Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

383

 

ยามลมการเมืองไม่สงบ ยังมีหุ้นถูกรอให้สะสม
TOP PICK BEM / CK / PLANB


EXTERNAL FACTOR
GLOBAL INDICES

• ตัวเลข PPI ที่ออกมาต่ำคาด -0.5%MOM หนุนตลาดคาดหวังว่า FED จะคงโทนการลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงของ PAWELL เตือนว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวมี
แนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อมีความผันผวนมากขึ้น ทำให้ตลาดมองการลดดอกเบี้ยในอนาคตเป็นไปได้ยากขึ้น
• ความคืบหน้า TRADE WAR สหรัฐฯ-อินเดีย ดูผ่อนคลายลง หลังอินเดียได้ยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ว่าจะไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ทำให้มีโอกาสสูงที่สหรัฐฯจะผ่อนปรนภาษีที่เก็บจากอินเดียในอัตรา 26% เช่นกัน ซึ่งตลาดคงรอการพูดคุยกันระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐฯที่อาจจะมีการเจรจาความคืบหน้ากับภายในสัปดาห์นี้


INTERNAL FACTOR
• FUND FLOW ที่กลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคเด่นในเดือน พ.ค. (MTD) นี้ อย่างตลาดหุ้นไต้หวันถูกซื้อสุทธิทุกวันในเดือนนี้ มูลค่ารวมรวม 6.8 พันล้านเหรียญ,
ตามมาด้วยเกาหลีใต้ 910 ล้านเหรียญ, อินเดีย 1.5 พันล้านเหรียญ, อินโดนีเซีย 84ล้านเหรียญ, ฟิลิปปินส์ 47 ล้านเหรียญ
• มีเพียงตลาดหุ้นไทยที่ถูกขายสุทธิแห่งเดียว -108 ล้านเหรียญ ส่วนหนึ่งเกิดจากอุณหภูมิทางการเมืองไทยที่ร้อนแรงขึ้น กดดันให้FUND FLOW ชะลอไหลเข้าอยู่แห่ง
เดียวในภูมิภาคในช่วงนี้

 

 

INVESTMENT STRATEGY
• อย่างไรก็ตามในมุม VALUATION ของ SET ยังถือว่าถูกมาก โดยหุ้นทั้งหมดใน SET มี PBV เฉลี่ย 1.1 เท่า และมีจำนวนหุ้นใน SET สูงถึง467 บริษัท ที่ PBV < 1 และยังมี DIVIDEND YIELD ที่แระดับ 4% มีจำนวนหุ้นที่มีDIVIDEND YIELD สูงเกิน 5% ถึง 256 บริษัท
• กลยุทธ์แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานยามตลาดปรับฐาน หวังผลกำไรในระยะกลางยาวในหุ้นที่มี PBV <1อย่าง PTTGC มี PBV 0.33, SCC 0.58, PTT0.75, CK 0.92, TU 0.92, SCGP 0.93, และหุ้นพื้นฐานDIVIDEND YIELD สูง อย่าง SPALI มี DIVIDEND YIELD ต่อปี10%, AP 9%, SCG 8.7%, LH 7.7% เป็นต้น

 


ปัจจัยต่างประเทศ โทนบวกเล็กน้อย จาก PPI ต่ำคาด และ TRADE WAR ผ่อนคลายลง
วานนี้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมา 3 ตัวเลข แต่ที่นักลงทุนให้ความสนใจ คือ ตัวเลข PPI ที่ออกมาต่ำคาด -0.5%MOM บ่งบอกถึงภาคผู้ผลิตที่ซึบซับแรงกระแทกในส่วนของเศรษฐกิจชะลอตัวไว้ระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะส่งผ่านไปสู่ผู้บริโภคในระยะถัดไป(CPI) หนุนตลาดคาดหวังว่า FED จะคงโทนการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ในการแถลงสุนทรพจน์ของ PAWELL ในการประชุม THOMAS LAUBACH RESEARCH CONFERENCE วานนี้ อย่างไรก็ตาม PAWELLกล่าวออกมาในโทน (+) HAWKISH อ่อนๆ เตือนว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อมีความผันผวนมากขึ้นจากนโยบาย TRUMP และเตรียมทบทวนกรอบนโยบายทางการเงินของ FED หลังจากที่ไม่ได้ปรับตั้งแต่ 2020 คาดจะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าจึงทำให้แนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯผ่าน FED WATHC TOOLยังคง HAWKISH กล่าวคือ มีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือน 9 เพียง 50% เท่านั้น และหลังจากนั้นมีโอกาสลดดอกเบี้ยน้อยกว่า 50% ทั้งสิ้น

