Bluebik Group (BBIK TB)
คาดกำไร 1Q68 โตได้น้อย แต่จะโตแกร่งขึ้นในช่วง 2Q-4Q68

คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 39.90 บาท
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BBIK เนื่องจาก 1) คาดกำไรหลักปี 68 โต 16% และ 2) P/E ล่วงหน้า 1 ปี อยู่ที่ 15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ 33 เท่าถึง 1.7 SD อย่างไรก็ตาม เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 68-70 ลง 6-7% เนื่องจาก 1) การเติบโตของกำไรหลักใน 1Q68 ที่ยังต่ำ (+7% YoY) และ 2) ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี นอกจากนี้ เราได้ปรับราคาเป้าหมายตามวิธี DCF ลงเหลือ 39.90 บาท (อิง WACC ที่ 10%) จากเดิม 45.70 บาท จากการปรับลดประมาณการกำไรและ Terminal growth จาก 2.5% เหลือ 2.2% ปัจจัยบวกที่อาจช่วยกระตุ้นราคาหุ้น คือการชนะประมูลโครงการขนาดใหญ่จาก Virtual Bank หรือภาครัฐ

คาดกำไรหลัก 1Q68 โต 7% YoY
เราคาดกำไรหลักใน 1Q68 อยู่ที่ 74 ล้านบาท (+7% YoY, -29% QoQ) การเติบโต YoY หนุนโดยรายได้ (ไม่รวมรายได้จากการจัดจ้างบุคลากรโดย JV) และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ขณะที่อัตราการเติบโตที่ค่อนข้างต่ำเกิดจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอและไม่มีโครงการต่างประเทศ กำไรที่ลดลง QoQ มาจากปัจจัยฤดูกาล โดยไตรมาส 4 มักเป็นช่วงพีคของการติดตั้งระบบ และส่งมอบโครงการ

ปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 68-70 ลง 6-7%
เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 68-70 ลง 6-7% เนื่องจาก 1) กำไรหลัก 1Q68 เติบโตเพียง 7% YoY และ2) ความไม่แน่นอนจากสงครามการค้า ซึ่งทำให้ลูกค้าบางรายของ BBIK ชะลอการตัดสินใจการลงทุนด้านเทคโนโลยี ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบจากเศรษฐกิจ ทีมขายของ BBIK ได้เข้าหาลูกค้าเชิงรุกมากขึ้น และผู้บริหารตั้งเป้าคว้างานจากภาครัฐเพิ่มเติมในปีนี้ โดยเราคาดว่ารายได้ใน 1Q68 มากกว่า 10% มาจากภาครัฐ (เทียบกับ <5% ในปี 66-67) ซึ่ง ส่วนใหญ่ มาจากแพลตฟอร์ม Digital Payment ของโครงการ Digital Wallet เฟส 3 มูลค่า 90 ล้านบาท

คาดกำไรหลักจะโต QoQ ในช่วง 2Q-4Q68
เราคาดกำไรหลักใน 2Q68 จะเติบโต QoQ จาก Backlog ที่เพิ่มขึ้นใน 1Q68 โดยการเติบโต QoQ จะต่อเนื่องใน 3Q68 จากโครงการ Virtual Bank และกำไรใน 4Q68 น่าจะสูงกว่า 3Q68 จากการรับรู้รายได้โครงการ Virtual Bank ต่อเนื่องและเป็นช่วง High Season ของการดำเนินโครงการ เราคาดว่ากำไรหลักปี 68 จะเติบโต 16%

Wasu Mattanapotchanart
wasu.m@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1392