื้องต้น โดยยังต้องรอการอนุมัติจาก ปธน.ของทั้ง 2 ฝ่าย กอปรกับ ปธน.ทรัมป์เผยจะเจราจากับ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และอีก 15 ประเทศให้เสร็จสิ้นก่อนเส้นตายในวันที่ 9 ก.ค. ส่งผลให้แรงกดดันจากสงครามการค้าลดลง ขณะที่กลุ่มที่ปรับลดลง คือ ไฟแนนท์จากความกังวล NPL มีแนวโน้มสูงขึ้น หลังกำลังซื้อในประเทศในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสชะลอตัวตามประมาณการณ์ของ ธปท. โดยนักลงทุนยังรองบกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสน ลบ. ซึ่ง รมช.คลังเผยยังต้องใช้เวลาอีก 1 – 2 สัปดาห์ในการจัดสรรงบ ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศนั้น วานนี้คุณทักษิณได้มอบหมายให้ทนายเดินทางไปศาลฎีกาแทนในวันศุกรนี้ เพื่อยื่นคำชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยศาลฏีกาอนุญาตขยายเวลาส่งคำชี้แจงออกไปถึงวันที่ 23 มิ.ย. นี้ ดังนั้นปัจจัยการเมืองยังคงกดดันภาวะการลงทุนต่อไป
Daily Strategy
- ประเมิน SET มีโอกาสทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,120 – 1,130 แนวต้าน 1,150 อยู่ระหว่างรอการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 9 ก.ค. และยังรอประเมินปัจจัยการเมืองในประเทศ ดังนั้นจึงแนะนำซื้อเก็งกำไรรายตัว เช่น PTT,PTTEP ตามราคาน้ำมันดิบวานนี้ +4% จากข่าวอิหร่านอาจโจมตีฐานทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง/ กลุ่มปลอดภัย เช่น ADVANC,BDMS,BCH ที่มีความผันผวนต่ำ
- PTTEP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 00 บาท) ได้รับ sentiment บวกในช่วงสั้นๆ จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น 4% เมื่อคืน เป็นผลจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังมีข่าวสหรัฐฯ เตรียมอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตในอิรัก ระหว่างรอการเจรจานิวเคลียร์รอบที่ 6 ระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ ในวันที่ 15 มิ.ย.ซึ่งไม่แน่จะว่าสำเร็จได้หรือไม่เพราะติดเรื่องการยุติเสริมสมรรถนะยูเรเนียม โดยการขมขู่กันไป-มาระหว่างอิสราเอล-อิหร่านเกิดขึ้นก่อนหน้าที่อิสราเอลมีแผนจะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ขณะที่อิหร่านก็มีโอกาสตอบโต้ด้วยการโจมตีฐานทัพของสหรัฐฯ ทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งนี้อิรักผลิตน้ำมัน 3.9 ล้านบารเรลต่อวัน สูงสุดอันดับ 2 ของโอเปก
PR9* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 29.89 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 ออกมาอยู่ที่ 200 ลบ.(+26%YoY, -3%QoQ) อ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ยัง YoY บวกได้เด่นโดตามรายได้(+16%YoY) ได้แรงหนุนจากรายได้ผู้ป่วยต่างประเทศ(+88%YoY)โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มชาติตะวันออกกลาง สอดคล้องกับกลยุทธของ PR9* ที่ทำการตลาดไปหาผู้ป่วยต่างชาติมากขึ้น ด้านPR9*เอง ปี68 นี้ ตั้งเป้ารายได้เติบโต +10%YoY โดยบริษัทยังคงเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศขึ้นราว 20% จากฐานคนไข้รวม ทั้งนี้ตลาดคาด กำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ PR9* จะขยายตัวมาอยู่ที่ 823 ลบ.(+15%YoY) และ 905 ลบ.(+10%YoY) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ก.ค.+$3.17 อยู่ที่ $68.15 / บาร์เรล, Brent ส.ค. +$2.90 อยู่ที่ $69.77/บาร์เรล หลังสหรัฐเตรียมอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วน ออกจากสถานทูตในอิรัก จากความกังวลอาจถูกอิหร่านโจมตีฐานทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง หากผลการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ล้มเหลว
Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$0.30 อยู่ที่ $3,343.70 /ออนซ์ ทรงตัวหลัง US CPI พ.ค. อยู่ที่ 2.4% ต่ำกว่าคาดที่ 2.5% YoY ส่งผลให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม ก.ย.
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -2.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยขายหุ้นไทย -7.16 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +4.88 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.54 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.43 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.394 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +58 จุด อยู่ที่ 1,738
(-) BitCoin เช้านี้ -1.21% อยู่ที่ 108,282 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
09 มิ.ย. ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์
สศช. รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 1/68
สัปดาห์ที2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ
อัพเดตสถานการณ์ลงทุน
ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น
หอการค้าไทย
ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน
ยานยนต์
ต่างประเทศ
09 มิ.ย. CN ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ( พ.ค.)
CN ดุลการค้า
11 มิ.ย. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( พ.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
12 มิ.ย. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ( พ.ค.)
13 มิ.ย. EU ดุลการค้า
Theme Strategy
Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง, และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้
(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*
(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG
(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT
(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC
(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*
(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2025: PLANB*, TASCO*, TFG*, STECON, IVL*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th