บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)MOSHI
รายได้และกำไรเติบโตตาม SSSG ที่ยังเป็นบวกและการเปิดสาขาเพิ่ม
เราคาดกำไร 1Q25F ของ MOSHI ยังคงเติบโตดี YoY แต่ลด QoQ จากปัจจัยด้านฤดูกาล โดยกำไรที่โต YoY นั้นมาจากทั้งรายได้และมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น โดยใน 1Q25 เปิดสาขาใหม่ 6 สาขาจากเป้าทั้งปีที่ 40 สาขาและ SSSG ยังโตได้ดีที่ประมาณ 8% เราคาดกำไรจะยังเติบโตดีในไตรมาสถัดๆไปจากการทยอยเปิดสาขาใหม่และออกสินค้าใหม่ รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนสินค้า Margin สูงและสินค้านำเข้า ซึ่งจะทำให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากคาดว่าบริษัทจะทำกำไรเป็นสถิติสูงสุดใหม่ต่อในปีนี้
คาดกำไร 1Q25F เติบโตดี YoY แต่ลด QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
เราคาดกำไร 1Q25F ของ MOSHI จะอยู่ที่ 152 ลบ.โต 13.6% YoY แต่ลด 22.9% QoQ จากปัจจัยด้านฤดูกาล (4Q จะเป็นไตรมาสที่สูงที่สุดของปี) โดยคาดรายได้เติบโต 19% YoY (ลด 21% QoQ)จากการเพิ่มขึ้นของสาขา YoY จาก 140 เป็น 170 สาขา โดยใน 1Q25 เปิดสาขาใหม่ทั้งหมด 6 สาขาซึ่ง 1 ในนั้นเป็น Big Size Standalone รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ ผลักดันให้ SSSG 1Q25 ยังโตได้ดีโดยเราคาดไว้ที่ 8% โดยสินค้าที่ผลักดันยอดขายให้เติบโตจะเป็นสินค้าพวก Home Furnishing, ของเล่น, เครื่องเขียนและเครื่องสำอาง ส่วน Gross margin คาดว่าอยู่ที่ 55.3% เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จาก 54.8% และ 53.3% จากการเพิ่มสัดส่วนสินค้านำเข้าที่มีมาร์จิ้นสูงจาก 60% ใน 1Q24 และ 4Q24 เป็น 65% ในขณะที่ S&A expenses เพิ่มขึ้นตามจำนวนสาขาและพนักงานที่เพิ่มขึ้นแต่หากเทียบกับยอดขายแล้วจะลดลงเล็กน้อย YoY, QoQ จาก 31.4%, 31.3% เป็น 31.1%
คาดยอดขายและ Gross margin เพิ่มขึ้นต่อเนื่องผลักดันกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้
เราคาดว่าบริษัทจะทำกำไรเป็นสถิติสูงสุดใหม่ต่อในปีนี้ที่ 582 ลบ. เติบโต 12% จากคาดการณ์รายได้เติบโต 16% (จากสมมติฐาน SSSG ที่ 3% และการเปิดสาขาใหม่ 40 สาขา ซึ่งปัจจุบันบริษัทหาพื้นที่ได้แล้วมากกว่าครึ่ง) สำหรับในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนเม.ย. SSSG ยังคงเติบโตดีที่ประมาณ 15% ส่วนหนึ่งมาจากฐานปีที่แล้วต่ำจากปัญหา Supply Shortage และการออกสินค้าใหม่ทั้งสินค้าลิขสิทธิ์และสินค้าที่บริษัทออกแบบเองอย่างต่อเนื่อง โดยใน 2Q25F คาดจะเปิดสาขาใหม่ 10-12 สาขา (1 ในนั้นเป็น Big Size Standalone ที่เพิ่งเปิดไปในเดือนนี้) ซึ่งยอดขายของ Big Size Standalone ที่เปิดมาถือว่าเป็นไปตามเป้า ส่วนปัญหาเรื่องสงครามการค้ายังคงไม่ส่งผลกระทบกับบริษัทและดูเหมือนการบริโภคที่ชะลอตัวในจีนจะส่งผลดีกับบริษัทด้วยในแง่ที่ทำให้ Bargaining power ของบริษัทกับ Supplier ในจีนจะดีขึ้นด้วย รวมถึงการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับหยวนก็ส่งผลดีต่อต้นทุนของบริษัท โดยรวมๆ บริษัทยังคงเป้า SSSG ที่ 3-5% และรายได้เติบโต 15-20% ส่วน Gross margin คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้านำเข้าที่มีมาร์จิ้นสูงจาก 60% ในปี 2024 เป็น 63% ในปี 2025F (1Q25 อยู่ที่ 65%)
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมที่ 60 บาท
เราคงประมาณการกำไรรวมถึงมูลค่าที่เหมาะสมของ MOSHI ที่ 60 บาท ซึ่งคิดจากวิธีคิดลดมูลค่าของกระแสเงินสด (Discount Cash Flow) ด้วยสมมติฐาน WACC 6.7% โดยอิงจาก risk free rate 3.2% risk premium 6.4% Beta 1 average cost of debt ที่ 4% และ Terminal growth 1%