คาด SET Index แกว่งตัวออกข้าง : คาดแรงหนุนมาจากความหวังว่าภาครัฐจะดำเนินมาตรการสนับสนุนตลาดทุนเพิ่มเติม รวมถึงแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มสินค้าที่การส่งออกขยายตัวได้ดี หากแต่มองทางขึ้นจำกัด ท่ามกลางความกังวลสินค้าจีนถล่มไทย

แนวรับ-ต้าน
1,170-1,185

กลยุทธ์การลงทุน
1) โครงการ+มาตรการภาครัฐ : CK, MINT, KTB, SEAFCO, STECON, UNIQ, WHA
2) ส่งออก : AAI, CCET, DELTA, HANA, ITC, STA, TEGH, TFG
3) Thai ESGX : BBL, GULF, KBANK, PTT, SCB
4) Short sell : AAV, BA, GLOBAL, DOHOME

หวังรัฐดึงเม็ดเงินเข้าตลาดทุนไทย

หวังมาตรการภาครัฐดึงเม็ดเงินเข้าตลาดทุนไทย : คาด Sentiment เชิงบวกมาจากความหวังว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นตลาดทุนเพิ่มเติม หลังวานนี้รองนายกฯและรมว.คลัง เผยสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นอาจต้องทบทวนนโยบายเพื่อช่วยสนับสนุนการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งก่อนหน้านี้มีการหารือกับกองทุนหลายแห่ง เพื่อจะทบทวนนโยบายการลงทุนของกองทุน นักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มประกันภัย/ชีวิต เพื่อแก้ไขกติกาให้กองทุนหรือนักลงทุนสถาบันเหล่านี้ สามารถกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ส่วนใหญ่เน้นลงทุนแต่พันธบัตรรัฐบาลเท่านั้น อีกทั้ง ในวันที่ 25 พ.ค.68 กรมสรรพากรยังเผยว่าอยู่ระหว่างการยกร่างแก้ไขภาษีเงินได้ที่มีแหล่งเงินได้ในต่างประเทศ ให้สามารถนำกลับเข้าไทยโดยไม่มีภาระภาษี เพื่อให้เม็ดเงินกลับเข้ามาลงทุนในไทย นอกจากนี้ ติดตามการประชุมครม.ในวันนี้ ซึ่งอาจเป็นอีก Sentiment เชิงบวกต่อ SET Index หากมีการเผยถึงพัฒนาการของมาตรการ โครงการภาครัฐ

ส่งออกโตดี 2 หลักต่อเนื่อง : นอกจากนี้ ภาพการส่งออกของไทยเดือนเม.ย.68 ที่ขยายตัว 10.2% y-y ซึ่งนับเป็นการขยายตัว 2 หลักเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน มีแนวโน้มเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ SET Index โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มสินค้าที่การส่งออกขยายตัวได้ดี อาทิ ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป (+8.6%) อาหารสัตว์เลี้ยง (+10.1%) ยางพารา (+22.5%) ผลิตภัณฑ์ยาง (+15.9%) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+75.1%) และแผงวงจรไฟฟ้า (+39%) เป็นต้น

 นำเข้าจีนโตโดด สัญญาณสินค้าถล่มไทย : อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นจำกัด ท่ามกลางสัญญาณการถล่มเข้ามาของสินค้าจากจีน หลังการนำเข้าของไทยเดือนเม.ย.68 ขยายตัวถึง 16.1% y-y ซึ่งขับเคลื่อนโดยการนำเข้าจากจีนที่ขยายตัว 38.8 y-y และคิดเป็น 30.5% ของการนำเข้ารวม ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มีข้อมูลในปี 2538 และหากพิจารนาการนำเข้าจากจีนเดือนเม.ย.68 ในรายหมวดสินค้าพบว่าขยายตัวในทุกหมวด อาทิ สินค้าทุน (+61.1%) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปขยายตัว (34.3%) และสินค้าอุปโภคบริโภค (+19%) เป็นต้น ภาพข้างต้นส่งผลให้เกิดความกังวลต่อผู้ประกอบการไทยที่ต้องแข่งขันกับสินค้าจีน โดยเฉพาะในภาคการผลิต

ปัจจัยเพิ่มเติม

(+) บีโอไอ เผยเมื่อวันที่ 23 พ.ค.68 ได้ร่วมกับ KOTRA และ KTCC จัดสัมมนาในหัวข้อ Thailand Business Essentials : A Comprehensive Guide for Korean Executives ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีบริษัทเกาหลีตั้งฐานการผลิตอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนเกาหลี

(+) กฟผ. เผยแนวโน้มค่าไฟฟ้าในอนาคตมีโอกาสต่ำกว่างวดปัจจุบันจากเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้ามีราคาลดลง สวนทางกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น

(-) KKP Research คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะไม่ฟื้นตัวกลับมาในเวลาอันสั้น จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปให้ความสนใจปัจจัยอื่น อาทิ ความปลอดภัย สถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูด มากกว่าราคาเพียงอย่างเดียว รวมทั้งนักท่องเที่ยวบางส่วนได้มาเที่ยวไทยก่อนหน้านี้แล้ว

 (-) SCB EIC มองสัญญาณเศรษฐกิจไทยช่วงข้างหน้าจะแผ่วลง โดย GDP2H68 อาจโตเฉลี่ยไม่ถึง 1%

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์