Company Note
SISB
ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศซบเซากระทบต่ออัตราการเติบโตของโรงเรียน จากความกังวลของภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัวส่งผลให้บริษัทมีการลดอัตราการปรับขึ้นของค่าเทอมในปีนี้เป็น 3% จากปกติปีละ 5% อย่างไรก็ตาม ความกังวลภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั้งในประเทศและทั่วโลก โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2025 GDP จะขยายตัวที่ 2.1% - 2.5% จากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 3.0% และ IMF คาดว่า GDP จะขยายตัวเพียง 1.8% ในปี 2025 และ 1.6% ในปี 2026 จากเดิมที่คาด 2.9% และ 2.6% ตามลำดับ ส่งผลให้เราคาดผลกระทบต่อจำนวนนักเรียนจะต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่คาดไว้ โดย 1Q25 ที่มีจำนวนนักเรียนลดลง และ 2Q25F ยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เราเชื่อว่าเศรษฐกิจจะที่ซบเซาจะกระทบต่อจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นสุทธิแล้วจะต่ำกว่าที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ เราปรับประมาณการลงสะท้อนภาพรวมดังกล่าว แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” แม้ว่าอัตราการเติบโตลดลงแต่เราคาดยังเติบโตได้ทุกปีต่อเนื่อง
คาดผลประกอบการ 2Q25F เพิ่มขึ้น YoY แต่คาดลดลงเล็กน้อย QoQ
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q25F จะอยู่ที่ 235 ล้านบาท (+12%YoY, -1%QoQ) เพิ่มขึ้น YoY จากฐานนักเรียนที่เพิ่มขึ้น และคาดอ่อนตัวลง QoQ จากไตรมาส 2 ไม่มีรายได้กิจกรรม และคาดจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นประมาณ 43 คนมาอยู่ที่ประมาณ 4650 คน จากสาขานนทบุรีที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก และสาขาธนบุรีเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นโดยเด็กนักเรียนส่วนใหญ่เป็นคนในประเทศ ยกเว้นสาขาประชาอุทิศที่ลดลงจากความผันผวนของนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะนักเรียนจีน ในขณะที่สาขาอื่นๆ มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยได้แก่ เชียงใหม่ และระยอง คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นและค่าใช้จ่ายใกล้เคียง QoQ จากต้นทุนส่วนใหญ่เป็นบุคลากรครูเป็นหลัก
ปรับประมาณการลงสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวกระทบต่อโรงเรียนอินเตอร์
เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-26F ลดลงจากเดิม 5% และ 9% ตามลำดับ แต่ยังคงคาดกำไรยังเติบโตได้อยู่ที่ปีละ 10% จากการปรับจำนวนนักเรียนที่คาดเพิ่มขึ้น 200 คน และ 300 คน จากเดิมที่คาด 400 คน และ 500 คน ตามลำดับ และคาดอัตราการขึ้นค่าเทอม 3% และ 5% ตามลำดับ โดยการเติบโตของจำนวนนักเรียนจะมาจากการขยายสาขาเดิมในช่วงปี 2024-25 จำนวน 1,800 ที่นั่งหรือเพิ่มขึ้น 27% และสาขาใหม่นนทบุรีที่มีจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก และปี 2026F เราคาดจำนวนนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้นจากสาขาใหม่รังสิตที่ 7 ที่คาด 100 คน และสาขาเดิม 200 คน ในขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่จากบุคลากรครูเป็นหลัก เราคาดอัตราทำกำไรเพิ่มขึ้น จากสัดส่วนนักเรียนต่อครูที่ 8:1 และคาดอัตราส่วนจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตราทำกำไรเพิ่มขึ้นจากการเกิดการประหยัดขนาด (economy of scale)
เรายังคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ 25 บาท
เราแนะนำ “ซื้อ” จากคาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากการเติบโตของโรงเรียนทุกสาขาที่มีทำเลดีและค่าเทอมอยู่ระดับกลางในกลุ่มโรงเรียน Inter Premium รวมถึงมีหลักสูตรสิงคโปร์ 3 ภาษา ที่มีภาษาจีนเพิ่มขึ้นตอบโจทย์ผู้ปกครอง ราคาเป้าหมายใหม่จากการปรับประมาณการอยู่ที่ 25 บาท จากเดิม 34.80 บาท อ้างอิงวิธี DCF (WACC 8.9%, T-growth 1%) บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ (net cash) ความเสี่ยง : 1) การแข่งขันของโรงเรียนนานาชาติ 2) การขาดแคลนบุคลากร