Equality for All
PTG : บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี
คาดปริมาณขายน้ำมันดีขึ้น จับตาแข่งขัน
1Q25 กำไรตามคาด ปริมาณขายน้ำมันลดลง ค่าการตลาดลดลง แต่ 2Q25 ปริมาณจะดีขึ้น
ยังคงเป้าธุรกิจดังเดิม แต่เรากังวลว่าอาจพลาดเป้าได้จากเศรษฐกิจชะลอตัว
กองทุนน้ำมันกลับมาบวก แต่ไม่น่าส่งผลบวกมากนัก หลังจากนี้รอดูการแข่งขันแย่งส่วนแบ่งตลาดในสถานีบริการว่าจะไปต่ออย่างไร
1Q25 กำไรหดเหลือ 190 ลบ. ลดลง -26% y-y และ -17% q-q จากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น :
กลุ่มน้ำมัน ปริมาณขายน้ำมันลด -3.1% y-y และ -1.7% q-q ที่ 1,667 ล้านลิตร เริ่มเห็นปริมาณขายหดตัว y-y ในรอบหลายไตรมาส คาดมาจากกำลังซื้อที่ลดลงแต่ยังลดลงน้อยกว่าอุตสาหกรรมที่หด -3.6% y-y และ -3.1% q-q ขณะที่ค่าการตลาดอยู่ที่ 1.62 บาท/ ลิตร ลดลงจาก 1.65 บาท/ ลิตร ใน 4Q24 จากราคาน้ำมันผันผวน และการบริหารจัดการของกองทุนน้ำมันไม่สอดคล้องกับราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น
กลุ่ม non-oil ยอดขายเพิ่ม +32.2% y-y แต่ลดลง -2.3 % q-q โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของยอดขายร้านกาแฟพันธุ์ไทย +113.1% y-y +32.2 % q-q จากการเพิ่มจำนวนสาขาเป็น 1,476 สาขา รวมถึงร้านค้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาเพิ่ม โดยอัตรากำไรขั้นต้นคิดเป็น 33.0 % ของกลุ่มจาก 26.0 % ใน 4Q24
ค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่มขึ้น +20.9 % y-y และ +8.2 % q-q จากการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นสำหรับร้านกาแฟพันธุ์ไทย 129 สาขาส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้น รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ขณะที่การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ 28 ลบ. จากปีก่อนขาดทุน -2 ลบ. จากการดำเนินงานที่ดีขึ้น
ยังคงเป้าธุรกิจดังเดิม : ผบห. ยังคงเป้าธุรกิจไว้ดังเดิม (รูปที่ 1) คาดปริมาณขายน้ำมันเพิ่ม 5-10% y-y และการเปิดสาขาพันธุ์ไทยเป็น 1,947 สาขา
แนวโน้ม 2Q25 ผบห. แจ้งว่าปริมาณขายน้ำมันเริ่มฟื้นตัว y-y อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าเป้าปริมาณขายโต 5-10% y-y นั้นค่อนข้างท้าทายภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่มีสัญญาณชะลอตัว ประกอบกับการแข่งขันที่มากขึ้นในกลุ่มสถานีบริการเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด ประกอบกับ 1Q25 ปริมาณขายหดตัว y-y ทำให้เราปรับปริมาณขายลงเหลือโต 2.9 % y-y จากเดิมคาดโต 6.0 % ค่าการตลาด 1.67 บาท/ ลิตร และปรับกำไรสุทธิลงเหลือ 1,031 ลบ. +0.9% y-y ลดลงจากเดิม 10.0 %
กองทุนน้ำมันเริ่มกลับมาเป็นบวก แต่คงไม่มีผลมากนักต่อผู้ประกอบการ : สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้รายงานฐานะกองทุนน้ำมัน ณ 25 พ.ค. 2025 (รูปที่ 2) พบว่ายังคงขาดทุน -42,274 ลบ. แต่เฉพาะในส่วนน้ำมันกลับมาเป็นบวกแล้ว 2,607 ลบ. ผบห. ชี้แจงว่าแม้ฐานะกองทุนเฉพาะน้ำมันจะเป็นบวกก็ตาม แต่คงไม่มีการปรับขึ้นค่าการตลาด และยังคงให้แนวทางว่าค่าการตลาดไม่เกิน 2.00 บาท/ ลิตร แต่ให้ติดตามราคาน้ำมันว่ามีโอกาสปรับลงหรือไม่ เพราะจะส่งผลให้มีขาดทุนจากสต็อกมากกว่า
Non-oil ดันการเติบโต
“ แม้กลุ่มน้ำมันยังมีปัจจัยที่กระทบทั้งการแข่งขันที่มากขึ้น และปริมาณขายที่หดตัว แต่กองทุนน้ำมันที่เริ่มเป็นบวกคาดแรงกดดันด้านค่าการตลาดบรรเทาลง แต่กลุ่ม non-oil ยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการดำเนินงานหลังจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น และมีการประหยัดต่อขนาด แม้จะเห็นค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
แม้คาดจะเห็นการฟื้นตัวใน 2Q25 ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยที่ต้องตามต่อคือหลังแคมเปญการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่จะยังมีต่อหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้ภาพรวมแย่ลงได้ กลยุทธ์รอดูการฟื้นตัวของปริมาณขาย และการแข่งขันในตลาด ”
ESG Snapshot : PTG มุ่งเน้นการลดคาร์บอนฟุตพรินท์ ผ่านโครงการพลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะการติดตั้งโซลาร์รูฟที่สถานีบริการ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับสูงเนื่องจากโครงสร้างธุรกิจหลักที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th