Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

150

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม

แนวโน้มตลาดวันนี้

เพิ่มหุ้นเข้าพอร์ต อีก!
แม้ว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในสภาพหม่นหมอง นลท.ในประเทศบางส่วนอาจรอความชัดเจนการเมืองในประเทศ เช่น การปรับ ครม. คดีอดีตนายก ฯลฯ ส่วนสถาบัน และ ต่างประเทศ คงหนีไปลงทุนหุ้นนอก ที่ปรับขึ้นได้ดีกว่าหุ้นไทย


แต่เรายัง...ไม่หมดหวัง และประเมินว่าหุ้นไทยรายตัวจะสร้างฐาน และ ฟื้นตัวกลับมาได้อีกรอบ หลังจากการปรับฐานครั้งนี้ผ่านไป เพราะเมื่อหมดข้ออ้าง “ให้รอ” ทั้งเรื่องการเมืองในประเทศ เช่น คดีอดีตนายกทักษิณ ศุกร์นี้รู้เรื่อง! ส่วนเรื่อง การปรับ ครม., กรณีพิพาทกับ กัมพูชา เรามองผลกระทบจำกัดต่อตลาดหุ้น


ตลอดจนประเด็น “เทรดวอร์” ซึ่งคาดว่าไทยจะปิดดีลกับสหรัฐฯได้ และระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศก็น่าจะได้ปิดดีลเร็วขึ้น จากแนวทางการเจรจาที่เราอิงจากสหรัฐฯ และจีน ล่าสุด โดยคาดว่าไทย-สหรัฐฯจะปิดดีลทันเส้นตายต้นเดือนหน้า


ส่วนกลยุทธ์เราแนะนำ ทนถือหุ้นที่พาเข้าไปก่อนหน้านี้ไว้ก่อน แม้ราคาหุ้นจะย่อลงบ้าง รวมถึงหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ตัวอื่นด้วย และวันนี้เราเพิ่มหุ้น GPSC เข้าพอร์ต กลยุทธ์

กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร เล่นรอบ เน้นไปที่หุ้น 1Q25 ส่อแววผ่านจุดต่ำสุด และเริ่มจะเห็นสัญญาณของการฟื้นตัว เช่นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์

วิเคราะห์ทางเทคนิค

หากมองถึงการปรับฐานรอบย่อยของดัชนี เมื่อวัดจาก peak 1,231 จุด….พบว่าปรับตัวลงมาแล้วทั้งสิ้น -6.5% ปัจจุบันเข้าสู่โหมดสร้างฐาน...sideway ออกข้าง จับตา RSI โมเมนตัมชี้วัดพลังความแข็งแกร่ง ฟื้นตัวขึ้นนิดๆ จ่อตัดเส้น signal line…ทำได้จะทำให้โครงสร้างตลาดกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง และคาดมาพร้อมสัญญาณทะลุเส้นกด EMA 5 วันที่ 1,140 จุด จะบ่งชี้ภาพกลับตัวในระยะสั้น สำหรับความเสี่ยง downside risk ของตลาดยังมองไม่ลึก…ปิด gap ช่องว่างที่ 1,100-1120 จุด ส่วนแนวโน้มสัปดาห์นี้ ดัชนีเทรดเหมือนรอปัจจัยหนุน รอความชัดเจนทั้งปัจจัยภายในและตปท. ขอลุ้นข่าวดี หนุนตลาดให้กลับมาฟื้นตัวขึ้นให้ได้อีกครั้ง...

 

 

 

 


