Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: PRM โชว์แผน ขยายกองเรือ-บุกตลาดใหม่ /โบรกฯ เล็งกำไรปี68 ทำนิวไฮ เคาะเป้า 10 บาท

213

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(6 มิถุนายน 2568 )-----PRM วางรากฐานอนาคตแข็งแกร่ง! จัด Analyst Meeting และ Opp Day โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ทะลุ 769 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายกองเรือ และเจาะตลาดใหม่ มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

 

นางสาวสุธาสินี หมื่นละม้าย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการลงทุน นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี พร้อมด้วย นายพชร รอดสมบูรณ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ร่วมแถลงข้อมูลบริษัทฯ ในงานประชุมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (Analyst Meeting) และงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) ประจำไตรมาส 1/2568 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ณ ห้องประชุมใหญ่ บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็วๆ นี้

 

โดยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/2568 เป็นที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง สามารถทำกำไรสุทธิสูงถึง 769.4 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 57.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2567 และ 30.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลประกอบการที่โดดเด่นนี้ มาจากการลงทุนในเรือลำใหม่เพิ่มเติมในธุรกิจเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล (Offshore Support Vessel "OSV") ภายใต้สัญญาระยะยาว ส่งผลให้ธุรกิจมีรายได้และกำไรมั่นคงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการวางรากฐานการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

 

ทั้งนี้ แม้ภาพรวมของรายได้ไตรมาส 1/2568 จะปรับตัวลงเล็กน้อย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการนำเรือใหญ่เข้าอู่ซ่อมบำรุงตามแผน การปลดระวางและขายเรือ FSU ออกไป 1 ลำ ซึ่งเรือที่ซื้อเข้ามาทดแทนยังอยู่ในช่วงการเข้าอู่เพื่อปรับปรุงเรือ รวมถึงเรือ FSO เริ่มกลับมาให้บริการเพียง 1 เดือนในไตรมาส 1/2568 โดยบริษัทคาดว่าหลังจากเรือใหม่เข้าให้บริการครบถ้วนแล้ว รายได้จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติพร้อมการเติบโตต่อตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป

 

สำหรับแนวโน้มและกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจ PRM นำเสนอเป็น 3 ส่วน คือ ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมี (Petroleum and Chemical Tankers "PCT") โดยกล่าวว่า ถึงแม้ว่าจะมีการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่การบริโภคน้ำมันเบนซินในประเทศยังคงทรงตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดย PRM ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งธุรกิจนี้มีปัจจัยสนับสนุนคือปริมาณการขนส่งน้ำมันอากาศยาน Jet A1 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังจากการคลี่คลายของสถานการร์ COVID-19 แม้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยจะลดลงในบางช่วงเวลา แต่ PRM เดินหน้าขยายตลาดการขนส่งน้ำมันอากาศยานไปยังลูกค้าในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างรายได้ที่สำคัญ โดยล่าสุด PRM ยังได้เดินหน้าขยายกองเรือเพิ่มอีกจำนวน 6 ลำ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการต่อเรือ โดยเรือลำแรกมีกำหนดรับมอบในเดือนสิงหาคมปี 2569 ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง สร้าง Economy of Scale และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

ธุรกิจเรือกักเก็บและผสมน้ำมันกลางทะเล (Floating Storage Unit "FSU") นับตั้งแต่สิ้นปี 2567 PRM ได้วางแผนปรับพอร์ตการให้บริการเรือ FSU โดยตัดสินใจปลดระวางเรือที่มีอายุมากออกจากการให้บริการจำนวน 1 ลำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสภาพเรือที่มีอายุการใช้งานมาก และรับมือกับความไม่แน่นอนของสงครามการค้า โดยบริษัทสามารถสร้างผลกำไรจากการขายเรือในไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมาได้ถึง 163 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจ FSU จะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ภายหลังการเริ่มให้บริการของเรือลำใหม่ "Kirin Star" ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รวมถึงได้รับอานิสงค์จากราคาต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลง

 

ธุรกิจเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล (Offshore Support Vessel "OSV") บริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดในธุรกิจ OSV อย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาวัฏจักรการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทางทะเล พบว่าความต้องการใช้เรือในกลุ่มนี้ตั้งแต่ในช่วงการผลิต (Operation) ไปจนถึงการรื้อถอนแท่นผลิตกลางทะเล (Decommissioning) ครอบคลุมระยะเวลามากกว่า 20 ปี ยังคงมีสูง โดยปัจจุบัน PRM มีเรือให้บริการในธุรกิจนี้มากถึง 3 ประเภท ได้แก่ AWB, Crew Boat และ FSO ในขณะเดียวกัน ยังคงเดินหน้าเชิงรุกจัดหาเรือ AHTS (Anchor Handling Tug Supply Vessel) เพื่อนำมาให้บริการเพิ่มเติม เตรียมความพร้อมในการขยายธุรกิจในอนาคตและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ครบวงจรยิ่งขึ้น นอกจากนี้ PRM ยังมีกองเรือ OSV ที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุด ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานในตลาดประเทศไทย เนื่องจากเรือที่ใหม่กว่าสามารถควบคุมต้นทุนน้ำมันได้ดีกว่า มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการรับงานที่มากขึ้น

 

สุดท้ายนี้ PRM มั่นใจว่า ปี 2568 นี้จะเป็นอีกปีที่บริษัทฯ สามารถแสดงถึงศักยภาพการเติบโตตามแผน ด้วยเป้าหมายธุรกิจที่ชัดเจนและมุ่งเน้นการทำการตลาด สร้างรายได้และผลกำไรจากแหล่งใหม่ๆ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพจากธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารจัดการด้านต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้ากลุ่มพรีเมียม ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ PRM บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน




บล.ทิสโก้  แนะนำซื้อ PRM 
 มูลค่าเหมาะสม 10 บาท
 

บริษัทหลักรัพย์ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์    แนวโน้มดี Prima Marine    คาดกำไรเติบโตต่อใน 2Q25F และ 3Q25F ทำให้คาดกำไรปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่


ข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ยังยืนยันแนวโน้มยังเป็นบวก แนวโน้มคาดกำไรปกติ 2Q25F จะดีขึ้น QoQ จากจำนวนเรือที่เพิ่มมากขึ้นและจะเร่งตัวดีขึ้นต่อใน 3Q25F ซึ่งจะทำให้กำไรของบริษัทเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อในปีนี้ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ PRM เนื่องจากแนวโน้มยังดี ราคาหุ้นถูกโดย PER ปี 2025F แค่ 5.4x แต่ Dividend yield สูงถึง 10.7% อีกทั้งยังมีข่าวดีจากการที่บริษัทปรับเพิ่มจำนวนซื้อหุ้นคืนรอบที่ 2 จากเดิม 75 ล้านหุ้นเป็น 175 ล้านหุ้น วงเงินจากเดิม 600 ลบ.เป็น 1,400 ลบ. ซึ่งบริษัทยังมีแผนจะลดทุนจากการซื้อหุ้นคืนทั้ง 2 รอบซึ่งจะทำให้ EPS เพิ่มขึ้นอีก


--คาดกำไรปกติใน 2Q25F ดีขึ้น QoQ และดีขึ้นต่อใน 3Q25F ดันกำไรสู่สถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้--

