Today’s NEWS FEED

News Feed

บลจ.อีสท์สปริง ตั้งThai ESGX กองผสม-กองหุ้นไทยปันผลดี ด้าน ESG เสริมพอร์ต พร้อมรับสิทธิประโยชน์ภาษี IPO 2-8 พ.ค. 68 นี้

79

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (2 พฤษภาคม )-------บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุน Thai ESGX พร้อมกัน 2 กอง "ES-DIV70THAIESGX" กองทุนผสมเน้นลงทุนหุ้นไทยปันผลดีกับตราสารหนี้ ESG และ "ES-DIVTHAIESGX" กองทุนตราสารทุนเน้นลงทุนหุ้นไทยปันผลดี เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 2-8 พฤษภาคม 2568 สำหรับเงินลงทุนใหม่ และเปิดขายอีกครั้งพร้อมให้สับเปลี่ยนกองทุน LTF ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม- 30 มิถุนายน 2568 เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีปี 2568 สูงสุด 600,000 บาท

 

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า บลจ.อีสท์สปริง จัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ  (Thai ESG Extra Fund หรือ Thai ESGX) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี จำนวน 2 กองทุนด้วยกัน คือ กองทุนเปิดอีสท์ปริง หุ้นปันผล 70 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ES-DIV70THAIESGX) ซึ่งเป็นกองทุนผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยปันผลดีและตราสารหนี้ ESG และกองทุนเปิดอีสท์ปริง หุ้นปันผล ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ES-DIVTHAIESGX) เป็นกองทุนตราสารทุน ที่เน้นลงทุนหุ้นไทยปันผลดี โดยมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 5,000 ล้านบาท โดยทั้ง 2 กองทุน มีชนิดหน่วยลงทุนให้เลือกลงทุนทั้งแบบสะสมมูลค่าและแบบจ่ายปันผล เพื่อรองรับเงินลงทุนใหม่และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และเงินลงทุนใหม่ ตามมาตรการที่ภาครัฐให้การสนับสนุน ซึ่งกำหนดช่วงเวลา 2 เดือนคือพฤษภาคม-มิถุนายน 2568

 

โดยทั้งสองกองทุนมีนโยบายลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืนตามหลักเกณฑ์เดียวกันกับกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้กองทุนเปิดอีสท์ปริง หุ้นปันผล 70 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ES-DIV70THAIESGX) เป็นกองผสมแบบ Aggressive allocation เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ได้รับ SET ESG Rating ระดับ AA ขึ้นไป บริษัทที่มีประวัติการจ่ายปันผลดีสม่ำเสมอ รวมถึงมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีในอนาคต ในสัดส่วน 65-70% ซึ่งตราสารที่คาดว่าจะลงทุน ตัวอย่างเช่น  ADVANC ,PTT , KBANK , BBL, KTB เป็นต้น รวมถึงตราสารหนี้ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ/ เอกชนเพื่อความยั่งยืน ได้แก่ พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond) หรือบริษัทที่อยู่ในเกณฑ์ ESG ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ Investment Grade ขึ้นไปเท่านั้นและต้องผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้านเครดิตของบริษัท สัดส่วน 10-30% โดยตราสารที่คาดว่าจะลงทุน ตัวอย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืน (ESGLB35DA, ESGLB376A) ออกโดยกระทรวงการคลัง และส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารสภาพคล่อง เช่น ตราสารหนี้ระยะสั้น เงินฝาก เงินสด ไม่เกิน20% เป็นต้น

 

และกองทุนเปิดอีสท์ปริง หุ้นปันผล ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ES-DIVTHAIESGX) บริหารพอร์ตด้วยกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก (Active Management) โดยเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ได้รับ SET ESG Rating ระดับ AA ขึ้นไป โดยวัดจากดัชนีชี้วัด SETESG TRI และบริษัทที่มีประวัติการจ่ายปันผลดีสม่ำเสมอ รวมถึงมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีในอนาคต เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน บริหารโดยทีมผู้จัดการตราสารทุนที่มีประสบการณ์ในกองทุนเปิดอีสท์สปริง หุ้นปันผล (ES-DIV) ด้วยผลการดำเนินงานที่ดี (Morningstar rating 5 ดาว ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ) ซึ่งตราสารที่คาดว่าจะลงทุนตัวอย่างเช่น  ADVANC, PTT, KBANK, BBL, KTB PTTEP,TISCO เป็นต้น ส่วนที่หลือลงทุนในตราสารสภาพคล่อง เช่น ตราสารหนี้ระยะสั้น เงินฝากเงินสด ไม่เกิน 20% เป็นต้น

 

สำหรับเงินลงทุนใหม่จะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 2-8 พฤษภาคม 2568 โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ปี 2568 ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท และภายหลัง IPO ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม -30 มิถุนายน 2568 ผู้สนใจสามารถลงทุนด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท มีระยะเวลาถือครอง 5 ปีขึ้นไปนับจากวันที่ซื้อ (นับแบบวันชนวัน) และสำหรับการสับเปลี่ยนหนวยลงทุนจากการกองทุน LTF นั้นจะสามารถดำเนินการได้ภายหลังช่วง IPO คือตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องโอนมาทั้งหมด เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ปี 2568 สูงสุด 300,000 บาท ปี 2569-2572 สูงสุดปีละ 50,000บาท มีระยะเวลาการถือครอง 5 ปีขึ้นไปนับจากวันที่จัดสรรหน่วย Thai ESGX แต่ละก้อน(นับแบบวันชนวัน)

 

นอกจากนี้ บลจ.อีสท์สปริง มอบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเงินลงทุนใหม่ สำหรับยอดเงินลงทุนทุกๆ 50,000 บาท รับสิทธิสิทธิพิเศษเป็นหน่วยลงทุนกองทุนเปิดอีสท์สปริง บริหารเงิน (ES-CASH) มูลค่า 100 บาท

 

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าว และควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ได้รับการแต่งตั้ง กรณีที่ขาย สับเปลี่ยน LTF หลังจาก 11 มีนาคม 2568 เป็นต้นไปจะไม่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อน / หากผู้ลงทุนไม่ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามเงื่อนไขที่กำาหนด จะไม่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเต็มจำนวนที่สามารถใช้ได้ /การลงทุนในกองทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงของการลงทุนผู้ลงทุนอาจจะได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้และอาจ ไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดหรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้