Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) : OKJ แนะนำซื้อ ปรับราคาพื้นฐานเป็น 12 บาท

122

 

 

 

---เติบโตจากการขยายสาขา แม้ SSSG อ่อนแอ---
Key Point :
1Q68 ยอดขาย 708 ลบ. +32.9% y-y และกำไรสุทธิ 64 ลบ. +48.7% y-y จากการเติบโตของ OKJ, Oh!Juice แม้ SSSG OKJ ชะลอเหลือ 0.1% จากแผ่นดินไหวและเศรษฐกิจซบเซา GPM ดีขึ้นเป็น 46.7% จากการควบคุมต้นทุนและ economies of scale แผนปี 68 จะขยาย OKJ เป็น 47 สาขา, Oh!Juice 30 สาขา และ Joe Wing 6 สาขา ทางฝ่ายคาด SSSG ปี 68 อ่อนตัว -8% แต่ยอดขายรวมยังโตจากการเปิดสาขาใหม่ Joe Wing แบรนด์ไก่ทอดใหม่เริ่มต้นดีแต่เจอปัญหาเสิร์ฟล่าช้า บริษัทเร่งแก้ไข ทางฝ่ายคาดยอดขายปี 68 โต +19.5% และกำไรสุทธิโต +43.1% ปรับราคาพื้นฐานลงจาก 18.30 บาทเป็น 12.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

 1Q68 ยอดขาย 708 ลบ. +2.5% q-q, +32.9% y-y เพิ่มจากแบรนด์ OKJ, Oh!Juice และ OKJ Wrap & Roll แต่ 1Q68 SSSG ของ OKJ เหลือเพียง 0.1% เท่านั้นจากการปิดร้านวันแผ่นดินไหวและเศรษฐกิจชะลอตัวโดยลดลงจาก Traffic เป็นหลักในขณะที่ยอด spending/bill ยัง flat y-y หากไม่รวมเหตุการณ์ปิดร้านในวันแผ่นดินไหว คาดมี 1Q68 SSSG ที่ 1.2% ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำสำหรับบริษัทที่นักลงทุนต่างคาดหวัง SSS ที่สูง รายงาน GPM ที่ 46.7% +280 bps q-q, +230 bps y-y เพิ่ม y-y จากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นและ Economies of Scale จากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น SG&A/Sales ที่ 35.6% -150 bps q-q, +110 bps y-y ลด q-q จากค่าใช้จ่ายการจัดกิจกรรมและค่าการตลาดที่น้อยลง เพิ่ม y-y จากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น กำไรสุทธิที่ 64 ลบ. +62.6% q-q, +48.7% y-y

 


  สิ้น 1Q68 บริษัทมีสาขา OKJ 41 สาขา, Oh!Juice 18 สาขา (+3 สาขาจากปี 67), OKJ Wrap & Roll 1 สาขาและในเดือนเมษายนได้เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ “Joe Wing” 1 สาขา คาดเปิดสาขา OKJ เพิ่ม 4-6 สาขา, Oh!Juice เพิ่มอีก 12 สาขา, และ Joe Wing อีก 5 สาขา คาดว่าสิ้นปี 2568 จะมี OKJ 47 สาขา, Oh!Juice 30 สาขา, OKJ Wrap & Roll 1 สาขา, และ Joe Wing 6 สาขา ทางฝ่ายเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ชะลอตัว ส่งผลให้ SSSG ลดลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ดังนั้นการหวังพึ่งการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมที่มีอยู่อาจค่อนข้างท้าทาย การที่บริษัทยังคงขยายสาขาอย่างรอบคอบ+Organic จะเสริมยอดขายโดยรวมของบริษัทได้ เมื่อถึงวันที่เศรษฐกิจฟื้นตัว การบริโภคมากขึ้น เชื่อว่า OKJ ได้รับประโยชน์จากยอดขายต่อสาขาที่เพิ่มขึ้นคูณจำนวนสาขาที่เฝ้าขยายมาในช่วยก่อนหน้า

 


