สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(10 มิถุนายน 2568)----------บทวิเคราะห์ บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดทรงตัว (-0.003%) แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้น S&P500 ปิดแดนบวกเพราะได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้น Amazon ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.86% แรงหนุนจากการอ่อนค่าของ Dollar ประกอบกับมีความหวังว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะกระตุ้นอุปสงค์
เมื่อคืนที่ผ่านมาฝั่งสหรัฐฯ มิได้มีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญแต่อย่างใดและเป็นภาวะที่ไร้ปัจจัยทำให้สินทรัพย์แต่ละอย่างค่อนข้างทรงตัวไม่ว่าจะเป็น ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร แต่ Dollar Index ยังคงอ่อนค่าและทำให้ราคาทองคำพลิกกลับมาฟื้นตัว ในขณะเดียวกันจีนได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจประกอบไปด้วย (1) เงินเฟ้อพบว่าหดตัวต่อเนื่อง (-0.1%YoY) แต่ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ -0.2%YoY และ (2) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) -3.3%YoY แต่แย่กว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ -3.3%YoY (3) มูลค่าส่งออกในสกุลหยวนขยายตัว 6.3%YoY และสกุล Dollar ขยายตัว 4.8%YoY ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 6%YoY โดยพบการส่งออกไปสหรัฐฯ หดตัวแรง สอดคล้องกับก่อนหน้าที่สหรัฐฯรายงานการนำเข้าที่ลดลงอย่างมีนัย เชื่อว่ากับประเทศไทยก็น่าจะเป็นลักษณะคล้ายกัน ด้านปัจจัยในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ แม้จะมีข่าวว่าไทยเตรียมจะเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ แต่ตลาดหุ้นวานนี้ก็ดูจะมิได้ตอบรับเชิงบวกใดๆ และยังปรับลงสวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากว่าปัจจัยพื้นฐานที่นักลงทุนประเมินแล้วว่ายังอ่อนแอ ทั้งจากการบริโภค และการท่องเที่ยวที่มีสัญญาณอ่อนแอต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจจีนที่ยังมิได้แข็งแรง จากเงินเฟ้อที่ติดลบอาจส่งสัญญาณถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจีนไปท่องเที่ยวต่างประเทศ อาจยังมิแข็งแกร่ง (รวมถึงเดินทางมาไทย) และช่วงถัดไปก็อาจเผชิญกับการส่งออกที่หดตัวแรงหรือขยายตัวต่ำ สร้างแรงกดดันต่อการลงทุนในตลาดหุ้น คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตามเพราะนักลงทุนจะรอดูเงินเฟ้อสหรัฐฯในคืนวันพรุ่งนี้ (คืนวันพุธ)
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1125 – 1135 จุด ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะพิจารณาเป็นรายตัวมากกว่าจะมองที่ดัชนีเพราะดัชนีเต็มไปด้วยความผันผวนจากหุ้นหลายๆตัว และยังเน้นเป็นเพียงการ Trading ระยะสั้นในหุ้นที่มีปัจจัยหนุน อาทิ นิคมอุตสาหกรรม (AMATA WHA) เครื่องดื่ม (OSP CBG) ส่งออก (ITC TU) รับเหมาก่อสร้าง (CK STEC) ศูนย์การค้า (CPN) โรงแรม (MINT)
AMATA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท)
ยอดขายที่ดินช่วง 1Q25 มีจำนวน 284 ไร่ คิดเป็นสัดส่วนเพียง 8% ของเป้ายอดขายใหม่ของ AMATA ที่ 3,500 ไร่ (ไทย 2,500 ไร่ เวียดนาม 500 ไร่ และลาว 500 ไร่) แม้ว่าทาง AMATA จะแจ้งว่าช่วง 1Q25 เป็นปกติที่ยอดขายยังไม่มาก แต่ด้วยภาพรวมสงครามการค้าที่ ยังมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้มีความเสี่ยงที่ยอดขายจะไปไม่ถึงระดับดังกล่าวอย่างไรก็ตามผลกระทบจะเห็นในปี 26 เป็นต้นไป เนื่องจาก ณ สิ้น 1Q25 ยังมี Backlog ที่รอรับรู้รายได้อีกกว่า 21,000 ล้านบาท (ไทย 19,679 ล้านบาท และเวียดนามอีก 1,812 ล้านบาท)
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 13.00 บาท)
กำไรขั้นต้นที่ 18.8% ใกล้เคียงกับ 4Q24 แต่ดีขึ้นจาก 17.3% ใน 1Q24 ได้รับผลดีจากธุรกิจอาหารแช่แข็งที่มีกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นหลังจากธุรกิจอาหารสัตว์น้ำมีกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 4,700 ล้านบาท +12%YoY เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการตลาดและที่ปรึกษาในการปรับโครงสร้างที่เริ่มรับรู้มากว่า 298 ล้านบาท ส่วนลดลงจาก 4Q24 ส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลง