ภาวะตลาด : SET Index วันศุกร์เด้งกลับช่วงบ่าย ปิดตลาด +4.35 จุด (+0.36%) ปิดที่ 1210.94 ลุ้นการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนมีความคืบหน้า ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของจีนดีกว่าที่ตลาดคาด สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ +223 ลบ. ส่วนต่างชาติขายสุทธิ -1.47 พันลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
+ จีนและสหรัฐลดภาษีนำเข้าเหลือ 10% และ 30% ชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน โดยจีนจะลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐบางรายการเหลือ 10% (จาก 125%) และสหรัฐจะลดเหลือ 30% (จาก 145%)…นับว่าผลการเจรจาออกมาดี และในที่สุดแล้วภาษีนำเข้าสหรัฐจากปท.ต่างๆ อาจจะต่ำกว่าที่ประกาศไว้มาก
+/- ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น และราคาน้ำมัน WTI & BRENT ปรับขึ้นต่อ เป็น 62-65 US$/bbl รับความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน ด้านสัญญาทองคำ COMEX ลดลง -116 ดอลลาร์ เป็น 3228.0 US$/ออนซ์ นลท.เข้าลงทุนส/ทเสี่ยงมากขึ้น ส่วน US Bond Yield 10 ปีปรับขึ้นเป็น 4.45% (ตลาดคาดเฟดอาจเลื่อนการลดดออกเบี้ยเป็นเดือนก.ย.) ดัชนีค่าเงิน US$ แข็งขึ้นเป็น 101.688 เงินบาทอ่อนเป็น 33.39 บาท/ดอลลาร์ ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ขยับขึ้นเป็น 99.75 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ขยับขึ้นเป็น 1304 (จาก 1299 วันก่อนหน้า; สูงสุดอยู่ที่ 1669)
• ตัวเลขศก.สหรัฐที่ติดตามสัปดาห์นี้ รายงานเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.สหรัฐ 13 พ.ค. ซึ่งตลาดคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 2.4% เท่ากับเดือนมี.ค. ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานคาดไว้ 2.8% เท่ากับเดือนมี.ค., ดัชนีราคาเงินเฟ้อผู้ผลิต (PPI) และยอดค้าปลีก 15 พ.ค. และดัชนีค.เชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.วันที่ 16 พ.ค.
- ความตึงเครียดระหว่างอินเดีย-ปากีสถานพุ่งขึ้น หลังมีการโจมตีนักท่องเที่ยวในเมืองพาฮาลแกมแคว้นแคชเมียร์ ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Global Firepower ระบุว่าในปี 2025 อินเดียมีความแข็งแกร่งทางการทหาร เป็นรองเพียงสหรัฐ รัสเซีย และจีน เท่านั้น ส่วนปากีสถานอยู่อันดับ 12 จากทั้งหมด 145 ประเทศ
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
+ กลุ่มนิคมมี Sentiment บวก จากภาษีศุลกากรสหรัฐที่มีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประกาศไว้มาก ยังผลให้ยอดขายที่ดินนิคม อาจไม่ได้ต่า มากอย่างที่กังวลกันขณะที่การรับรู้รายได้และกำไรในปี 25-26 จาก Backlog ที่มีอยู่ยังแข็งแกร่ง หุ้นเด่นเป็น AMATA, WHA, ROJNA
+ PTTEP ได้อานิสงค์จากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น ขณะที่ปริมาณผลิตใน 2Q25 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากจะมีการ load น้ำมันดิบจากตะวันออกกลางและแอฟริกาจะเพิ่มขึ้น q/q, ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่, รับรู้ปริมาณผลิตจากแหล่งสินภูฮ่อมเพิ่มขึ้น หลังเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 90% เมื่อ 16 เม.ย.25 แนะนำ ซื้อเก็งกำไร
+ หุ้นปิโตรเคมีได้อานิสงค์จาก China Play ได้แก่ IVL, PTTGC, SCC, SCGP โดยแรงกดดันจากภาษีนำเข้าสหรัฐที่ผ่อนคลายลงและทางการจีนออกมาตรการกระตุ้นศก.ต่อเนื่องจะเป็นบวกต่ออุปสงค์และการฟื้นตัวของศก.จีน
+ หุ้นที่คาดว่ากองทุน TESGX จะให้ความสนใจ ได้แก่ ADVANC (SET ESG Ratings: AAA), BEM (AAA), CPALL (AAA), CPN (AAA), GULF (AAA), KTB (AAA), KBANK (AAA), PTT (AAA), SCC (AAA), AOT (A), DELTA (A), BDMS (A) เป็นต้น
กลุยทธ์ : กลยุทธ์หลักเป็นการเลือกลงทุนหุ้นพื้นฐานดีที่ Valuation ไม่แพง และหุ้น Big Cap ที่กองทุน TESGX ให้ความสนใจ ซึ่งหุ้น Top Picks ของเดือนพ.ค.เป็น ADVANC, BDMS, BJC, CPALL และ KTB เก็งกำไรรอบสั้น การปรับขึ้นมีแนวต้าน 1220, 1230-1240, 1265-1270 ส่วนแนวรับเป็น 1205-1200, 1185-1180
หุ้นพื้นฐานแนะนำ : DELTA – ผู้บริหารระบุว่าแนวโน้มอุปสงค์ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีแรงหนุนจากการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวกับ AI นวัตกรรมดิจิทัล และการประมวลผลสมรรถนะสูง (High-Performance Computing) บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนมากในไทย ทั้งสร้างโรงงานใหม่และขยายกำลังการผลิตโรงงานเดิม โดยประเมินว่าในที่สุดแล้วอัตราภาษีศุลกากรที่สหรัฐเรียกเก็บจากไทยจะต่ำกว่าเรียกเก็บจากจีน ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นเงินสดสุทธิ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829