Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

137

 


VOLUME เบา นักลงทุนงงรอปัจจัยคลี่คลาย
TOP PICK GULF/ KTB / GPSC


EXTERNAL FACTOR

• วานนี้ตลาดหุ้นโซนยุโรป และ ญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้นราว 1%-1.7% จากความกังวลนโยบายภาษีสหรัฐฯต่อยุโรป และญี่ปุ่นผ่อนคลายลง ส่วนประเทศไทยสถานะการเจรจาเรื่อง TARIFF ยังอยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ได้เจรจาอย่างเป็นทางการ จึงทำให้นักลงทุนยังไม่กล้าที่จะลงทุนอย่างจริงจัง
• อีกหนึ่งประเด็น คือ การรอเทียบท่าเรือใน EU ล่าช้าเพิ่มขึ้น 44-77%จึงเริ่มเห็นจำนวนการขนส่งแทนจากจีนไปสหรัฐฯ ทำให้ความเสี่ยงค่าระวางเรือมีโอกาสเพิ่มขึ้น และหนุนต้นทุนขนส่งสูงขึ้นทั่วโลก แนะเก็งกำไรสั้นๆ กลุ่มเดินเรือ : WICE, SJWD, SINO, RCL, LEO


INTERNAL FACTOR
• วานนี้กระทรวงพาณิชย์เผย ตัวเลขส่งออกไทยเดือน เม.ย. 68 โตเพียง +10.20%YOYต่ำกว่าคาดที่ 12.2% แต่นำเข้าขยายตัวถึง +16.1%YOY สูงกว่าคาดที่ 7.3% กดดันดุลการค้าขาดดุล 3,320 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
• ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้บ้านเราเร่งการส่งออก-นำเข้าในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เราเริ่มเห็นสัญญาณความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น
• กรณีดุลการค้าขาดดุลต่อเนื่อง อาจทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มกลับไปขาดดุลได้อีกครั้ง และกดค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าจากระดับปัจจุบันแข็งค่าใกล้ 31.9-32 บาท

 

INVESTMENT STRATEGY
• วานนี้ SET มีมูลค่าซื้อขาย 2.77 หมื่นล้านบาท ลดลง -34% เทียบค่าเฉลี่ย YTD และหากเทียบค่าเฉลี่ย 1 เดือนจะลดลง 24% ซึ่งแห้งเหือดกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านทั้งสิ้น อาทิ JAKARTA +62.5% HANG SENG +4.4%TAIWAN -1.4% KOSPI -11.7% NIFTY50 -17.4%
• กลยุทธ์แนะเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ในหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจ โดยมีค่าเฉลี่ย VOLUME (MTD) มากกว่าค่าเฉลี่ยVOLUME(YTD) และราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในเดือนนี้ สวนทางตั้งแต่ต้นปีที่ปรับตัวลงมาแรง อาทิ KBANK TIDLOR SCC RCL PLANB SJWD CKP เป็นต้น


ประเด็น TRADE WAR ผ่อนคลายในบางประเทศ ส่วนไทยเก็งกำไรสั้นๆ กลุ่มเดินเรือ
วานนี้ตลาดหุ้นโซนยุโรป และ ญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้นราว 1%-1.7% จากความกังวลนโยบายภาษีสหรัฐฯต่อยุโรป และญี่ปุ่นผ่อนคลายลง(รายละเอียดในบทวิเคราะห์ MARKET TALK วานนี้) ส่วนประเทศไทยสถานะการเจรจาเรื่อง TARIFF ยังอยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ได้เจรจาอย่างเป็นทางการ จึงทำให้นักลงทุนยังไม่กล้าที่จะลงทุนเหมือนประเทศที่กล่าวไปข้างต้น

ขณะที่อีกประเด็นนอกประเทศ คือ การรอเทียบท่าเรือใน EU ล่าช้าเพิ่มขึ้น 44-77% จาก 2 สาเหตุหลัก คือ 1. EUเผชิญปัญหาขาดแรงงาน + ระดับน้ำในแม่น้ำ RHEIN ต่ำ 2. เส้นทางเดินเรือหลีกเลี่ยงทะเล RED SEA → อ้อมแอฟริกา จึงเริ่มเห็นจำนวนการขนส่งแทนจากจีนไปสหรัฐฯ ดังรูปขวามือ ประเด็นดังกล่าวทำให้ความเสี่ยงค่าระวางเรือมีโอกาสเพิ่มขึ้น และหนุนต้นทุนโลจิสติกส์สูงขึ้นทั่วโลก แนะเก็งกำไรสั้นๆ กลุ่มเดินเรือ : WICE, SJWD, SINO,RCL, LEO

