Today’s NEWS FEED

News Feed

ส.อ.ท.เผยจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมีนาคม 2568 มีทั้งสิ้น 129,909 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ร้อยละ 12.49 แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 6.09 เพราะผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 9.36 จากการผลิตรถยนต์นั่งลดลงร้อยละถึง 51.18

116



สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 เมษายน 2568)--------นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมีนาคม 2568 ดังต่อไปนี้

การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมีนาคม 2568 มีทั้งสิ้น 129,909 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ร้อยละ 12.49 แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 6.09 เพราะผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 9.36 จากการผลิตรถยนต์นั่งลดลงร้อยละถึง 51.18 เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถบางรุ่นของรถยนต์นั่ง แต่ผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.01 เพราะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง BEV และ PHEV เพิ่มขึ้น แต่ผลิตรถกระบะลดลงร้อยละ 29.32 ตามยอดขายรถกระบะยังคงลดลง
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 352,499 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 14.88
รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ 45,588 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 12.50 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 18,451 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 41.77
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 5,412 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 341.44
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 2,360 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 289.44
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 19,365 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 4.21
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มีจำนวน 119,865 คัน เท่ากับร้อยละ 34 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 22.69 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 53,267 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 43.29
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 9,319 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 252.06
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 6,752 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 336.18
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 50,527 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 11.25
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมีนาคม 2568 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ไม่มีการผลิต
รถยนต์บรรทุก เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 84,321 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 2.22 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 232,634 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 10.20
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 83,417 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 0.25 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 230,038 คัน เท่ากับร้อยละ 65.26 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 8.08 โดยแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 40,362 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 12.70
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 142,616 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 11.43
• รถกระบะ PPV 47,060 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 9.47

รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ 904 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 70.09 รวมเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตได้ 2,596 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 70.55

ผลิตเพื่อส่งออก

เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ 83,217 คัน เท่ากับร้อยละ 64.06 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 9.36 ส่วนเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 236,796 คัน เท่ากับร้อยละ 67.18 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 13.48
รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2568 ผลิตเพื่อการส่งออก 14,022 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 51.18 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 41,487 คัน เท่ากับร้อยละ 34.61 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 49.29
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมีนาคม 2568 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 69,195 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 9.68 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 195,309 คัน เท่ากับร้อยละ 84.90 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 1.79 โดยแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 25,489 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 ร้อยละ 45.33
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 130,543 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 ร้อยละ 5.54
• รถกระบะ PPV 39,277 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 ร้อยละ 8.71

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ 46,692 คัน เท่ากับร้อยละ 35.94 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 0.36 และเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตได้ 115,703 คัน เท่ากับร้อยละ 32.82 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 17.62
รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2568 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 31,566 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 35.01 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ผลิตได้ 78,378 คัน เท่ากับร้อยละ 65.39 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.01
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมีนาคม 2568 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 14,222 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 29.32 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 34,729 คัน เท่ากับร้อยละ 15.10 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 40.51 ซึ่งแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 14,873 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 ร้อยละ 48.17
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 12,073 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 ร้อยละ 47.10
• รถกระบะ PPV 7,783 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 ร้อยละ 13.05
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมีนาคม 2568 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ไม่มีการผลิต
รถบรรทุก เดือนมีนาคม 2568 ผลิตได้ 904 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 70.09 และตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 2,596 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 70.55

รถจักรยานยนต์
เดือนมีนาคม 2568 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 233,782 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 6.54 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 185,931 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 3.41 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 47,851 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 20.75
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 664,485 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 0.71 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 531,458 คัน ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 0.36 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 133,027 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 5.26

ยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมีนาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 55,798 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ร้อยละ 13.15 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 0.54 จากรถกระบะที่ยังคงขายลดลงร้อยละ 7.84 เพราะการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังกังวลหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราต่ำ ค่าครองชีพสูง
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 34,685 คัน เท่ากับร้อยละ 62.16 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 2.83
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 13,770 คัน เท่ากับร้อยละ 24.68 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 15.13
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 8,179 คัน เท่ากับร้อยละ 14.66 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 77.23
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 705 คัน เท่ากับร้อยละ 1.26 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 250.75
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 12,031 คัน เท่ากับร้อยละ 21.56 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.18
รถกระบะมีจำนวน 14,941 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 7.84 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 54 ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 3,360 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 2.21 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,472 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 6.95 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,286 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 12.81
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 151,331 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ร้อยละ 2.55 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 0.93

ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 รถยนต์มียอดขาย 153,193 คัน ลดลงจากปี 2567 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 6.45 แยกเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 96,073 คันเท่ากับร้อยละ 62.71 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 3.57
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 37,555 คัน เท่ากับร้อยละ 24.51 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 14.44
• รถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 22,737 คัน เท่ากับร้อยละ 14.84 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 18.85
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 2,458 คัน เท่ากับร้อยละ 1.60 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 336.59
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 33,323 คัน เท่ากับร้อยละ 21.75 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.54
รถกระบะมีจำนวน 40,379 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 13.37 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 96 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 9,387 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 4.35 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 3,589 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 21.93 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 3,669 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 18.16
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 455,244 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 1.71

