Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

164

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 28 พ.ค.68 ปิด -2.68 จุด อยู่ที่ 1,160.74 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,281 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 141 ลบ. สถาบันขาย 7 ลบ. รายย่อยขาย 194 ลบ และต่างชาติซื้อ 342 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 7 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น KTC,SCC,KBANK,TRUE,AOT และยอดขายหุ้น DELTA,GULF,ADVANC,BDMS,CPALL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,985 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ JAPAN10001,HKCE01,INDIA01 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 9,569 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 59,813 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,447 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.58%, S&P500 -0.56%, Nasdaq -0.51% นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภค -1.44%, วัสดุ -1.27% กอปรกับ Nvidia -0.5% ก่อนการรายงานงบ แม้ว่ายอดขาย Q1 จะสูงกว่าคาด ขณะที่ Fed Minutes การประชุม 6 – 7 พ.ค. คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นควรคงดอกเบี้ย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.61% จากแรงชายกลุ่มรถยนต์ -0.7% ขณะที่กลุ่มป้องกันประเทศ +0.7% ยังกังวลต่อภาวะสงครามรัสเซีย – ยูเครน    

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลัง ปธน.ทรัมป์สั่งให้บริษัทผลิตดีไซน์ชิปหยุดขายซอฟท์แวร์ให้กับลูกค้าจีน กอปรกับ Fed Minutes การประชุมวันที่ 6 – 7 พ.ค. เฟดยังกังวลต่อความไม่แน่นอนนโยบายการค้า แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐ & ตลาดแรงงานยังสมดุลดี แต่ยังมีความเสี่ยงชะลอตัว จึงเห็นควรคงดอกเบี้ย ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.52% ขณะที่ ราคาหุ้น Nvidia หลังปิดตลาด +4.4% ตอบรับรายงานกำไร Q1/68 ดีกว่าคาด +3.2% ได้แรงหนุนจากรายได้ธุรกิจ Data Center +73% และรายได้ธุรกิจเกมส์ +42% YoY

ข้อมูลสำคัญค่ำวันนี้ติดตาม US GDP Q1/68 ครั้งที่ 2 คาด -0.3% & Q4/67 +2.4% QoQ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และค่ำวันพรุ่งนี้ติดตาม US PCE เม.ย. คาด 2.2% & มี.ค. 2.3% YoY

  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง นำโดย DAX เยอรมัน -0.78% หลังข้อมูลราคานำเข้าเยอรมัน เม.ย. -0.4% YoY และอัตราว่างงาน พ.ค. ยังทรงตัวที่ 6.3% ส่วน CAC40 ฝรังเศส -0.49% หลังข้อมูล GDP ฝรั่งเศส Q1/68 0.6% ชะลอตัวจาก Q4/67 ที่ 0.8% YoY โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์ยังถูกกดดันจากควาไม่แน่นอนการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐ ขณะที่หุ้นกลุ่มป้องกันประเทศ +0.7% จากความกังวลภาวะสงครามรัสเซีย – ยูเครน
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีฮั่งเส็ง -0.53% หลังราคาหุ้น PDD Holdings เจ้าของแพลตฟอร์ม Temu รายงานกำไรไตรมาสที่ผ่านมา -47% ส่งผลให้นักลงทุนกังวลบริษัทจะกลยุทธ์การลดราคาสินค้า ซึ่งจะส่งผลลบต่อกำไรในปีนี้ ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ปิดทรงตัว โดยนักลงทุนยังรอความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐ - จีน รวมถึงข้อมูล PMI ภาคการผลิต & บริการจีน พ.ค. ขณะที่ Kospi เกาหลีใต้ +1.25% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และเช้านี้ติดตาม ธ.กลางเกาหลีใต้อาจปรับลดดอกเบี้ยลง 25% อยู่ที่ 2.50%
  • SET วานนี้ -0.23% ปริมาณการซื้อขาย 62 หมื่น ลบ. รายย่อยขาย 194 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 141 ลบ. สถาบันขาย 7 ลบ. และต่างชาติซื้อ 342 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มอิเล็ก ฯ นำโดย DELTA -3.2% หลังราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังผวนตาม US Bond Yield ระหว่างรอข้อมูล US PCE ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ส่วน KBANK – GULF ก็ปรับลดลง หลัง GULF รายงานข่าวหุ้น KBANK จำนวน 0.386% ในช่วงวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้สัดส่วนการถือหุ้น KBANK ของ GULF ลดลงอยู่ที่ 4.626% เพื่อเลี่ยงปัญหาเพดานสินเชื่อที่ ธปท.กำหนดไว้ ขณะที่กลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ รับเหมาก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง ที่ได้ปัจจัยหนุนจากงบประมาณการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานปี 69 ส่วนกลุ่มปิโตรเคมีก็มีแรงซื้อเก็งกำไร จากคาดการณ์กำไรปีนี้มีโอกาสฟื้นตัวจากฐานต่ำ กอปร TOP มีประเด็นข่าวบวกความคืบหน้าโครง CFP โดยภาพรวมดัชนี SET ยังถูกกดดันจากำไร บจ.ที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ โดย Bloomberg ได้ปรับลด SET EPS ปีนี้ลงอยู่ที่ 90.2 ลดลง -4% MoM สัปดาห์นี้ติดตามการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายปี 69 วาระแรก, MSCI รีบาลานท์หุ้นไทยในช่วงปิดตลาดวันศุกร์ ซึ่งจะลดน้ำหนักหุ้นไทยมูลค่าราว 1.2 หมื่น ลบ. รวมถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้าไทย – สหรัฐ  

