Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

348



AT THE OPEN (#ATO)

 

SET Index ฟื้นตัวตามกรอบ 1145-1160
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดฟื้นตัวตามกรอบ 1145-1160 จุด แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น ความคาดหวังต่อการเจรจาภาษีสหรัฐฯกับจีน ส่วนปัจจัยในประเทศความคืบหน้าของร่างงบประมาณปี 69 ที่ผ่านการพิจารณาใน ส.ส. วาระ 1 รวมถึง S&P ที่คงอันดับเครดิตเรทติ้ง BBB+ และมุมมองเศรษฐกิจไทย Stable หุ้นเด่น เลือก PTTEP ADVANC
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นเฉลี่ย 1% แรงหนุนมาจาก 1) ความคาดหวังต่อความคืบหน้าการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่คาดว่ามีโอกาสเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ 2) การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ CORE PCE เดือน เม.ย. ที่ขยายตัว 2.5%YoY ตามตลาดคาดและต่ำกว่าเดือนก่อนที่ขยายตัว 2.6%YoY สะท้อนเงินเฟ้อที่ยังไม่ได้เร่งตัวและตัวเลขแรงงานที่ยังถูกตีความในเชิงบวกจากตัวเลขการเปิดจ้างใหม่เดือน เม.ย. ที่เพิ่มขึ้น 7.39 ล้านตำแหน่ง มากกว่าเดือนก่อนและตลาดคาดที่ 7.1-7.2 ล้านตำแหน่ง โดยกลุ่มที่บวกนำมาจากกลุ่มเทคฯ โดยเฉพาะ NVIDIA ที่สัปดาห์นี้ปรับขึ้น 5% คาดเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มอิเล็คฯ วันนี้
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 2.7% แรงหนุนจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงขึ้น จากยูเครนใช้โดรนโจมตีครั้งใหญ่ในรัสเซีย อิหร่านมีท่าทีไม่ตอบรับข้อเสนอนิวเคลียร์จากสหรัฐฯ ด้านการประชุม OPEC+ ที่มีมติเพิ่มกำลังการผลิต 4.11 แสนบาร์เรลต่อวัน (ของส่วน Voluntary Cut) ในเดือน ก.ค. ตามคาด ซึ่งเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งเราชอบ PTTEP ที่ Valuation ถูก ระดับ 6.4 เท่าและ Dividend Yield สูง 7.8% และ SPRC ที่แนวโน้มค่าการกลั่นเร่งตัวจาก Driving Season
การพิจารณางบประมาณปี 69 วาระ 1 ได้ผ่านความเห็นชอบในชั้น ส.ส. แล้ว ซึ่งลำดับถัดไปการพิจารณาในวาระ 2-3 คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงกลาง ส.ค. ก่อนพิจารณาในชั้น ส.ว. ช่วงปลาย ส.ค. นำขึ้นทูลเกล้าในเดือน ก.ย. ก่อนจะเบิกจ่ายได้ใน ต.ค.ปีนี้ตามปีงบประมาณปกติ ถัดไปเชื่อว่าความสนใจจะย้ายมาที่งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท เตรียมเสนอ ครม.ในเดือนนี้ ซึ่งคาดจะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (STECON) และท่องเที่ยว (MINT CENTEL) ต่อไป

 


Market Summary
SET Index ปรับลง -14.8 จุด แรงขายหลักมาจากต่างชาติขายสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท จากการปรับน้ำหนักในดัชนี MSCI ที่ตลาดคาดเม็ดเงินไหลออก 1.2 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มที่กดดันตลาด คือ กลุ่มอิเล็คฯ -3% จากศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ให้กลับมาเก็บภาษีได้ชั่วคราวเช่นเดียวกับกลุ่มนิคม -3.3% กลุ่มพลังงาน -1.8% จากกลุ่มน้ำมัน PTTEP -3% PTT -1.7% ปรับลงตามราคาน้ำมันดิบ กลุ่มที่ลงจากผลของ MSCI Rebalance ได้แก่ KTC -8.3% (หลุดดัชนี MSCI Global Standard) ADVANC -0.4% และ CPALL -1% (ถูกปรับลดน้ำหนัก) ส่วนกลุ่มที่บวกสวนตลาดรับเหมาฯ +0.4% ตอบรับจากร่างงบประมาณปี 69 ที่คาดผ่านวาระ 1 กลุ่มไฟแนนซ์ TIDLOR +3% MTC +0.6% จาก U.S. Bond Yield ปรับลง


