ภาวะตลาด : SET Index วันศุกร์ปิด -4.20 จุดที่ 1136.43 โดยตลาดยั้งไม่มีปัจจัยกระตุ้นใหม่ ขณะที่ความกังวลเรื่อง capped weight หุ้น DELTA ที่ไม่เกิน 10%และความไม่แน่นอนทางการเมืองยิงคงมีอยู่ รวมทั้งมีเหตุ้น้ำมันรั่วของ TOP ด้วย นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ -2.8 พันลบ. ต่างชาติขายสุทธิ -1.4 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
สหรัฐ : NFP ดีกว่าตลาดคาด ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพ.ค.เพิ่ม 1.39 แสตำแหน่ง ดีกว่าตลาดคาดที่ 1.30 แสตำแหน่ง อัตราว่างงานทรงตัวที่ 4.2%์

Update การเจรจาการค้า : 1) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนจะพบปะหารือจข้อตกลงการค้าวันที่ 9 มิ.ย.นี้, 2) ญี่ปุ่น-สหรัฐยังเห็นต่างเรื่องภาษี แต่นายกฯญี่ปุ่นจะพบปะกับปธน.ทรัมป์ ในการประชุม G7 วันที่ 15 - 17 มิ.ย., 3) จีนกำลังเจรจากำหนดราคานำเข้าบรั่นดีจากยุโรป และยุโรปกำลังเร่งพิจารณาอนุมัติส่งออกแร่หายากให้บริษัทใน EU, 4) อินโดนีเซียคาดว่าจะได้ข้อสรุปเจรจาการค้ากับ EU หลังดำเนินมากว่า 9 ปี ภายในสิ้นเดือนมิ.ย.25์

ทรัมป์ ยังกดดันเฟดให้ลดดอกเบี้ย โดยระบุว่าจะประกาศรายชื่อประธานเฟดคนใหม่เร็ว ๆ นี้ และเป็นคนที่พร้อมลดดอกเบี้ย ด้านประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ระบุ ถ้าสงครามการค้าเริ่มคลี่คลายในเดือนก.ค. เฟดก็มโอกาสลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ Mix ส่วนดัชนีตลาดสหรัฐวันศุกร์ปรับขึ้น หลังตัวเลข NFP พ.ค.ดีกว่าตลาดคาด & การปรับขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี แต่ดัชนีฟิวเจอร์สเช้านี้ลบเล็กน้อย สัญญาท้องคำส่งมอบส.ค.ร่วงต่อ-28.50 US้ เป็น 3346.60 US้/ออนซ์ ด้านราค่าน้ำมันดิบ WTI & BRENT ขยับขึ้นี้เป็น 65-66 US้/bbl ดัชนี

ค่าเงิน US แข็งขึ้นี้เป็น 99.2 ด้านเงินบาท่ออนสู่ 32.72 บาท/ดอลลาร์ ด้าน US bond yield 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ 4.50% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) อ่อนี้เป็น 104.85( สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ขึ้นี้เป็น 1633 (สูงสุดอยู่ที่ 1669) เป็นบวกกับ PSL, TTA

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
รมว.คลังระบว่าสหรัฐตอบรับเป็นทางการเตรียมเจรจาภาษีกับไทยแล้ว โดยเชื่อว่าข้อเสนอของฝ่ายไทยจะเป็นประโยชน์ทั้งกับไทยและสหรัฐ

จับตาสถานการณ์การเมืองไทย โดยเฉพาะการปรับครม. และการนัดไต่สวนทักษิณ-ผู้ที่เกี่ยวข้องปมรักษาตัวชั้น 14 ร.พ.ตำรวจ ของศาลฎีกาวันที่ 13 มิ.ย.นี้

ส่วนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาคลี่คลายลง ล่าสุดมีข่าวว่ากองกำลังของไทย-กัมพูชาได้มี่การเจรจากัน ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่เป็นไปในทางที่ดีมากขึ้น

ราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 5 มิ.ย. 2025 เผยแพร่พ.ร.ฎ.กำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสชิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงินฯ...ไม่กระทบ TISCO, KKP ส่วน MTC, TIDLOR, SAWAD กระทบไม่มาก แต่ไฟแนนซ์รายเล็กจะถูกกระทบมาก

สถานทูตจีนประกาศเตือนชาวจีนในญี่ปุ่นให้ระวัง หลังเกิดเหตุแทงนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เกี่ยวโต...อาจเป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจีนกลับมาไทย ประกอบกับก.ท่องเที่ยวฯจะออกหลายมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวไทย หุ้นเด่นี้เป็น CENTEL

TOP : เหตุการณ์น้ำมันรั่วคลี่คลาย มีประกันรองรับ ฝ่ายวิจัยฯ DBSVTH ประเมินกรณีที่แย่ บริษัทจะได้รับผลกระทบไม่เกิน 100 ลบ. ซึ่งคิดเป็นประมาณ 9%ของคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้...ราคาหุ้นลงมาสะท้อนข่าวลบไปบ้างแล้ว แต่เรายังกังวลผลประกอบการ2H25F เพราะมาร์จิ้นอะโรเมติกส์ที่อ่อนแอและการปิดซ่อมบำรุง CDU3 เป็นเวลา 40 วัน จึงแนะนำเต็มมูลค่า สำหรับการเข้าซื้อใหม่เน้นเมือราคาอ่อนตัว (หุ้นเด่นกลุ่มโรงกลั่นี้เป็น BCP, SPRC)

กลุยทธ์ : สัญญาณทางเทคนิคยังเป็นลบ (สัปดาห์ก่อนมีรีบาวด์สั้นแล้วลงต่อ) รวมถึงยังอยู่ใต้เส้น SMA10 ระยะส้นมีแนวรับ 1135 - 1130, 1120+/- หรือต่ำกว่ากรณีเด้งขึ้นมีแนวต้าน 1140 - 1145, 1150 - 1160 (ถ้าไม่ถึงหรือถึงแล้วยืนเหนือ 1160 ไม่ได้ให้ขายก่อน ถ้ายืนเหนือ 1160 ได้ ถือต่อ) ส่วนการลงทุนระยะยะกลาง-ยาวแนะเลือกสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่Valuation ไม่แพง จ่ายปันผลดี สม่ำเสมอ โดยหุ้นเด่นของเดือนมิ.ย.25 ประกอบด้วย ADVANC, CPALL, KTB, PR9 และSTECON

หุ้นพื้น ฐานแนะนำวันนี้ : AP - คาดกำไรสุทธิผ่านจุดต่ำสุดของปีนี้ใน 1Q25 แล้ว แนวโน้มกำไร 2Q25F คาดว่าจะเติบโตได้ YoY และQoQ จากการโอนรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น การเปิดโครงการใหม่และการมี Backlog สูงช่วยหนุนรายได้และกำไรใน 2H25F ทั้งนี้แม้ว่ากำไรจะเติบโตจำกัด แต่ฐานะการเงินแข็งแรง จากนโยบายของผู้บริหารที่คุมสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนไว้ไม่เกิน 0.8 เท่า และValuation ถูก จ่ายปันผลสูง ณ ราคาปัจจุบัน 6.65 บาท มี P/E ปีนี้ 4.4 เท่า, P/BV เพียง 0.45 เท่าคาดการณ์ Dividend Yield ปีนี้ไว้ที่ 8% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) ราคาเป้าหมาย (median) ใน IAA consensus อยู่ที่ 9.25 บาท แนะนำทยอยซื้อสะสม

นักวิเคราะห์ &กลยุทธุ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829