สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(28 พฤษภาคม 2568)-----InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 มองตลาดเริ่มมีโอกาสรีบาวด์ที่แนวรับ หลังลงมาต่อเนื่องและเริ่มเข้าใกล้แนวรับหลักที่ 1155 โดยปกติระดับนี้จะทำให้มีการชะลอการลงหรือรีบาวด์ได้ ส่วนการปรับตัวขึ้นมีแนวต้านที่ 1175/1180 ตลาดรับรู้ปัจจัยลบไประดับหนึ่ง ติดตามการโหวตงบประมาณปี 2569 ที่เป็นสัญญาณสำคัญทางการเมือง

ประเด็นสำคัญ

• ผู้ว่าแบงก์ชาติส่งหนังสือถึงรัฐบาลแนะตีกรอบใช้งบกระตุ้นศก. 1.57 แสนล้านควรใช้ดูแลกลุ่มผู้ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ กลุ่มผู้ผลิตที่กระทบจากสินค้าทะลักเข้าไทย กลุ่ม SME เจอ Import Flooding ปรับตัวยาก
• อัพเดทตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ที่ 21 ของปี 2568 ระหว่างวันที่ 19 - 25 พ.ค. 2568 ยังเป็นลบ ลดลงต่อเนื่อง 22% YoY แต่คงที่ WoW เราให้น้ำหนัก Neutral ในกลุ่มท่องเที่ยว โดย MINT เป็นหุ้นเด่น
• ตลท. เดินหน้าเพิ่มโปรดักส์ใหม่ เปิดทางธุรกิจ New Economy เข้าตลาดหุ้นง่ายขึ้นพร้อมจูงใจดึงธุรกิจครอบครัว-ต่างชาติให้ Spin-Off เข้าตลาด ปรับเกณฑ์หุ้นบุริมสิทธิและร่วมมือ BOI
• สภาผู้บริโภคขอศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวเพื่อชะลอการประมูลคลื่นความถี่ โดย กสทช. และขอให้ไต่สวนฉุกเฉินกรณี กสทช. ออกประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตสำหรับย่าน 2100 และ 2300 Hz ท่ามกลางภาวะตลาดปัจจุบันที่มีการแข่งขันต่ำ ผู้เล่นน้อยราย และปัญหาเชิงโครงสร้างเรามองจะเป็น Overhang และอาจจะเป็น Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้นในกลุ่ม
• สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีนเผยว่าจีนกำลังดำเนินการควบคุมการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กเพื่อลดความไม่สมดุลของอุปสงค์-อุปทาน เผชิญกับปัญหากำลังการผลิตส่วนเกิน ความต้องการในประเทศที่ลดลงจากวิกฤตอสังหาฯ
• ติดตามการประชุมสภาผู้แทนฯ ระหว่างวันที่ 28-31 พ.ค. นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2569 วาระแรก กรอบวงเงินรวม 3.78 ล้านลบ.

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัว รอปัจจัยใหม่หลังประกาศผลประกอบการ 1Q68 แล้ว และแนวโน้มช่วง 2H68 มีโอกาสชะลอตัวจากผลกระทบภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ทำให้เกิดแรงขาย ส่วนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ จะไม่เป็นรูปแบบทวิภาคี แต่สหรัฐฯ จะประกาศฝ่ายเดียวในอีก 2-3 สัปดาห์ ทำให้กลับมามีความไม่แน่นอนอีกครั้ง รวมถึงการเคลื่อนไหวของขั้วการเมืองก่อนสภาพิจารณางบฯ ปี 2569 หากดัชนีปรับลงหรือพักตัวลงมาสู่แนวรับแรกที่ 1170 และ 1155/1120-1100 เรามองเป็นโอกาสเข้าซื้อสะสมสำหรับลงทุนระยะยาว ประเมินสถานการณ์สงครามการค้าโลกในแง่ของอัตราภาษีที่ระดับสูงสุดมีโอกาสผ่านไปแล้ว แต่ยังเสี่ยงจากระดับอัตราภาษีที่ไทยจะได้รับสูงกว่าคู่แข่งการค้าหลัก ติดตาม MSCI Rebalance ในสัปดาห์นี้ กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

แนวรับ-ต้าน
1160/1155 – 1175/1180

ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีโอกาสแกว่งลงเพื่อรอปัจจัยใหม่ และการเจรจาภาษีสหรัฐฯ อาจมีผลกระทบต่อแนวโน้มงบ 2H68 ขณะที่การเมืองเกิดความไม่แน่นอนอีกครั้งในช่วงก่อนพิจารณางบฯ ปี 2569 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ เลือก ADVANC TRUE CPALL BTG CPF
2. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ พบหุ้นน่าสนใจ SET50 : ADVANC BDMS CPALL PTT และ SET100 : BCH BTG AP
3. หุ้น SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป พร้อมคาดให้ Div. Yield ตั้งแต่ 5% ขึ้นไป อีกทั้งเราแนะนำ Outperform แนะนำ PTT KTB BBL HMPRO
4. Trading Idea : นักลงทุนที่ไม่ชอบรับความเสี่ยงแต่มองเห็นโอกาสเก็งกำไรหากตลาดปรับตัวลง แนะนำหุ้นตั้งรับซึ่งมี Beta < 1 และรายได้สามารถต้านทานความผันผวนของเศรษฐกิจได้ เนื่องจากมีความสามารถในการกำหนดราคาและส่งผ่านต้นทุนได้ (High Pricing Power) ทำให้กำไรยังมั่นคงและมีแนวโน้มเติบโตได้ ได้แก่ ADVANC TRUE BTG BCH LHSC

Daily top picks
MTC : มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจาก Bond Yield ลง คาดว่ากำไรสุทธิ 2Q68 จะเติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ และในปี 2568 คาดกำไรเติบโต 16%YoY และมองเป็นหุ้น Undervalued ปัจจุบันซื้อขายที่ PER 68F ระดับ 13.9 เท่า คิดเป็น -2SD และคาดจะเป็นเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX จากมี SETESG rating ระดับ AAA

DELTA : ราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวตามภาพรวมของตลาด รายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่คาดว่าจะเติบโต 50%YoY และน่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 50-55% ของรายได้รวมภายในสิ้นปี 2568 ในขณะที่คาดว่าสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ EV จะลดลงจาก 25% มาอยู่ที่ราว 20% ลดความเสี่ยง วันนี้แนะซื้อเก็งกำไรไม่เกิน ราคา 112 บาทต่อหุ้น