วันอังคารผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนโดยปรับตัวสูงสุดถึง 11 จุด แต่ปิดเหลือ 2 จุด แรงซื้อเด่นในหุ้นกลุ่มธนาคาร เช่น BBL, KBANK, SCB ตอบรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนลบ. ส่วนกลุ่มพลังงาน และค้าปลีกเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,189.14 จุด +2.08 จุด +0.18% มูลค่าการซื้อขาย 46,960.04 ลบ. Program Trading +133.88 ลบ. ต่างชาติ +865.46 ลบ. TFEX -1,891 สัญญา ตราสารหนี้+930.84 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เปิดเผยหลังสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ว่า รัสเซียพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทางยูเครนเพื่อจัดทำบันทึกความเข้าใจซึ่งอาจรวมถึงข้อตกลงหยุดยิงด้วย
+ สหราชอาณาจักร (UK) และสหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงทวิภาคีฉบับใหม่ ครอบคลุมหลายด้าน โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ UK ได้เกือบ 9 พันล้านปอนด์ (ราว 1.202 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในปี 2583
+ ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท เสนอสภาพิจารณา 28-30 พ.ค. 68
+ ครม. เห็นชอบร่างแก้ไข พ.ร.บ. รฟม. และ พ.ร.บ. ตั๋วร่วม เปิดทางใช้กลไกกองทุนหนุนค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คาดเริ่มได้ภายใน ก.ย. 68
+บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเห็นชอบพิจารณามาตรการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินรวม 3,500 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง จำนวน 1 ล้านสิทธิวงเงิน 1,780 ล้านบาท เงินสนับสนุนโอทีเอ 21 รายวงเงิน 800 ล้านบาท โครงการส่งเสริมตลาดร่วมกับสายการบินในตลาดจีนวงเงิน 500 ล้านบาท และโครงการอื่นๆ โดยใช้ในงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 114.83 จุด หรือ -0.27% ถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ของ FED เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 13 เซนต์ หรือ -0.21% ปิดที่ 62.56 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความไม่แน่นอนของการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน และการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก
- นักวิเคราะห์เตือนว่าการปรับลดอัตราภาษีครั้งใหม่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
- ผู้นำอังกฤษ แคนาดา และฝรั่งเศส ขู่จะคว่ำบาตรอิสราเอล หากยังไม่ยอมยุติปฏิบัติการทางทหารครั้งใหม่ในฉนวนกาซา และไม่ยกเลิกข้อจำกัดด้านการส่งความช่วยเหลือ
- ธปท.เผยสินเชื่อแบงก์พาณิชย์ทั้งระบบ Q1/68 หดตัว 1.3% หนี้เสีย (NPL) เพิ่มเป็น 2.9% ห่วงนโยบายการค้าฉุดการชำระหนี้

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,180-1,195 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกองทุน TESGX: BBL BEM CPALL PTT TISCO
- คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET50 : BCP KKP TCAP / หุ้นออกจาก SET50 : BGRIM GLOBAL ITC
- คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET100 : AURA MBK TOA WHAUP / หุ้นออกจาก SET100 : CKP COCOCO ROJNA SAPPE
*การคำนวณ SET50/100 ยังขาดข้อมูลเดือน พ.ค. อีก 1 เดือน
- MSCI Thailand เข้า - ไม่มี / ออก - BEM, CRC, KTC
- MSCI Global Small Cap เข้า - BEM, AWC / ออก - AURA, BPP, DOHOME, GUNKUL, JAS, JMART, M, PRM
(ใช้ราคาปิด 30 พ.ค.)