  OKJ ส่งแบรนด์ไก่ทอดใหม่อย่าง Joe Wing ลงตลาดไก่ทอด Quick Service Restaurant (QSR) ที่มีมูลค่า 27,600 ลบ. เปิดสาขาแรกที่ Siam Paragon มี Spending/bill ที่ 400 บาท มีลูกค้าเฉลี่ย 404 คนต่อวัน สร้างยอดขายกว่า 1.6 แสนบาทต่อวัน โดยจะเน้นเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าก่อน ยังไม่มีแผนเปิดในปั้มน้ำมัน อย่างไรก็ตามร้าน Joe Wing พบปัญหาการเสิร์ฟอาหารช้า โดยได้รับคะแนนรีวิวบน Google เพียง 2.9 ดาว ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้มาก บริษัทแจ้งปกติจะใช้เวลา 8-10 นาที/ออเดอร์ตามแผน แต่เกิดความล่าช้าจากการที่ลูกค้าจำนวนมากประกอบกับใช้เวลาสั่งอาหารนาน บริษัทจะเร่งดำเนินการแก้ไขให้อยู่ในกรอบเวลา 8-10 นาที/ออเดอร์ เล็งขยายอีก 5 สาขาในปี 68

 


  ทางฝ่ายคาดการณ์ยอดขายทั้งปีที่ 2,893 ลบ. +19.5% จากจำนวนแบรนด์และสาขาที่เพิ่มขึ้น และคาด GPM ที่ 46% +150 bps เพิ่มจากสัดส่วนยอดขายของ Oh!Juice และ Joe Wing ที่ให้ GPM สูงกว่าค่าเฉลี่ยบริษัท คาดกำไรสุทธิที่ 289 ลบ. +43.1% จากยอดขาย, GPM ที่เพิ่มขึ้นและ SG&A/Sales ที่ลดลงจาก Economies of Scale ของจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามทางฝ่ายมีมุมมองลบต่อ FY68 SSSG ของ OKJ (Full-Service Restaurant) คาด -8% จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนตัวต่อเนื่อง

 


  แม้ SSSG ใน 1Q68 จะชะลอลงเหลือเพียง +0.1% และคาดว่า 2Q68 อาจติดลบถึงระดับสองหลักจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง แต่เรายังคงมองว่า OKJ มีศักยภาพในการเติบโตในระยะกลางถึงยาวผ่านการขยายสาขาไปยังจังหวัดใหม่ ๆ และการแตกแบรนด์เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบจาก SSSG ที่อ่อนแอ ทางฝ่ายคาดยอดขายปี 2568 จะเติบโต 19.5% ขณะที่ SSSG คาดอยู่ที่ -8% ต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ +2% ถึง +5% เนื่องจากมองว่า 2H68 จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่ต่างจาก 1H68 อย่างไรก็ดี ด้วยแผนการขยายสาขาและฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง เชื่อว่า OKJ จะยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยปี 66–71 ได้สูงกว่าคาดการณ์การเติบโตของตลาดร้านอาหารและเครื่องดื่มปี 68 ที่ +4.6% ทำให้ยังเป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน

 

ราคาพื้นฐานปี 2568 ที่ 12.00 บาทต่อหุ้น โดยวิธี DCF

 ประเมินราคาพื้นฐานด้วยวิธี DCF-Free Cash Flow to Equity (FCFE) ค่า Beta ที่ 0.98, r(e) ที่ 7.5% และ Sustainable growth rate ที่ 1.1% ทางฝ่ายมองว่ายอดขายสาขาเดิมในปี 68 อาจลดลงได้ถึง -8% มากกว่าที่บริษัทคาดการณ์ที่ 2-5% แม้ยอดขายจากสาขาเดิมลดลง แต่การขยายสาขาและเปิดตัวแบรนด์ใหม่สามารถชดเชยได้ การขยายสาขาจะทำให้เกิด Economy of Scale เชื่อว่า SG&A/Sales จะลดลงตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น

 ทางฝ่ายเปรียบเทียบการประเมินราคาพื้นฐานทั้งวิธี P/E และ DCF อยู่ที่ราคา 11.10 บาทและ 12.00 บาทตามลำดับ มองว่า DCF สะท้อนโอกาสการเติบโตระยะยาวจากการขยายสาขาได้ดีกว่า ปรับราคาพื้นฐานลงจาก 18.30 บาทเป็น 12.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

 

อดิสรณ์ มุ่งพาลชล
นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ #18577
โทร: +66 2 153 9290#489

ภัทร เชื้อนาคะ
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เลขสวย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้าวันนี้ SET เลขสวย เพิ่มขึ้น 8.88 จุด ตามเซ็นติเมนท์บวกจากปัจจัยต่างประเทศ ......

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้