Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

92

 

 

ต่างชาติเสริมพลังให้ SET ในช่วงนี้
TOP PICK WHA / CPALL/ KKP

 

EXTERNAL FACTOR
• FED มีมติ “คง” ดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% ตามคาด โดยประธาน FED เผยว่า FED รอการ ปรับลดดอกเบี้ยได้ และมองเห็นความเสี่ยงของ TARIFF อาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและ การว่างงานสูงขึ้น การเติบโตเศรษฐกิจชะลอตัวลง

• ผอ. บริหารท่าเรือลอสแอนเจลิส เผยว่า นับตั้งแต่ภาษีทรัมป์ต่อจีนที่อัตรา 145% ถูก บังคับใช้ การนำเข้าสินค้าจากจีนก็ลดลงอย่างมากราว 35-50%YOY และหาก มาตรการยังดำเนินต่อไปผู้บริโภคอเมริกันจะเผชิญราคาสินค้าแพงขึ้น อาจเร่งเงินเฟ้อ

• FEDWATCH TOOL ให้น้ำหนัก 80% มองว่า FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% ในการ ประชุมรอบเดือน มิ.ย. 68

 

INTERNAL FACTOR
• PBOC ประกาศว่าจะปรับลดอัตราส่วนการกันสำรอง (RRR) สำหรับธนาคาร พาณิชย์ลง 0.50% และประกาศว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืน ระยะ 7 วัน ลง 0.10% สู่ระดับ 1.4% (จาก 1.5%) ดีต่อเศรษฐกิจจีน และหุ้น CHINA PLAY

• GIP-BLACKROCK ประกาศสนับสนุนเงินลงทุน "ดาต้าเซนเตอร์" และ "ระบบ เกี่ยวข้อง" ในไทยผ่าน TRUE IDC เม็ดเงิน 1.05-1.75 แสนล้านบาท ซึ่งน่าจะหนุนให้ ยอด FDI ทยอยสูงขึ้นได้และเป็นตัวพยุง GDP GROWTH ได้ระดับหนึ่ง

 

INVESTMENT STRATEGY
• แนวโน้มค่าเงินในเอเชียที่แข็งค่าขึ้น หนุนให้ FUND FLOW ที่ไหลออกตลาดหุ้นภูมิภาคมานาน มีการไหลกลับมา เกือบทุกประเทศในเดือน พ.ค. นี้ (MTD) อาทิ ตลาดหุ้นไต้หวันถูกซื้อสุทธิ 3.1 พันล้านเหรียญ, อินเดีย 1.0 พันล้านเหรียญ, เกาหลีใต้ 205 ล้านเหรียญ, ฟิลิปปินส์ 35 ล้านเหรียญ และไทย 123 ล้านเหรียญ เป็นต้น

• ขณะที่ FUND FLOW เริ่มเข้ามากระจุกตัวในตลาดหุ้นไทย 4 ใน 5 วันที่ผ่านมา ต่างชาติซื้อสุทธิสูงถึง 7.9 พันล้านบาท และยังมีเม็ดเงิน THAIESGX คอยพยุงดัชนีต่อในสัปดาห์หน้า ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการค้นหาหุ้น พื้นฐานที่ต่างชาติซื้อสะสมเยอะสุดในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา คือ CPF, TISCO, SAWAD, KTB, BH, PTT, OSP, TOP, BANPU, AMATA, BDMS, BBL, TCAP, SCC, ERW

 

ท่าที FED จะลดดอกเบี้ย อาจต้อง TRADE OFF กับเห็นสัญญาณความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว
คืนที่ผ่านมา FED มีมติ “คง” ดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% ตามคาด โดย FED ส่งสัญญาณไม่สนับสนุนการปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยล่วงหน้าเพื่อป้องกันเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นอกจากนี้ประธาน FED ยังเผยว่า FED รอการปรับลดดอกเบี้ยได้ และมองเห็นความเสี่ยงของ TARIFF อาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและการว่างงานสูงขึ้น การเติบโตเศรษฐกิจชะลอตัวลง

 

ซึ่งการปรับขึ้น TARIFF กำลังส่งผ่านผลกระทบไปยังภาคปฏิบัติ โดย ผอ. บริหารท่าเรือลอสแอนเจลิส เผยว่า นับตั้งแต่ภาษีทรัมป์ต่อจีนที่อัตรา 145% ถูกบังคับใช้ การนำเข้าสินค้าจากจีนก็ลดลงอย่างมากราว 35-50%YOY อีกทั้งผู้นำเข้าหลายรายได้ยกเลิกคำสั่งซื้อเดิม และหากมาตรการยังดำเนินต่อไปผู้บริโภคอเมริกันจะเผชิญราคา สินค้าที่แพงขึ้น และขาดแคลนสินค้าบางประเภท ถือเป็นเหตุปัจจัยกระตุ้นให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น

 

สำหรับทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย. 68 CONSESUS คาดการณ์ว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 2.4%YOY แม้ราคา สินค้ากลุ่มพลังงานจะปรับตัวลดลง แต่ภาคบริการยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง ส่วนในระยะถัดไป เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีโอกาส ขยับขึ้นไปทำจุดพีคของปีในเดือน ก.ย. 68 ที่ระดับ 3.65% ซึ่งจะทำให้ห่างไกลกับกรอบเป้าหมายที่ 2% มากขึ้น

 