 

ไทยส่งออกเร่งตัว...แต่นำเข้าก็เร่งตาม
วานนี้กระทรวงพาณิชย์เผย ตัวเลขส่งออกไทยเดือน เม.ย. 68 โตเพียง +10.20%YOY ต่ำกว่าคาดที่ 12.2% แต่นำเข้าขยายตัวถึง +16.1%YOY สูงกว่าคาดที่ 7.3% กดดันดุลการค้าขาดดุล 3,320 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีและใน 4M68 ขาดดุล 2,240 ล้านเหรียญฯ

 

ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้บ้านเราเร่งการส่งออก-นำเข้าในช่วงที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม เราเริ่มเห็นสัญญาณความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น สะท้อนจากไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลดลง () และขาดดุลการค้ากับจีนสูงขึ้น ()
• ไทยนำเข้าสินค้าเดือน เม.ย. 68 จากจีนโต +39%YOY ส่วนสหรัฐฯ โต +25%YOY
• ไทยส่งออกสินค้าเดือน เม.ย. 68 จากจีนโตแค่ +3%YOY ส่วนสหรัฐฯ โต +24%YOY
ขณะที่ในระยะข้างหน้าอาจต้องระมัดระวังมากขึ้นต่อผลกระทบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหลังจากมาตราการภาษีตอบโต้มีผลบังคับใช้วันที่ 9 ก.ค. 68 (หากการเจรจาทางการค้าไทย-สหรัฐฯ ไม่คืบหน้า) อาจเห็นการส่งออกแผ่วลง รวมถึงการทะลักเข้ามาของสินค้าจีน


สรุป กรณีดุลการค้าขาดดุลต่อเนื่อง อาจทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มกลับไปขาดดุลได้อีกครั้ง และกดค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าจากระดับปัจจุบันแข็งค่าใกล้ 31.90-32 บาท

SET มี VOLUME แห้ง จากความกังวลหลายปัจจัย แนะเก็งกำไรหุ้นมี VOLUME สวนทางตลาด
วานนี้ SET INDEX ทยอยปรับตัวลงมาแล้วกว่า9 วัน ราว 53 จุด สวนทางตลาดหุ้นอื่นๆทั้งโซนยุโรป สหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ที่ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น จากสถานะการเจรจาเรื่อง TARIFF ของไทยยังอยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ได้เจรจาอย่างเป็นทางการและยังไม่มีนโยบายการต่อรองที่ชัดเจน ทำให้ DOWNSIDE ต่อ GDP GROWTH ในปีนี้ยังเปิดอยู่ (มีโอกาสเติบโตน้อยกว่า 2%) บวกกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในไทยที่ล่าสุดนายทักษิณเตรียมขึ้นเวที ปปส. ปาฐกถาแก้ไขปัญหายาเสตติด ซึ่งทำให้น่าจะเห็นความชัดเจนขึ้นในหลายประเด็นที่นักลงทุนกังวลทั้งใกล้วันที่ 13 มิ.ย.68 ที่องค์คณะไต่สวนของศาลฎีกานักการเมือง นัดพร้อม คดีชั้น 14, กระแสการปรับ ครม. และ เป็นช่วงก่อนพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 69 วาระแรก(ชงเข้าสภา 28-30 พ.ค.68)

 


ทำให้วานนี้ SET มีมูลค่าซื้อขาย 2.77 หมื่นล้านบาท ลดลง -34% เทียบค่าเฉลี่ย YTD และหากเทียบค่าเฉลี่ย 1 เดือนจะลดลง 24% ซึ่งแห้งเหือดกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านทั้งสิ้น อาทิ JAKARTA +62.5% HANG SENG +4.4% TAIWAN-1.4% KOSPI -11.7% NIFTY50 -17.4%

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ค้นหาหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจ โดยมีค่าเฉลี่ย VOLUME(MTD) มากกว่าค่าเฉลี่ยVOLUME(YTD) และราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในเดือนนี้ สวนทางตั้งแต่ต้นปีที่ปรับตัวลงมาแรง อาทิ KBANK TIDLORSCC RCL PLANB SJWD CKP เป็นต้น


Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

รอ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ยังคงรอ การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI จะมีผล ณ ราคาปิดในวันนี้ โดย MSCI Global ....

ATLAS ลุยโรดโชว์ จ.นครราชสีมา กระแสตอบรับล้นหลาม

ATLAS ลุยโรดโชว์ จ.นครราชสีมา กระแสตอบรับล้นหลาม

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้