What to watch
Goldman Sachs หั่นเป้าหุ้นไทยเหลือ 1180 จุด ปรับลดน้ำหนักการลงทุน
คาดหุ้นติดโผ SET50 รอบใหม่ BCP KKP TCAP TIDLOR หุ้นออก BGRIM GLOBAL ITC SAWAD // ส่วน SET100 หุ้นเข้า AURA JTS MBK TFG TOA WHAUP หุ้นออก CKP COCOCO ROJNA SAPPE SKY SNNP
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยข่าวดีล่าสุดว่าขณะนี้ประเทศสหรัฐฯ ได้ตอบรับอย่างเป็นทางการแล้ว ที่จะเริ่มเจรจากับประเทศไทยเรื่องมาตรการภาษี และการค้าระหว่างสองฝ่าย
สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุฉันทามติด้านการค้าแล้ว โดยตัวแทนจากทั้งสองฝ่ายเปิดเผยหลังการเจรจาระดับสูงเป็นวันที่สองในกรุงลอนดอน
โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า "เราได้บรรลุกรอบความร่วมมือในการดำเนินการตามฉันทามติที่ได้จากการประชุมที่เจนีวา และจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีทั้งสองประเทศแล้ว"
ลุตนิกกล่าวว่า "เขาและเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จะเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อให้แน่ใจว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะอนุมัติกรอบข้อตกลงนี้ และหากสี จิ้นผิง ผู้นำจีนอนุมัติเช่นกัน เราก็จะดำเนินการตามกรอบข้อตกลงนี้
สหรัฐฯ ได้แสดงความพร้อมที่ผ่อนคลายข้อจำกัดในการส่งออกเทคโนโลยี หากจีนยอมลดข้อจำกัดในการส่งออกแร่หายากซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญที่ใช้ในผลิตภัณฑ์พลังงาน อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น สมาร์ตโฟน เครื่องบินขับไล่ และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ โดยจีนเป็นผู้ผลิตแร่หายากเกือบ 70% ของตลาดโลก
FTSE SET เพิ่มหุ้น AURA เข้า FTSE MID Cap
ประกาศ ตลท.ห้าม HFT (โรบอท) ซื้อขายหุ้นนอก SET100 เริ่ม 7 ก.ค.นี้

หุ้นแนะนำวันนี้ GPSC

เล่นรับโอกาสลงทุนผ่านงานเสวนาฯ เจาะลึกอนาคตธุรกิจโรงไฟฟ้าไทย กับ BLS Research
แนวรับ 32 ต้าน 34.5 Stop loss 31

Tactical port Add GPSC

 


รายงานพื้นฐานวันนี้

Retails Sector

ยอดขายสาขาเดิมเดือน พ.ค. อ่อนแอ และยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัว
SSS เดือน พ.ค. 2025 ลดลงเฉลี่ย 5% (แย่กว่า -4% ในเม.ย.) จากปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจในประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงต่อเนื่อง โดยกลุ่มสินค้าจำเป็น (CPAXT) ยังแข็งแกร่งสุดด้วย SSS ทรงตัว จากยอดขายอาหารสดและช่องทางออนไลน์ ขณะที่ CRC คาด SSS -5% เช่นเดียวกับเดือนก่อน จากกำลังซื้อสินค้าแฟชั่นที่ยังอ่อน และแรงกดดันจากเงินบาทแข็งค่าต่อดองและยูโร ส่วนกลุ่มซ่อมแซมและตกแต่งบ้าน (HD&C) แย่สุด โดย GLOBAL -12%, HMPRO -9% และ DOHOME -8% เพราะผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าราคาแพง


แนวโน้ม SSS เดือนมิ.ย. ยังไม่มีสัญญาณฟื้น โดยยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงต้นเดือนยังลดลง YoY เช่นเดียวกับเดือนพ.ค. ที่ -14% และกำลังซื้อในประเทศยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ คาดกำไร 2Q25 ของกลุ่มค้าปลีกจะยังโตได้ แต่เป็นการขยายจากอัตรากำไร มากกว่ายอดขาย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าจำเป็น ซึ่งได้แรงหนุนจากต้นทุนไฟฟ้าและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงด้วย ขณะที่กลุ่ม HD&C ยังมี downside ต่อประมาณการกำไรปีนี้ จึงยังแนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มนี้ไปก่อน
Fundamental view: เรายังคงมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มค้าปลีก โดยชอบ CPALL และ CPAXT มากสุด