เมื่อพิจารณาคาดการณ์จาก FEDWATCH TOOL ให้น้ำหนัก 80% มองว่า FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% ในการ ประชุมรอบเดือน มิ.ย. 68 ส่วนการเริ่มปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี อาจรอดูหลังจากมาตรการเรียกเก็บภาษี RECIPROCAL TARIFF มีผลบังคับใช้วันที่ 9 ก.ค. 68

 

จีนเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ + GIP-BLACKROCK ลงทุน DATA CENTER ดีต่อหุ้นกลุ่มไหนบ้าง
วานนี้ PBOC ประกาศว่าจะปรับลดอัตราส่วนการกันสำรอง (RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ลง 0.50% เพื่อเพิ่ม สภาพคล่องไหลเข้าสู่ระบบการเงินของจีนประมาณ 1 ล้านล้านหยวน และประกาศว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืน (REVERSE REPURCHASE RATE) ระยะ 7 วัน ลง 0.10% สู่ระดับ 1.4% (จาก 1.5%) การดำเนินการดังกล่าวมี เป้าหมายที่จะเพิ่มสภาพคล่องในระบบและกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ ท่ามกลางสงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่าง จีนและสหรัฐฯ

 

พร้อมกับจะเพิ่มโควตาการปล่อยสินเชื่อใหม่(RELENDING PROGRAM)

• ธุรกิจด้านการนวัตกรรมและการพัฒนาทางเทคโนโลยี 8 แสนล้านหยวน

• สนับสนุนธุรกิจบริการด้านอุปโภคบริโภคและการดูแลผู้สูงอายุ 5 แสนล้านหยวน

• สนับสนุนภาคการเกษตรและธุรกิจขนาดเล็ก 3 แสนล้านหยวน

 

ซึ่งประเด็นดังกล่าวน่าจะหนุนให้ GDP GROWTH ของจีนยังสามารถเติบโตได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ โดยหลายสำนัก เศรษฐกิจยังคาด GDP GROWTH จะโตราว 4%-4.5% ดังนั้นความคาดหวังเศรษฐกิจจีนจะค่อยๆ ดีขึ้น อาจหนุน ให้ธีม CHINA PLAY กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง โดยฝ่ายวิจัยฯ ได้รวบรวมกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจ จีนฟื้นตัว

 

ส่วนอีกประเด็น GIP-BLACKROCK ประกาศสนับสนุนเงินลงทุน "ดาต้าเซนเตอร์" และ "ระบบเกี่ยวข้อง" ในไทยผ่าน " TRUE IDC (บ.ย่อยในเครือ CP) " ด้วยเม็ดเงิน 1.05-1.75 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสามารถในการ รองรับเวิร์กโหลดของเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, BIG DATA และ CLOUD SERVICES ในไทยให้มีศักยภาพมากขึ้น ซึ่ง น่าจะหนุนให้ยอด FDI ทยอยสูงขึ้น และเป็นตัวพยุง GDP ได้ระดับหนึ่ง

 

ส่วนหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ คือ กลุ่มนิคม (AMATA WHA) รับเหมาก่อสร้างหรือกลุ่มที่เชี่ยวชาญ DATA CENTER (CK STECON AIT INSET) โรงไฟฟ้าที่มีความต้องการใช้ไฟเพิ่ม (GULF GPSC BGRIM) และความต้องการใช้ DATA ในไทยจะเร่งขึ้น (ADVANC TRUE)

 

หาหุ้นพื้นฐานรับพลังเสริมจากต่างชาติในช่วงนี้
แนวโน้มค่าเงินในเอเชียที่แข็งค่าขึ้น หนุนให้ FUND FLOW ที่ไหลออกตลาดหุ้นภูมิภาคมานาน มีการไหลกลับมาเกือบ ทุกประเทศในเดือน พ.ค. นี้ (MTD) อาทิ ตลาดหุ้นไต้หวันถูกซื้อสุทธิ 3.1 พันล้านเหรียญ, อินเดีย 1.0 พันล้านเหรียญ , เกาหลีใต้ 205 ล้านเหรียญ, ฟิลิปปินส์ 35 ล้านเหรียญ และไทย 123 ล้านเหรียญ เป็นต้น

 

ขณะที่ FUND FLOW เริ่มเข้ามากระจุกตัวในตลาดการเงินของไทยในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา ต่างชาติซื้อตราสาร หนี้ไทยสูงถึง 7.9 หมื่นล้านบาท ที่สำคัญคือสลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย 4 ใน 5 วัน มูลค่ารวม 7.9 พันล้านบาท รวมถึงซื้อ SET50 FUTURES 9,314 สัญญา ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสขึ้นต่อได้

 

อีกทั้งยังมีเม็ดเงิน THAIESGX คอยพยุงดัชนีต่อในสัปดาห์หน้า ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการค้นหาหุ้นพื้นฐานที่ ต่างชาติซื้อสะสมเยอะสุดในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา ได้ผลลัพธ์ 15 หุ้นที่ต่างชาติซื้อเยอะและน่าจะมี MOMENTUM ขึ้นต่อได้คือ CPF, TISCO, SAWAD, KTB, BH, PTT, OSP, TOP, BANPU, AMATA, BDMS, BBL, TCAP, SCC, ERW

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เฟด คงดอกเบี้ย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย พัก แบบปรับฐาน ในเช้าวันนี้ หลังจากวานนี้ ดัชนฯพุ่งแรง ประกอบกับ เฟด ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้