DAILY Stock Pick
PTTEP
ภาวะสงครามและคลายกังวลอุปทาน OPEC+
หนุนราคาน้ำมัน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 132.00 บาท
น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้น WTD 4.4% หลังกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค. ตามตลาดคาด คลายความกังวลเกี่ยวกับอุปทานใหม่ในขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เป็นปัจจัยหนุน PTTEP
เราคาดการเติบโตของปริมาณการขาย PTTEP ในปี 68/69 +3.7%/6.7% ตามลำดับ หลังจากการแหล่งเอราวัณผ่านช่วง ramp up ในปีที่ผ่านมา และโครงการเพิ่มเติมที่ซื้อเข้ามา เป็นปัจจัยหนุน แม้ว่าเราคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ปี 68/69 ที่ 67-68 US$/bbl ปรับตัวลงจากปี 67 ที่ 80 US$/bbl แต่ ณ ราคาปัจจุบัน คิดเป็น PE68 ที่ 6.4 เท่า (-1.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) และ Dividend Yield ปี 68 ที่ 7.8% ช่วยจำกัด Downside

 

WEEKLY Stock Pick
ADVANC
ผ่านปัจจัยกดดันระยะสั้นไปแล้ว
กำไรยังเติบโตเด่นในปี 68
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 319.00 บาท
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ADVANC ปรับตัวลดลง 2.8% เนื่องจากความกังวลในการถูกปรับลดน้ำหนักของ MSCI ซึ่งได้ผ่านรอบการปรับไปแล้วอย่างไรก็ตามปัจจัยพื้นฐาน กำไรปี 68 เติบโตแข็งแกร่ง +21%YoY จากประหยัดต้นทุนคลื่น และ ดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ณ ราคาปัจจุบัน คิดเป็น PE68 19.7 เท่า (-0.3SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) และมีอัตราเงินปันผลปี 68 ที่ 4.6%
เราคาดกำไรในไตรมาส 2 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากการแข่งขันที่ลดลง ผ่านการปรับลด โควต้าการใช้ข้อมูล ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อหัวปรับตัวเพิ่มขึ้น 3%/7% ใน 2 ไตรมาสข้างหน้า ส่วนการค่าเสื่อมและค่าดอกเบี้ยใกล้เคียงไตรมาสก่อน

 


KEY FACTOR
ตลาดหุ้นเอเชียยังผสมผสานท่ามกลางแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ-จีนที่มีสัญญาณรุนแรงขึ้น หลังจากสหรัฐฯ เตรียมพิจารณาใช้ มาตรา 899 ซึ่งเน้นไปที่การจำกัดการทำธุรกรรมแบบระบุเฉพาะเจาะจงบริษัทที่สหรัฐฯ มองว่ากระทบต่อความมั่นคง (เช่น ในกรณีของ Huawei)
ตลาดตราสารหนี้ สะท้อนความกังวลต่อภาระทางการคลังของสหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีของสหรัฐฯ ที่ยังยืนสูง 4.9%- 5% บ่งชี้ความกังวลต่อความเสี่ยงทางการคลังของสหรัฐฯ ด้านค่าเงินดอลลาร์ (Dollar Index) ยังต่ำกว่า 100 จุด ส่งผลให้ตลาดเริ่มให้น้ำหนักไปที่โอกาสการลดดอกเบี้ย ในการประชุม FOMC 19 มิ.ย. โดยอย่างยิ่งจะมีข้อมูลตลาดแรงงานที่น่าจะส่งสัญญาณอ่อนแอลง ซึ่งทยอยประกาศในสัปดาห์นี้


EYES ON
4 มิ.ย. HCOB PMI ภาคบริการ Eurozone, การจ้างงานเอกชน ADP ของสหรัฐฯ
5 มิ.ย. Caixin PMI ภาคบริการ
6 มิ.ย. การประชุม ECB, GDP สหรัฐฯ 1Q68 (รายงานครั้งที่สาม), การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ความหวัง By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย เขียวสดใส แรงซื้อหุ้นบิ๊ก แคป หนุนนำ ท่ามกลางนักลงทุน ลุ้นผลเจรจาภาษีระหว่าง..

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

มัลติมีเดีย

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้