AT THE OPEN (#ATO)
คาด SET Index ยังอยู่ในช่วงสร้างฐาน
ให้น้ำหนักโค้งสุดท้ายรายงานงบฯ

Market Strategy
วันนี้คาดว่า SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,205–1,225 จุด ยังอยู่ในช่วงการสร้างฐาน ให้น้ำหนักปัจจัยเฉพาะตัว ในช่วงโค้งสุดท้ายของการรายงานงบ 1Q68 ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศมีสัญญาณบวกตเชิง sentiment หลัง คุณพิชัย ชุณหวชิร ประธานคณะทำงานด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศของไทย แถลงความคืบหน้าการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ โดยไทยยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ ประกอบด้วย 1) เสนอความร่วมมือทางเศรษฐกิจในสาขาอุตสาหกรรมแปรรูปและเทคโนโลยี เช่น AI และ Data Center พร้อมลดอุปสรรคทางการค้า ทั้งด้านภาษีและไม่ใช่ภาษี เพื่อยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างสอง
ประเทศ 2) ไทยยินดีเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เช่น พลังงาน สินค้าเกษตร เครื่องบินและอุปกรณ์ เพื่อช่วยลดดุลการค้าและสนับสนุนการผลิตในประเทศ 3) เปิดตลาดสินค้าเกษตรของไทย ในสหรัฐฯ เช่น ข้าวโพด, เลี้ยงสัตว์และผลไม้ พร้อมควบคุมเข้มการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าผ่านทาง (transshipment) 4) สนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนไทยในสหรัฐฯ ผ่านเวที Select USA 2025 โดยเน้นกลุ่มที่ไทยมีศักยภาพ เช่น supply chain อุตสาหกรรมยานยนต์ 5) ตั้งเป้าลดเกินดุลการค้าไทย-สหรัฐฯ ลง 50% ใน 5 ปี โดยใช้การเพิ่มนำเข้าสินค้าหลักที่สหรัฐฯ ต้องการ ควบคู่กับการส่งออกสินค้าแปรรูป ซึ่งถือเป็นแนวทางที่มีความเป็นไปได้ในทางปฎิบัติ

ในขณะที่ความเคลื่อนไหวด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังน่าจับตา โดยเฉพาะการเยือนซาอุดีอาระเบียของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีการประกาศข้อตกลงเบื้องต้นด้านการลงทุนจากซาอุฯ มูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์ และมีเป้าหมายผลักดันให้ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ระดับโลก อีกทั้งยังมีการประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ประเมินผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลกยังอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากกำลังการผลิตน้ำมันของซีเรียมีสัดส่วนเพียง 0.1% ของกำลังการผลิตทั่วโลก โดยจะยังถูกขับเคลื่อนจากปัจจัยหลักอื่น เช่น อุปสงค์ และทิศทางนโยบายของกลุ่ม OPEC+ เป็นสำคัญ

Market Summary
SET Index ปรับขึ้นเล็กน้อย +2 จุด (+0.19%) ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางลงเหลือ 4.3 หมื่นล้านบาท ตลาด ขาดปัจจัยหนุนใหม่หลังจีน-สหรัฐ เข้าสู่โหมดเจรจารอบใหม่ ส่งผลให้ตลาดหันมาให้น้ำหนักการรายงานงบฯ หุ้นเด่น นำโดย กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ HANA +7.32% กำไรออกมาดีกว่าคาด DELTA +6.54% ได้อานิสงส์บวกหุ้นเทคฯ ต่างประเทศ ด้าน TRUE +3.31% ฟื้นตัวจาก sell on fact ให้น้ำหนักการเติบโตได้ดีต่อเนื่องในช่วงถัดไป CRC -6.22%, KTC -8.99%, BEM -3.25% ถูกแรงขายจากการถูกถอดออกจาก MSCI Index มีผล 30 พ.ค.

DAILY Stock Pick
CPF
กำไร 1Q68 แข็งแกร่ง ไตรมาส 2 ตีต่อเนื่อง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 30.00 บาท
รายงานกำไรงวด 1Q68 ที่ 8.5 พันล้านบาท (+642%YoY, +105%QoQ) ดีกว่าเราและตลาดคาด 24% และ 33% ตามลำดับ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดและค่าใช้จ่ายการขายและบริหารที่ต่ำกว่าคาด โดยกำไรดังกล่าวคิดเป็น 46% ของกำไรทั้งปี 68
โดยแนวโน้มกำไรในไตรมาส 2 ยังคงแข็งแกร่งจากทั้งราคาหมูในไทยและเวียดนามที่ทรงตัวในระดับสูง สาเหตุมาจากอุปทานที่ลดลงจากการระบาดของโรค พร้อมกับราคาต้นทุนที่อยู่ในระดับต่ำ อีกท้ังเป็น High season ปกติของอุตสาหกรรม

KEY FACTOR
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะรายงานวันนี้ ได้แก่ 1) ยอดค้าปลีกเดือน เม.ย. ซึ่ง Consensus คาดว่าจะทรงตัว MoM จากเดือนก่อนหน้าที่ +1.4% MoM สะท้อนการบริโภคที่ชะลอลง 2) ดัชนี PPI คาดว่าจะเร่งขึ้น +0.2% MoM จาก -0.4% MoM ในเดือนก่อน ในขณะที่ Core PPI คาด +0.3% MoM จาก -0.1% MoM สะท้อนแรงกดดันด้านต้นทุนที่เริ่มฟื้นตัว 3) ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย. คาดว่าจะเพิ่มขึ้น +0.1% MoM จาก -0.3% MoM ในเดือนก่อนหน้า โดยรวมถือเป็นชุดตัวเลขที่แม้จะสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่มีจุดเปราะบางอยู่บ้าง แต่ถือว่ายังสะท้อนการเติบโตได้ในภาคอุตสาหกรรมท่ามกลางภาวะสงครามการค้าที่สร้างความไม่แน่นอน

EYES ON

[ในสัปดาห์] : การรายงานงบฯ 1Q68
15 พ.ค. : ดัชนี PPI เดือน เม.ย. ของสหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