การส่งออก

รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนมีนาคม 2568 ส่งออกได้ 80,914 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 0.50 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 14.91 .เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งบางรุ่น และจากการเข้มงวดในการลดการปล่อยคาร์บอนของบางประเทศและการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกของจีนในบางประเทศคู่ค้า จึงส่งออกลดลงในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ อย่างไรก็ตามส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์และอะไหล่เพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนมีนาคม 2568 แบ่งเป็น ดังนี้
• รถกระบะ 52,337 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 64.68 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 3.49
• รถยนต์นั่ง ICE 10,630 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 13.14 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 51.62
• รถยนต์นั่ง HEV 4,920 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 6.08 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 0.65
• รถ PPV 13,027 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 16.10 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 6.94
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 57,416.07 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 15.47
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,139.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 30.72
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 15,828.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 8.90
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,305.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 9.69
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมีนาคม 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 78,689.06 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 9.52

เดือนมกราคม – มีนาคม 2568 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 220,139 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 18.63 แบ่งเป็น
• รถกระบะ ICE 141,971 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 64.49 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 8.49
• รถยนต์นั่ง ICE 32,517 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 14.77 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 47.13
• รถยนต์นั่ง HEV 12,339 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 5.16 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 27.06
• รถ PPV 33,312 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 15.13 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 9.85
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 156,187.74 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 17.43 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 8,795.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 28.15
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 41,564.39 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 10.17
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 6,747.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 6.75
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 213,294.45 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 14.20

รถจักรยานยนต์
เดือนมีนาคม 2568 มีจำนวนส่งออก 91,951 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ร้อยละ 19.03 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 6.62 โดยมีมูลค่า 6,731.53 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 6.55 รถจักรยานยนต์ยังคงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริการ้อยละ 32.2 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20.47 ของยอดส่งออกรถจักรยานยนต์ สหราชอาณาจักรเป็นอันดับสองมีสัดส่วนร้อยละ 13.29 เบลเยี่ยมเป็นอันดับสามมีสัดส่วนร้อยละ 11.89 ญี่ปุ่นร้อยละ 8.74

• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 178.94 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 9.94
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 248.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 42.81

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนมีนาคม 2568 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 7,158.57ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 5.51

เดือนมกราคม – มีนาคม 2568 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 242,096 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 4.58 มีมูลค่า 17,525.30 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 11.06
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 506.67 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 22.73
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 686.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 37.81
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2568 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 18,717.98 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 10.26

เดือนมีนาคม 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 85,847.63 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 9.19
เดือนมกราคม – มีนาคม 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 232,012.43 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 13.90

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมีนาคม 2568
เดือนมีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 9,905 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 33.20 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 7,839 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 57.31
 รถยนต์นั่งจำนวน 7,570 คัน
 รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 144 คัน
 รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 4 คัน
• รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 18 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 14.29
• รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 3 คัน เท่ากับเดือนมีนาคม 2567
 รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 3 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,998 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 15.55
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 1,998 คัน
• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 37 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 428.57
• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 10 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 82.14

เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 31,991 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 7.66 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 25,397 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 14.47
 รถยนต์นั่งจำนวน 24,996 คัน
 รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 263 คัน
 รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 9 คัน
 รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 129 คัน
• รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 82 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 44.59
• รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 5 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 28.57
 รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล 3 คัน
 รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 2 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 6,401 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 11.17
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 6,400 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 1 คัน
• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 47 คัน เพิ่มขึ้นเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 2.17
• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 59 คัน ซึ่งลดลงเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 ร้อยละ 51.24
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมีนาคม 2568
เดือนมีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 12,570 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 4.92 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 12,468 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 4.41
o รถยนต์นั่งจำนวน 12,390 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 4 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 51 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 23 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 102 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ร้อยละ 161.54
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 102 คัน
เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 38,165 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 0.13 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 37,932 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 0.25
o รถยนต์นั่งจำนวน 37,821 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 9 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 62 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 40 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 233 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 164.77
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 233 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมีนาคม 2568
เดือนมีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 2,038 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 132.65 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 2,038 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 132.65
o รถยนต์นั่งจำนวน 2,018 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 20 คัน

เดือนมกราคม - มีนาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 4,132 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - มีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 52.47 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 4,132 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ร้อยละ 52.47
o รถยนต์นั่งจำนวน 4,109 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 20 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 3 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 258,982 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 60.51 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 184,556 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 65.02
• รถยนต์นั่งมีจำนวน 180,772 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 63.88
• รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 2,766 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 137.63
• รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 211 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 257.63
• รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 171 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 111.11
• รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน ซึ่งในช่วงเดียวกันไม่มีการจดทะเบียน
• รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 633 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 174.03
• รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 953 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 121.63
• รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 1,026 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 14.13
• รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 117 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 36.05
• รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 909 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 11.81
• รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 68,653 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 51.58
• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 68,539 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 51.78
• รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 114 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 14.93
• อื่นๆ
• รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,833 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 14.88
• รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 946 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 156.37

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 507,224 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 32.99 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 497,734 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 33.70
• รถยนต์นั่งมีจำนวน 496,479 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 33.68
• รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 500 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 3.73
• รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 135 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 125
• รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 256 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 43.82
• รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
• รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 359 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 136.18
• รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
• รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,487 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 3.99
• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 9,487 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 3.99
• อื่นๆ
• รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 67,270 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 18.76 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 67,270 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 18.76
• รถยนต์นั่งมีจำนวน 67,174 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 18.74
• รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 1 คัน ในปี 2567 ยังไม่มีการจดทะเบียน
• รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 63 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 53.66
• รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 21 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 8.70
• รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 66.67
• รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 6 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 20

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

เงินมา หุ้นขึ้น By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม มองตลาดหุ้นไทย หุ้นไทย สู่ โลกเงินมา หุ้นขึ้น บริษัทจดทะเบียน ทยอยประกาศงบไตรมาสแรกปีนี้ จีน ออกมาบอก ....

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้