AT THE OPEN (#ATO)
SET Index อยู่ในรอบ Sideways
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
Market Strategy
SET Index แกว่งออกข้างในกรอบ 1150-1170 จุด จากปัจจัยแวดล้อมทิ่อยู่ในช่วงติดตามพัฒนาการข้อตกลงการค้า การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจและการรายงานงบ 1Q68 หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ TLI และ MTC
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้แกว่งบวกลบผสมผสานในช่วง -0.1% ถึง 0.28% จากปัจจัยแวดล้อมที่อยู่ในช่วงติดตามพัฒนาการของเหตุการณ์ทั้งรายงานงบ 1Q68 การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ (PMI ภาคการผลิต . ตัวเลขตลาดแรงงานและ GDP 1Q68 ที่จะเริ่มตั้งแต่ 30 เม.ย. เป็นต้นไป) ส่วนเรื่องการเจรจาลดภาษีกับสหรัฐฯ ล่าสุด รมว.คลังเผยน่าจะตกลงทางการค้ากับอินเดียในเร็วๆนี้ ขณะที่ข้อตกลงกับจีนยังคลุมเครือจาก ล่าสุดวานนี้โฆษกต่างประเทศของจีน เผยยังไม่มีการเจรจากับสหรัฐฯ สำหรับไทยยังคงติดตามวันเข้าเจรจากับสหรัฐฯ ต่อไป สภาพแวดล้อมข้างต้นน่าจะทำให้แรงขับเคลื่อนต่อตลาดหุ้นจะเริ่มลดลง
ปัจจัยในประเทศอยู่ที่ความคืบหน้าชอง TESGX ที่หน่วยงานตลาดทุนเผยว่าเตรียมเปิดขายกองทุนได้ตั้งแต่ 2 พ.ค.68 และเปิดการสับเปลี่ยน LTF ตั้งแต่ 13 พ.ค. โดยสามารถลงทุนและสับเปลี่ยนได้ภายใน มิ.ย.68 โดยคาดหมายการระดมทุนไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมไปถึงเม็ดเงินที่สับเปลี่ยน LTF ที่ปัจจุบันมีมูลค่าคงค้างในช่วง 1.5 -1.6 แสนล้านบาท เราประเมินความคืบหน้าข้างต้น น่าจะเป็นบวกต่อเม็ดเงินที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นช่วง 2 เดือนข้างหน้าต่อไป โดยหุ้นที่เราคาดว่าจะได้แรงหนุนจากเม็ดเงิน TESGX สูงและแนะนำซื้อในทางปัจจัยพื้นฐาน 6 อันดับแรก คือ HMPRO KBANK CPF BDMS COM7 และ BDMS ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าในช่วง 600 -1,000 ล้านบาทต่อบริษัท สำหรับประเด็นอื่นๆวันนี้ติดตามการประชุม ครม. สัญจรที่ จ.นครพนม ซึ่งคาดเสนอ 9 โครงการหนุนเศรษฐกิจอีสานตอนบน 2 วงเงิน 400 ล้านบาทและการรายงาน 1Q68 ของ HMPRO
Market Summary
SET Index แกว่งทรงตัวด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 2.85 หมื่นล้านบาท กลุ่มที่ Outperform คือ กลุ่มอิเล็คฯ จาก DELTA งบ 1Q68 ดีกว่าเราและตลาดคาด กลุุ่มประกันจาก TLI +2.5% และ BLA +1.2% คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีใหม่ กลุ่มเนื้อสัตว์จาก BTG +4.1% TFG +5% GFPT +1.5% คาดงบ 1Q68 ขยายตัวดีจากราคาหมูที่ฟื้นตัวและราคาต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง ส่วนกลุ่มที่ปรับลง Underperform กลุ่ม ร.พ. จาก BH -3.4% สัญญาณผู้ป่วยต่างชาติไม่ฟื้นตัว กลุ่มที่ถูกแรงขายทำกำไร กลุ่มรับเหมาฯ STEC -7.8% กลุ่มไฟแนนซ์ -1.5%
DAILY Stock Pick
TLI
ผู้นำธุรกิจประกันภัย
upside เพิ่มเติมจาก TFRS17
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 16.00 บาท
เราคาด TLI ได้รับแรงหนุนจากทั้งการเปลี่ยนแปลงไปสู่มาตรฐานการบัญชี TFRS17 มี upside จากประกาศของเรา 7-9% อีกทั้ง การเร่งทำประกันสุขภาพก่อนการเริ่มใช้การร่วมจ่าย (Co-payment) ในวันที่ 20 มี.ค. 68 ช่วยหนุนผลประกอบการ โดย 2M68 มี First year premium +27%YoY เทียบกับ -5% ในปี 67
Valuation ของ TLI คงน่าสนใจอยู่ที่ราว 0.75 เท่า P/EV (Embedded value) ต่ำกว่าคาดเฉลี่ยกลุ่มใน regional ที่ 0.9 เท่า ขณะที่ TLI มี VONB margin สูงกว่ากลุ่ม นอกจากนี้ล่าสุด บริษัทเปิดเผย Embedded value สิ้นงวด 4Q67 อยู่ 1.8 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 15.8 บาทต่อหุ้น พร้อมกับอัตราเงินปันผลปี 68 ที่ 4.1%
KEY FACTOR
ตลาดหุ้นต่างประเทศเข้าสู่ช่วงที่รอปัจจัยใหม่ในระยะสัปดาห์ ทั้งการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ (ประกอบด้วย GDP และตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ) รวมทั้งความคืบหน้าการเจรจาภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่างๆ รวมทั้งกลับมาให้น้ำหนักการรายงานงบฯ 1Q68 ส่งผลให้ความผันผวนลดลง และ ตลาดแกว่งผสมผสาน 1) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวในกรอบ -0.1% ถึง +0.28% 2) ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้ แกว่งผสมผสานช่วง -0.31% ถึง +1.27% 3) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ทรงตัวบริเวณ 4.27% 4) VIX index ทรงตัวต่ำบริเวณ 25 จุด (เทียบกับจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ระดับ 52 จุด ในช่วงที่สงครามการค้าร้อนแรง)
EYES ON
30 เม.ย. : การประชุม กนง., GDP 1Q68 ของ สหรัฐฯ และ Eurozone, การจ้างงานเอกชน ADP ของสหรัฐฯ
2 พ.ค. : เงินเฟ้อ Eurozone, การจ้างงานนอกภาคเกษตร และ อัตราการว่างงานสหรัฐฯ
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