สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(26 พฤษภาคม 2568)----- บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
ดัชนีหุ้นไทยยังปิดลบต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง แม้สถานะนักลงทุนต่างชาติจะอยู่ในฝั่งซื้อสุทธิ
ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงต้นสัปดาห์จากความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทย (แม้สศช. จะรายงานว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 ของไทยขยายตัวได้ 3.1% YoY แต่ก็ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของทั้งปี 2568 ลงมาที่ 1.8%) ก่อนจะขยับขึ้นช่วงสั้น ๆ ในเวลาต่อมาตามแรงซื้อหุ้นในกลุ่มแบงก์
ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงอีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากตลาดยังคงมีความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีประเด็นกดดันเพิ่มเติมจากการเลื่อนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัลวอลเล็ต ประกอบกับมีแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ นอกจากนี้ตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลงในภาพรวมตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความกังวลว่าร่างกฎหมายภาษีฉบับใหม่ของสหรัฐฯ จะทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นก็มีส่วนกดดันบรรยากาศตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค
ในวันศุกร์ที่ 23 พ.ค. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,176.36 จุด ลดลง 1.62% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 40,766.85 ล้านบาท ลดลง 7.61% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.13% มาปิดที่ระดับ 245.27 จุด
สัปดาห์ถัดไป (26-30 พ.ค. 68) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,165 และ 1,140 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,185 และ 1,200 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟด ความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนเม.ย. บันทึกประชุมเฟด ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 (ครั้งที่ 2) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.ของจีน ตลอดจนยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ของญี่ปุ่น