ภาวะตลาด : SET Index วันศุกร์ปิดลดลง -14.83 จุด ที่ 1149.18 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวัน มูลค่าซื้อขายเพิ่มเป็น 7.3 หมื่นลบ. เนื่องจากเป็นวันมีผลของ MSCI Rebalancing รอบเดือนพ.ค.25 ซึ่งมีการนำหุ้นออกจากการคำนวณในดัชนีมากกว่าหุ้นเข้า ประกอบกับมาตรการภาษีทรัมป์ ยังไม่แน่นอน และตลาดหุ้นไทยจะมีวันหยุดยาว 4 วัน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -11.1 พันล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ +4.7 พันล้านบาท

ปัจจัยต่างประเทศ
• การค้าโลกกลับมาตึงเครียด หลังทรัมป์ ประกาศเมื่อ 30 พ.ค.25 ว่าสหรัฐจะเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% มีผล 4 มิ.ย.นี้ นอกจากนั้นทรัมป์ กล่าวหาจีนละเมิดข้อตกลงการค้าเบื้องต้น ขณะที่จีนโจมตีกลับว่าสหรัฐเป็นฝ่ายที่ไม่ทำตามข้อตกลง และเลือกปฏิบัติหลายเรื่อง เช่น การระงับบ.สหรัฐขายซอฟแวร์ออกแบบชิปให้จีน เพิกถอนวีซ่านักเรียนจีนบางส่วน เป็นต้น จับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในสัปดาห์นี้ ซึ่งตลาดหวังว่าจะมีเรื่องชิปด้วย
• สหรัฐ : ตัวเลขเปิดรับสมัครงานเม.ย.เพิ่มขึ้นเป็น 7.391 ล้านตำแหน่ง ดีกว่าตลาดคาดที่ 7.1 ล้านตำแหน่ง และเพิ่มจาก 7.2 ล้านตำแหน่งเดือนมี.ค.
• กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นในปริมาณเท่าเดิมต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนั้นตลาดยังคาดว่าจะผลิตเพิ่มระดับนี้ต่อในเดือนส.ค.25 ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI & BRENT ขยับขึ้นเป็น 63-65 US$/bbl
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐขยับขึ้น นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี ส่วนสัญญาทองคำส่งมอบส.ค.ลด 20.10 US$ เป็น 3377.10 US$/ออนซ์ ดัชนีค่าเงิน US$ อยุ่ 99.2 ด้านเงินบาทอยู่ที่ 32.6 บาท/ดอลลาร์ ด้าน US bond yield 10 ปีทรงๆที่ 4.4% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ร่วงเป็น 104.25 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index เด้งเป็น 1430 (สูงสุดอยู่ที่ 1669)

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• คาดโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง ” จะเข้าพิจารณาในครม.เดือนมิ.ย.นี้ โดยกำหนดจำนวนสิทธิไว้ที่ 5 แสนสิทธิ ลดลงจากเดิมที่ตั้งไว้ 1 ล้านสิทธิ...เป็น Sentiment บวกกับกลุ่มท่องเที่ยวและไลฟ์ สไตล์ หุ้นเด่นเป็น CPALL, ERW, OR
• วันที่ 4 มิถุนายนนี้ กระทรวงการคลัง จะนำเสนอแผนงานการดำเนินการในโครงการ "THAILAND ENTERTAINMENT COMPLEX”
• ยังต้องติดตามสถานการณ์การเมืองไทย โดยศาลฎีกามีคำสั่งให้นัดไต่สวนทักษิณ-ผู้ที่เกี่ยวข้องปมรักษาตัวชั้น 14 ร.พ.ตำ รวจผิดกฎหมายหรือไม่ในวันที่ 13 มิ.ย. เวลา 09.30 น. และผู้เชี่ยวชาญการเมืองประเมินว่าอาจมีการปรับครม.หลังผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569

กลุยทธ์ : มีสิทธิเด้งจากแนวรับ 1150+/- แต่ถ้าปรับขึ้นน้อย ยังต้องระวังการลงต่อ โดยสัญญาณยังเป็นลบ และดัชนีต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 วัน แนวรับ 1150-1145, 1130-1120 หรือต่ำกว่า ส่วนแนวต้าน 1160, 1170-1180 ส่วนการลงทุนระยะยะกลาง-ยาว แนะเลือกและทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ Valuation ไม่แพง จ่ายปันผลดี สม่ำเสมอ โดยหุ้นเด่นของเดือนมิ.ย.25 ประกอบด้วย ADVANC, CPALL, KTB, PR9 และ STECON

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : STECON – ฝ่ายวิจัยฯ DBS คาดปี 25F พลิกเป็นกำไรสุทธิจากรายได้เติบโต จาก Backlog ที่สูง 1.25 แสนล้านบาท (รับรู้รายได้มั่นคงไปใน 3 ปีข้างหน้า) มาร์จิ้นดีขึ้น ขาดทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพูลดลงหลังเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชี และคาดว่าจะมีรายได้เคลมประกันซ่อมอุโมงค์หนองบอนเข้ามาในปีนี้ด้วย แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 9.30 บาท อิง P/BV ปีนี้ที่ 0.7 เท่า

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829