กำไรใน 1Q25 มีรายการพิเศษคือกำไรจากการขายเรือ FSU 163.7 ลบ.และการปรับลดค่าใช้จ่ายผันแปรที่เกี่ยวกับการเช่าเรือ VLCC ในช่วง 4 ปีแรกของสัญญาเช่าจากประมาณการเดิมจำนวน 150 ลบ. ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว หากไม่รวมทั้งสองรายการ กำไรปกติของ 1Q25 จะอยู่ที่ 455.7 ลบ. ซึ่งแนวโน้มกำไร 2Q25F น่าจะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากเรือ Crew Boat ลำใหม่ 3 ลำและเรือ FSO ให้บริการเต็มไตรมาส และเรือ FSU ลำใหม่เริ่มให้บริการในเดือนพ.ค. ซึ่งเรือลำนี้เป็นเรือที่ได้ค่าเช่าสูงเนื่องจากเป็นเรือใหม่และมีการปรับปรุงให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น อีกทั้งในไตรมาสนี้ไม่มีเรือ VLCC และ OSV เข้าอู่ด้วย สำหรับ 3Q25 เราคาดว่าแนวโน้มกำไรจะเติบโตขึ้นอีก QoQ เนื่องจากเรือ FSU ลำใหม่ให้บริการเต็มไตรมาส และจะมีเรือ Crew Boat เข้ามาใหม่อีก 1 ลำ จากปัจจัยทั้งหมดทำให้เรายังคงคาดหวังว่ากำไรปกติปีนี้จะทำจุดสูงสุดใหม่ได้

--ขยายกองเรือ เพิ่มประสิทธิภาพและปรับตัวรับโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น--

แม้แนวโน้มผลประกอบการยังคงดี แต่บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพ และขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น จัดหาเรือใหม่เพื่อทดแทนเรือที่มีอายุมากเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอัตราค่าเช่า โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้สั่งต่อเรือ 6 ลำ โดยจะทยอยรับเรือในปี 2025-26F นอกจากนั้นในช่วงที่ผ่านมาบริษัทก็มีการเพิ่มกองเรือเคมีเพื่อรองรับหากความต้องการใช้น้ำมัน Jet A1 ในประเทศลดลงจากกระแสรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการขยายพื้นที่ขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ ณ ปัจจุบันปริมาณขนส่ง Jet A1 ของบริษัทยังคงเติบโตต่อเนื่อง ส่วนในธุรกิจ Offshore Support บริษัทก็มีการขยายตลาดไปยังตะวันออกกลาง (ADNOC) ที่มีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก รวมถึงวางแผนลงทุนในเรือ Crew Transfer Vessel (CTV) สำหรับ Wind Farm ในเอเชียแปซิฟิกที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพเติบโตในอนาคต และเรือ AHTS (Anchor Handling Tug Supply) ซึ่งเป็นเรือลากจูงและจัดหาสมอที่ออกแบบมาเพื่อลากจูงและจัดการสมอของแท่นขุดเจาะน้ำมันหรือเรือขนส่ง รวมถึงการขนส่งอุปกรณ์และเสบียงไปยังแท่นขุดเจาะ โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้า CAPEX ไว้ที่ 3-4.5 พันลบ. (เทียบกับ 4.5 พันลบ.ในปี 2024) ซึ่งจากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท(Net D/E ณ สิ้น 1Q25 ที่ 0.5x) ทำให้บริษัทยังมีความสามารถในการกู้เพิ่มได้อีกมาก


คงคำแนะนำ “ซื้อ”โดยมีมูลค่าเหมาะสมที่ 10 บาท

เราคงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายที่ 10 บาทซึ่งคิดจาก 2025F PER ที่ 9 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ซึ่งยังมี Upside อีกมากรวมถึงแนวโน้มกำไรที่ยังเติบโตดี เราจึงยังคงแนะนำ ซื้อ ปัจจัยเสี่ยงมาจากความผันผวนราคาพลังงานที่จะส่งผลต่อดีมานด์การใช้เรือและต้นทุน

 


///จบ///

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

"พาณิชย์"จับมือ 4 ปั๊มน้ำมัน ซื้อมะม่วงแฟนซีภาคเหนือ นำแจกเป็นของสมนาคุณผู้เติมน้ำมัน

"พาณิชย์"จับมือ 4 ปั๊มน้ำมัน ซื้อมะม่วงแฟนซีภาคเหนือ นำแจกเป็นของสมนาคุณผู้เติมน้ำมัน

PCE ลุย! ส่งออกกะลาปาล์มคุณภาพสูง

PCE ลุย! ส่งออกกะลาปาล์มคุณภาพสูง

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้