SJWD : ขับเคลื่อนการเติบโตด้วยกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์
พื้นฐานแข็งแกร่ง กลยุทธ์ชัดเจน และยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
จากการประชุมนักลงทุนล่าสุดกับ SJWD เราขอยืนยันมุมมองเชิงบวกต่อบริษัทและคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น SJWD ยังคงอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการสร้างการเติบโตของกำไรอย่างยั่งยืนในปี 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เติบโตต่อเนื่อง ประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีขึ้น การบริหารต้นทุนอย่างมีวินัย และต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการชำระหนี้และรีไฟแนนซ์เชิงรุก กลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีการเติบโตสูง พร้อมกับการจัดสรรเงินทุนอย่างรอบคอบและการบริหารสินทรัพย์ให้เกิดมูลค่า ตอกย้ำจุดแข็งในการสร้างคุณค่าในระยะยาว เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”
การดำเนินงานแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจหลัก
SJWD ยังคงแสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ การขนส่ง โลจิสติกส์ยานยนต์ ธุรกิจต่างประเทศ และคลังสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการให้บริการโลจิสติกส์แก่กลุ่ม SCC จาก 60% เป็น 65% ของปริมาณโลจิสติกส์ทั้งหมดของ SCC ภายในปี 2025 กลุ่มยานยนต์มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากเป้าหมายการผลิตรถยนต์ของ BYD ที่ 60,000 คันในปีนี้ รายได้จากต่างประเทศ โดยเฉพาะ SCG International Vietnam คาดว่าจะเพิ่มขึ้น อีกทั้งคลังสินค้าใหม่หลายแห่ง เช่น RDC, PACS สระบุรี เฟส 2, PACR (แอลฟา รังสิต), SCG Nichirei เฟส 3 และแอลฟา บางกระดี จะเริ่มสร้างรายได้เมื่อเปิดดำเนินงานในปี 2025
แนวโน้มกำไรและกลยุทธ์เชิงรุก
คาดว่ากำไรจะเติบโตต่อเนื่อง YoY โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มคลังสินค้า การขนส่ง และการดำเนินงานในต่างประเทศ รายได้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนจะได้รับอานิสงส์จากผลประกอบการที่ดีขึ้นของ Transimex, SWIFT, Siam JWD Logistics และ Alpha อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการรายไตรมาสอาจลดลงจากการไม่มีรายการขายที่ดินในกัมพูชาที่บันทึกไว้ใน 1Q25 และกำไรพิเศษใน 2Q24 แม้จะมีผลกระทบทางอ้อมจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ แต่ SJWD มีรายได้จากตลาดสหรัฐฯ โดยตรงน้อยกว่า 1% และมีฐานการดำเนินงานกระจายอยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียน จึงช่วยลดความเสี่ยงด้าน downside ได้ บริษัทให้ความสำคัญกับความสามารถในการทำกำไรและประสิทธิภาพการใช้เงินทุน โดยมีแผนขายคลังสินค้าสูงสุด 4 แห่ง มูลค่ารวม 2.5-3 พันล้านบาท เข้ากอง REIT ใน 2H25 เพื่อระดมทุนสำหรับการลงทุนใหม่และชำระหนี้ คาดว่าจะรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์ราว 70-80 ล้านบาท
การประเมินมูลค่าและคำแนะนำการลงทุน
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SJWD โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับที่ 13.70 บาทต่อหุ้น โดยอิงจากวิธีการประเมินมูลค่าด้วย DCF สมมติฐานหลัก ได้แก่ WACC ที่ 7.4% ต้นทุนส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 9.6% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (risk-free rate) ที่ 3.2% และส่วนชดเชยความเสี่ยงตลาด (market risk premium) ที่ 6.4% โครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทสูงสุด 50 ล้านหุ้น มูลค่า 300 ล้านบาท ยังช่วยสนับสนุนราคาหุ้นไม่ให้ปรับตัวลงมาก ด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน พื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และการบริหารเงินทุนอย่างมีวินัย SJWD ยังคงเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจในกลุ่มโลจิสติกส์