 

ส่วนประเด็นอื่นๆ คือ ความคืบหน้า TRADE WAR สหรัฐฯ-อินเดีย ดูผ่อนคลายลง หลังอินเดียได้ยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ว่าจะไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ทำให้มีโอกาสสูงที่สหรัฐฯ จะผ่อนปรนภาษีที่เก็บจากอินเดียในอัตรา26% เช่นกัน ซึ่งตลาดคงรอการพูดคุยกันระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐฯที่อาจจะมีการเจรจาความคืบหน้ากับภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงน่าจะหนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป

 


ส่วนของหุ้นไทยอาจจะชะลอแรงขึ้นจากการโดนหุ้นกลุ่มพลังงานกดดัน หลังวานนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง 2%จากสหรัฐใกล้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซึ่งจะปูทางให้อิหร่านส่งออกน้ำมันในตลาด(SUPPLY ขึ้น) (อิหร่านมีกำลังการผลิตน้ำมัน 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือราว 3% ของทั้งโลก) กดดันหุ้นไทยที่อิงราคา COMMODITY ถึง 1
ใน 3 ของตลาด)

 

แม้ต่างชาติจะขายหุ้นไทย แต่กระแส FUND FLOW ยังไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียอยู่
FUND FLOW ที่กลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคเด่นในเดือน พ.ค. (MTD) นี้ เริ่มจากตลาดหุ้นไต้หวันถูกซื้อสุทธิทุกวันในเดือนนี้ มูลค่ารวมรวม 6.8 พันล้านเหรียญ, ตามมาด้วยเกาหลีใต้ 910 ล้านเหรียญ, อินเดีย 1.5 พันล้านเหรียญ, อินโดนีเซีย 84 ล้านเหรียญ, ฟิลิปปินส์ 47 ล้านเหรียญ, เวียดนาม 198 ล้านเหรียญ

 

มีเพียงตลาดหุ้นไทยที่ถูกขายสุทธิแห่งเดียว -108 ล้านเหรียญ ส่วนหนึ่งเกิดจากอุณหภูมิทางการเมืองไทยที่ร้อนแรงขึ้น กดดันให้ FUND FLOW ชะลอไหลเข้าอยู่แห่งเดียวในภูมิภาคในช่วงนี้

ยามลมไม่สงบ ก็ยังมีหุ้น VALUATION ถูกให้รอสะสม
ในมุม VALUATION ของ SET ยังถือว่าถูกมาก โดยหุ้นทั้งหมดใน SET มี PBV เฉลี่ย 1.1เท่า และมีจำนวนหุ้นใน SETสูงถึง 467 บริษัท ที่ PBV < 1 และยังมี DIVIDEND YIELD ที่แระดับ 4% มีจำนวนหุ้นที่มี DIVIDEND YIELD สูงเกิน5% ถึง 256 บริษัท


กลยุทธ์แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเด่นยามตลาดปรับฐาน หวังผลในระยะกลางยาว อย่างหุ้นที่มี PBV <1 คือPTTGC มี PBV 0.33, SCC 0.58, PTT 0.75, CK 0.92, TU 0.92, SCGP 0.93, และหุ้นพื้นฐาน DIVIDEND YIELDสูง อย่าง SPALI มี DIVIDEND YIELD ต่อปี 10%, AP 9%, SCG 8.7%, LH 7.7% เป็นต้น

 


Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

วันเริ่มต้น By : นายกล้วยหอม

วันเริ่มต้นที่ดี นับว่า มีชัย ไปกว่าครึ่ง นายกล้วยหอม เชื่ออย่างนั้น จะซื้อหุ้น ต้องดีดลูกคิดให้แม่นยำ ....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้