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,150 โดยมีแนวต้าน 1,170 คาดดัชนีได้แรงจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปในเอเชีย กอรปรกับศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐมีคำสั่งให้ระงับการใช้ ม.ภาษีของ ปธน.ทรัมป์ เนื่องจากใช้อำนาจเกินขอบเขต ดังนั้นจึงแนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่ม Global Play เช่น DELTA,SCGP,PTTGC,IVL,TOP และกลุ่มรับเหมา, วัสดุ เช่น CK,STEC,SCC,TASCO ได้ประโยชน์จากงบคมนาคมปี 69 วเงิน 2.6 แสน ลบ.
  • PTTGC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 30 บาท) มีปัจจัยหนุนจากสัญญาณฟื้นตัวของ product spread ธุรกิจโอเลฟินส์ และปริมาณวัตถุดิบที่ได้รับจาก PTT เพิ่มขึ้น อีกทั้งความคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่มีความคืบหน้า แนวโน้ม 2Q68 คาดผลการดำเนินงานหลักฟื้นตัว ธุรกิจโรงกลั่นดีขึ้นค่าการกลั่น ธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์และโพลิเมอร์อัตรากำไรฟื้นตัวจากความมาตรการตุ้นเศรษฐกิจของจีน ช่วยชดเชยการปิดซ่อมบำรุงตามโรง OLE2/1 และธุรกิจอะโรเมติกส์ที่อ่อนแอ ขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Allnex) ผลประกอบการดีขึ้นตามปริมาณขายที่เข้าช่วง high season ส่วนในปี 68 เราประเมินภาพการฟื้นตัวโดยหลักมาธุรกิจโอเลฟินส์และ Allnex รวมถึงรับรู้ขาดทุนของ Vencorex ลดลง และไม่มีค่าใช้จ่ายด้อยค่าก้อนใหญ่อีก
  • GFPT* (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.52 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q68 +QoQ +YoY ปัจจัยบวกจากปริมาณการส่งออกที่+YoY, ต้นทุนอาหารสัตว์ไม่สูง และ Equity Income ที่สูงขึ้น(GFN, McKey) ด้านการดำเนินงาน 2Q67 คาดว่าจะยังอยูในเกณฑ์ดีจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง ขณะที่ผู้ส่งออกไก่รายใหญ่อย่างบราซิลมีปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก ด้านมูลค่าการส่งออกของไทยช่วงเม.ย.68 ยังบวกดีYoY โดย ไก่แปรรูป+6%YoY และ ไก่สดแช่แข็ง+15%YoY  ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ GFPT* จะประคองตัวดีอยู่ที่ 1,947 ลบ.(-1%YoY) และ 1,993 ลบ.(+2%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ก.ค.+$0.95 อยู่ที่ $61.84 / บาร์เรล, Brent ก.ค. +$0.81 อยู่ที่ $64.90/บาร์เรล หลังผลการประชุมโอเปกพลัสมีมติคงลดกำลังการผลิตน้ำมันรวม 2 ล.บาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปี 2569 ส่วนวันเสาร์นี้ สมาชิก 8 ชาติได้แก่ รัสเซีย ซาอุฯ แอลจีเรีย อิรัก คาซัคสถาน คูเวต โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ จะจัดประชุมต่างหาก คาดจะมีการเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรล/วัน ใน ก.ค. โดยราคาน้ำมันได้ปัจจัยหนุน หลังสหรัฐสั่งแบนเชฟรอนส่งออกน้ำมันจากเวเนซุเอลา

 

Gold Update(-) Comex Gold มิ.ย.-$5.50 อยู่ที่ $3,294.9 /ออนซ์ หลัง Fed Minutes พ.ค. คณะกรรมการเฟดมีความเห็นให้คงดอกเบี้ยต่อ โดยนักลงทุนรอประเมินข้อมูล US PCE เม.ย. ที่จะรายงานในช่วงค่ำวันศุกร์นี้

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +106.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +10.47 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด ฯ +83.89 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +12.38 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 32.82 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.515 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +7 จุด อยู่ที่ 1,303

(-) BitCoin เช้านี้ -1.09% อยู่ที่ 108,011 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

30 พ.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย  

สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

                สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

                ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

26 พ.ค.     US วันหยุด-วันระลึกถึงทหารที่จากไป

27 พ.ค.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี  ( พ.ค.)

29 พ.ค.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US รายงานการประชุมของ FOMC

                US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1)   

30 พ.ค.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index (เม.ย.)

31 พ.ค.     CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( พ.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: PLANB*, TASCO*, TFG*, STECON, IVL*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

รอ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ยังคงรอ การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI จะมีผล ณ ราคาปิดในวันนี้ โดย MSCI Global ....

ATLAS ลุยโรดโชว์ จ.นครราชสีมา กระแสตอบรับล้นหลาม

ATLAS ลุยโรดโชว์ จ.นครราชสีมา กระแสตอบรับล้นหลาม

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้