สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(10 มิถุนายน 2568)----------บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD มองราคาทองคำแท่งผันผวนต่อเนื่อง จับตาความคืบหน้าเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน รอบ 2 ณ กรุงลอนดอน แนะกลยุทธ์การลงทุนรอจังหวะซื้อ แถว $3,265 / $3,220 หรือ 50,700 / 50,100 บาท

นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย นักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่อง โดยแนะนำนักลงทุนให้จับตาตลาดทองคำในสัปดาห์นี้ เนื่องจากสหรัฐฯ และจีน จะมีการเจรจาการค้ารอบ 2 ที่กรุงลอนดอน ในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ โดยสหรัฐฯ ส่งรัฐมนตรี เป็นตัวแทนเข้าร่วม นำโดย Scott Bessent, Howard Lutnick และ Jamieson Greer ขณะที่ฝ่ายจีนส่งรองนายกรัฐมนตรี นาย He Lifeng เป็นหัวหน้าคณะเจรจา

สำหรับเวทีการเจรจาการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ ในครั้งนี้ แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่เป็นรูปธรรม แต่ก็สร้างความคาดหวังเชิงบวกต่อการลดระดับความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ ซึ่งในระยะสั้นส่งผลต่อตลาดในแง่ของการคลี่คลายความเสี่ยง และกดดันไม่ให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง ทั้งนี้ หากการเจรจามีผลลัพธ์เชิงบวก จะทำให้ราคาทองคำเข้าสู่ช่วงพักฐานเพื่อรอปัจจัยกระตุ้นใหม่ แต่ในทางกลับกัน หากไม่มีข้อตกลง หรือเกิด
ข้อพิพาทซ้ำซ้อนในประเด็นด้านความมั่นคง เช่น แร่หายาก–ชิป–หรือวีซ่า ทองคำอาจกลับมาได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า จะมีการประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าประธานเฟดคนปัจจุบัน เจอโรม พาวเวลล์ จะยังดำรงตำแหน่งจนถึงพฤษภาคม 2026 ก็ตาม โดยผู้นำสหรัฐฯ เห็นว่าผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งควรเป็นผู้ที่พร้อมจะลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจากคำประกาศดังกล่าว ส่งผลให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึง “ประธานเฟดเงา” ที่อาจเริ่มมีบทบาทในเชิงจิตวิทยาต่อนโยบายการเงิน
อีกทั้งในสัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภคจะปรับตัวขึ้นจาก 2.3% ไปที่ 2.5% ขณะที่เงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตคาดว่าจะปรับตัวขึ้นจาก 2.4% ไปที่ 2.6% หากตัวเลขจริงเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์ ก็จะเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัย GCAP GOLD ประเมินกลยุทธ์การลงทุนในทองคำแท่ง โดยแนะนำให้ รอจังหวะที่ราคาทองคำย่อตัวก่อนจึงค่อยเข้าสะสม โดยให้กรอบแนวรับที่ $3,265 / $3,220 เนื่องจากราคาทองคำยังมีโอกาสพักฐาน จากกราฟพบว่าสัญญาณขาขึ้นในระยะสั้นเริ่มอ่อนแรง โดยมีจุดเปลี่ยนสำคัญที่ระดับ $3,300 ซึ่งหากราคาหลุดระดับดังกล่าว อาจเห็นการย่อตัวลงมาที่แนวรับบริเวณ $3,265 / $3,220 อีกครั้ง (คิดเป็นราคาทองคำในประเทศประมาณ 50,700 / 50,100 บาท) ซึ่งถือเป็นจุดที่สามารถเก็งกำไรระยะสั้น หรือรอจังหวะให้ราคาปรับตัวลงมาใกล้โซนดังกล่าว แล้วค่อยหาจังหวะเข้าเก็บเพื่อเล่นรอบ