สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(1พฤษภาคม 2568)----------------บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ "โฮมโปร" รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2568 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568) มีกำไรสุทธิ 1,707.38 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการท่ามกลางกำลังซื้อที่ยังชะลอตัวจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา
นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ "โฮมโปร" (HMPRO) เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาส 1 ประจำปี 2568 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 18,654.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,707.38 ล้านบาท โดยการปรับตัวลดลงของรายได้ เป็นผลมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ วงเงินในการใช้จ่ายภายใต้โครงการ E-Receipt ที่ลดลงสำหรับร้านค้าทั่วไป จำนวนวันทำการของเดือนกุมภาพันธ์ที่น้อยกว่าปีก่อนหน้า รวมถึงจากที่ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูร้อนล่าช้า และมีฝนตกในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ในสินค้าประเภทเครื่องทำความเย็น มีการปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้ค่าเช่า จำนวน 471.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.46 ล้านบาท หรือ 4.54% จากปีก่อน เป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ค่าเช่าพื้นที่เช่าในสาขาของโฮมโปรและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจได้มากขึ้น
นายวีรพันธ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2568 เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ อาทิ นโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่มีความแน่นอน รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้การบริโภคของภาคประชาชนยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการ Easy E-Receipt 2568 ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยผู้บริโภคสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท ทั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์จากปีก่อน แบ่งเป็น 30,000 บาท สำหรับร้านค้าทั่วไป และ 20,000 บาท สำหรับวิสาหกิจชุมชนและร้านค้า OTOP โดยจากการแยกวงเงินลดหย่อนภาษี ส่งผลให้มูลค่าการใช้สิทธิของร้านค้าทั่วไปลดลง ทำให้ยอดขายมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนล่าช้าเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน และมีฝนตกในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกสบายในการเข้ามาใช้บริการที่สาขาของลูกค้า และทำให้กลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำความเย็น อาทิ เครื่องปรับอากาศ และ พัดลม มียอดขายที่ลดลงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า จึงส่งผลให้ยอดขายต่อสาขาเดิม ลดลงในช่วงไตรมาสแรก
นอกจากนี้ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศพม่า และได้ส่งผลกระทบมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและกรุงเทพมหานคร จากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบโครงสร้างอาคารสาขาและสำนักงานอย่างละเอียด ซึ่งไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้บริษัทฯ มีการสนับสนุนชุมชนและสังคมในเรื่องของการให้บริการตรวจสอบและประเมินความเสียหายที่อยู่อาศัยกับทางภาคครัวเรือน รวมถึงเตรียมความพร้อมในการรองรับความต้องการของสินค้าในหมวดการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลังจากขั้นตอนการตรวจสอบและประเมินความเสียหายเสร็จสิ้น
"โฮมโปรยังคงเดินหน้าเสริมแกร่งทางธุรกิจ ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มมาร์เกตเพลสออนไลน์ควบคู่กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการจัดกิจกรรม Double Day และกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับความต้องการในกลุ่มสินค้าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นในช่วงถัดไป" นายวีรพันธ์ กล่าว