ภาวะตลาด : SET Index วันศุกร์รีบาวด์หลังร่วงหลายวันต่อเนื่อง โดยแกว่งบวกในวันที่ 1173.54-1184.86 ปิดตลาด +2.99 จุดที่ 1176.36 โดยยังไม่สามารถยืนเหนือ 1180 ได้ เนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้น นักลงทุนมีการเลือกซื้อ/ขายเป็นรายตัว โดยหุ้น Top-5 ที่หนุนตลาดคือ GULF, TRUE, OR, KTB, OSP ส่วน Top-5 ที่ฉุดเป็น ADVANC, CPALL, TLI, BDMS, BH นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ -1.24 พันลบ. ส่วนต่างชาติซื้อสุทธิต่อ +1.73 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• แรงกดดันระหว่างสหรัฐ-อียูผ่อนคลายลง หลังทรัมป์ เลื่อนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอียู 50% ไปเป็น 9 ก.ค. (เดิมมีผล 1 มิ.ย.) เพื่อเปิดทางให้เจรจาและแม้ว่าจะยังมีความไม่แน่นอน แต่ก็ทำให้ Sentiment ระยะสั้นดีขึ้น สำหรับสินค้าที่จะถูกกระทบมากเป็น ยาและเวชภัณฑ์ รถยนต์ สินค้าหรูหรา ฯลฯ
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เช้านี้บวกขึ้น รับข่าวทรัมป์ เลื่อนเก็บภาษีอียูฯ ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าขยับขึ้นราว 0.5% ด้าน US bond yield 10 ปีถอยลงมาที่ 4.5% หลังพุ่งทะลุ 4.6% ไปก่อนหน้า ดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนเป็น 99.0 ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 100.4 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ทรงที่ 1340 (สูงสุดอยู่ที่ 1669)
• ทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีนำเข้า iPhone (ของแอปเปิ้ล, ซัมซุง และสมาร์ทโฟนอื่น 25% เพื่อดึงให้แอปเปิ้ลกลับมาผลิตในสหรัฐ
• กลุ่มโอเปกพลัสจะประชุม 1 มิ.ย.นี้ ติดตามว่าจะเพิ่มปริมาณการผลิตเดือนก.ค.ต่ออีกหรือไม่ หลังจากเพิ่มการผลิตมากกว่าคาดมาแล้วในเดือนพ.ค.-มิ.ย.68
• ตัวเลขศก.สหรัฐที่ติดตาม: 27 พ.ค.-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.สหรัฐ – 28 พ.ค.-รายงานการประชุมเฟด 6-7 พ.ค., 29 พ.ค.-จีดีพีสหรัฐ 1Q68 (ประมาณการครงั้ ที่ 2), 30 พ.ค.-ดัชนี PCE และความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากม.มิชิแกน

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• จับตาอัตราภาษีศุลกากรนำเข้าที่รัฐบาลทรัมป์ จะประกาศเป็ นรายภูมิภาค ซึ่งคาดการณ์กว่าจะต่ำกว่าที่ประกาศในวันที่ 2 เม.ย.อย่างมีนัยสำคัญ
• ติดตามการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ในวันที่ 28-30 พ.ค.นี้ และสถานการณ์การเมืองไทย

กลุยทธ์ : ตลาดยังแกว่งตัว ระยะสั้นมากมีปัจจัยหนุนจากทรัมป์ เลื่อนเก็บภาษีอียู ออกไปเป็น 9 ก.ค. แต่ตลาดยังกังวลกับเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า และ Program Trading ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขาย แนวต้านระยะสั้น 1180, 1185-1190, 1200 แต่ถ้าเด้งสั้น/ลงต่อจะมีแนวรับถัดไป 1165-1160, 1155-1150 หรือต่ำกว่าการลงทุนระยะยะกลาง-ยาว แนะเลือกสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ Valuation ไม่แพง จ่ายปันผลดี สม่ำเสมอ ซึ่งหุ้น Top Picks ของเดือนพ.ค.เป็น ADVANC, BDMS, BJC, CPALL และ KTB

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : STECON– คาดผลประกอบการจะดีขึ้นเป็นลำดับ โดยผู้บริหารคาดกำไร 1Q68 ต่ำสุดในปีนี้ แล้วจะปรับขึ้นต่อเนื่องในไตรมาสที่เหลือจากรับรู้รายได้การก่อสร้างเพิ่มขึ้น มาร์จิ้นดีขึ้นเป็นเฉลี่ย 7% ในปีนี้ ใน 2H68 จะรับรู้ส่วนแบ่งผลขาดทุนจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพูน้อยลงจากเปลี่ยนวิธีบันทึกบัญชี และคาดว่าจะมีรายได้เคลมประกันซ่อมแซมอุโมงค์หนองบอนเข้ามาด้วย คาดการณ์ปี 68 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 762 ล้านบาท และเติบโตแกร่งเป็น 1.03 พันล้านบาทในปี 69 ณ ราคาปัจจุบันมี P/BV ต่า เพียง 0.6 เท่า แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 9.30 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829