---ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว---

คาดขาดทุนสุทธิ 1,310 ล้านบาทใน 1Q25F (เทียบกับกำไรสุทธิ 1,540 ล้านบาทใน 1Q24 และขาดทุนสุทธิ 1,120 ล้านบาทใน 4Q24) ผลประกอบการที่อ่อนแอมาจาก 1) ค่าการกลั่นและสเปรดเคมีภัณฑ์ที่ยังอ่อนแอ และ 2) cash cost ในการดำเนินงานสูงที่ 6–7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม บางส่วนได้รับการชดเชยด้วยกำไรจากสต๊อกน้ำมันที่คาดว่าจะอยู่ที่ 597 ล้านบาท

คาดการณ์ Market GRM ใน 1Q25F ไว้ที่ 3.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งลดลง -47% YoY และ -47% QoQ ส่วน Market GIM คาดไว้ที่ 1.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-3%YoY, -3%QoQ) ด้าน Total accounting GIM เท่ากับ 7.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-45%oY, -27% QoQ) ต่ำกว่าระดับคุ้มทุนที่ประมาณ 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

แนวโน้มยังท้าทาย เราคาดว่าค่าการกลั่นใน 2Q25F จะอ่อนตัวลง เนื่องจาก 1) ความต้องการใช้น้ำมันที่ฟื้นตัวช้าในจีนและยุโรป, 2) สงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้น, 3) มีกำลังการผลิตโรงกลั่นเข้ามาเพิ่มสูงถึงประมาณ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ส่วนใหญ่มาจากจีน) ในช่วง 2Q25-QTD ค่าการกลั่นน้ำมัน Jet, ดีเซล และเบนซิน อยู่ที่ 12.4, 13.5, 8.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เปลี่ยนแปลง -5%, -4%, +7% ตามลำดับ ธุรกิจปิโตรเคมีเผชิญกับอุปทานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 25F-27F โดยเฉพาะในจีนที่จะมีภาวะอุปทานล้นเกิน ขณะเดียวกันอุปสงค์ถูกกดดันจากสงครามการค้าที่รุนแรง ทำให้มีโอกาสสูงที่จะจะส่งออกปิโตรเคมีส่วนเกินออกมายังตลาดอาเซียนมากขึ้น ซึ่งจะกดดันมาร์จิ้น

มีความเป็นไปได้ที่จะตั้งด้อยค่าการลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทย่อย ประมาณ 4,000 ล้านบาท และการปิดถาวรของหน่วยผลิต PE/PP compound (เบื้องต้นคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2025) เนื่องจากส่วนต่างกำไรลดลงต่ากว่าต้นทุนผันแปร

คงคำแนะนำ Fully Valued โดยให้ราคาเป้าหมายปี 25F ที่ 0.70 บาท อิง P/BV ที่ 0.24 เท่า (Mean-2.0SD) ทั้งนี้ เราได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 25F และ 26F ลง -118% และ -106% ตามลำดับ โดยปรับลดสมมติฐาน Market GRM ลง 1.0 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จาก 5.0 เหลือ 4.0 ดอลลาร์ สำหรับทั้งปี 25F และ 26F

นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethbik@dbs.com : Tel. 02 857 7833