Knowledge Sharing

Entertainment complex: Game on, Thailand
ร่าง พ.ร.บ. Entertainment Complex ของไทยยื่นเข้าสู่กระบวนการรัฐสภาแล้ว โดยมุ่งเป้าให้ไทย เป็นศูนย์กลาง Entertainment Complex และคาดหวังโอกาสที่จะเป็นอันดับ 3 ของโลก ใน 10 ปี โดยภาครัฐได้ประเมินมูลค่าเศรษฐกิจไว้หลัก เช่น สร้างมูลค่าเศรษฐกิจปีละ 1.19–2.38 แสนล้านบาท, รายได้รัฐปีละ 1.2–3.9 หมื่นล้านบาท, เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ +5–20% ต่อปี จากเดิม, การใช้จ่ายต่อหัวนักท่องเที่ยวพุ่งจาก 50,000 เป็น 70,000 บาท/ทริป, สร้างงานใหม่ 9,000–15,300 ตำแหน่งต่อโครงการ และหนุน GDP เฉลี่ย +0.2–0.8%

อย่างไรก็ตาม ข้อถกเถียงใหญ่ที่เราพบ คือ หากมองจากการสำรวจฯ ในปี 2023 พบว่าสถิติคนไทยกว่า 4.5 ล้านคนเคยเล่นพนัน แต่ร่างฯ กำหนดให้คนไทยต้องมีเงินฝาก 50 ล้านบาทขึ้นไป จึงจะสามารถเข้าเล่นคาสิโนได้ ซึ่งเท่ากับจำกัดผู้เล่นไทยไว้เพียง 0.05% ของประชากร (≈30,000 บัญชี) หากไม่ปรับเงื่อนไขนี้ ทำให้ต้องพึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก อาจทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายผู้ใช้บริการเพิ่ม 5 ล้านคน/ปี


เราได้ลองประเมินประมาณการของผู้ลงทุน โดยให้สมมติฐาน กรณีได้ผู้เข้า 5 ล้านคนตามรัฐวางเป้าหมาย และออกใบอนุญาต 3 ฉบับ จะสร้างรายได้จากคาสิโน 75,000 ล้านบาท + non-gaming 32,143 ล้านบาท รวมเป็น 107,143 ล้านบาท แบ่งรายได้ต่อคอมเพล็กซ์ ~35,714 ล้านบาท หลังหักต้นทุนและค่าธรรมเนียม คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,620 ล้านบาท/แห่ง คิดเป็น Net margin ~17%, EBIT margin ~29%


โดยทำเลที่พอมีข่าว และอาจเกิดขึ้น เช่น EEC (เมืองการบินอู่ตะเภา), กรุงเทพฯ (เช่น ท่าเรือคลองเตยเป็น Smart City), เมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ อุดรธานี เป็นต้น (ต้องติดตามจากรัฐบาลต่อ)

ในมุมมองการลงทุน กลุ่มหุ้นได้ประโยชน์ แบ่งเป็น 3 ขั้น:
ขั้น 1 ผู้ที่เคยมีข่าวว่าจะลงทุนในโครงการที่เกี่ยวเนื่อง เช่น BTS, VGI, BA, STECON, MBK, AWC
ขั้น 2 เกี่ยวโยงการวางโครงสร้างพื้นฐานโครงการ และการลงทุนต่อเนื่อง CK, STECON, CPN, SIRI, MCOT, ROCTEC, BA, BTS, BBL, KBANK, KTB
ขั้น 3 หุ้นได้ประโยชน์หลังเปิดดำเนินงาน: PLANB, WORK, CRC, AAV, MINT, CENTEL, โรงไฟฟ้า
Our view: หากร่างกฎหมายผ่านภายในรัฐบาลชุดนี้ หุ้นขั้นที่ 1 จะถูก Re-rate ก่อน พร้อมโอกาสลงทุนรอบใหม่ของไทย

 

 

 

 

 

 

 

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NTFG ให้การต้อนรับ LEO พร้อมหารือโอกาสทางธุรกิจ

NTFG ให้การต้อนรับ LEO พร้อมหารือโอกาสทางธุรกิจ

ลงดีกว่า By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหุ้นไทย เช้าวันนี้ เมื่อไปต่อไม่ได้ ก็ลงดีกว่า ลงแบบ เบาๆ บนไร้เงินใหม่ มากระตุ้น .....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้