ภาวะตลาด : วานนี้ SET Index ในวันหลุดต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ที่ 1130 (ต่ำสุดลงไปที่ 1127.46) แต่ก็การเลือกซื้อรายตัวกระจายในกลุ่มต่างๆ ทำให้ดัชนีดีดขึ้นมาปิด+9.34 จุด ที่ 1144.05 โดย 5 หุ้นหลักที่ดึงตลาดขึ้นเป็น DELTA, GULF, CPALL, GPSC, BTS ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อย +123 ลบ. สถาบันในปท.ขายสุทธิ -357 ลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
- IMF ลดคาดการณ์จีดีพีโลกปี 25F ลงเป็น 2.8% (เดิม 3.3%) และปี 26F เป็น 3.0% (เดิม 3.3%) สะท้อนผลกระทบจากมาตรการภาษีทรัมป์
+ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐพุ่ง 2.5-2.7% หลังสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐแสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้าโดยทั้งสองประเทศจะไม่ปล่อยให้อัตราภาษีนำเข้าสูงมากต่อไปโดยไม่เปลี่ยนแปลง และประธาน ECB เชื่อว่าทรัมป์ จะไม่ปลดพาวเวลจากตำแหน่งประธานเฟด
• ทรัมป์ หารือผู้บริหารธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐ เช่น Walmart, Home Depot, Lowe's, Target เกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากร ที่จะซ้ำเติมธุรกิจ ซึ่งเดิมก็มีปัญหาต้นทุนสูงและราคาสินค้าแพงขึ้นอยู่แล้ว
•/- มีแนวโน้มว่าสหรัฐจะกดดันให้ญี่ปุ่นแก้ไขค่าเงินเยนอ่อน ในการประชุมรมว.คลังระหว่าง 2 ประเทศที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ผลสำรวจระบุธุรกิจญี่ปุ่นบางส่วนเริ่มถูกกระทบจากมาตรการภาษีทรัมป์ เช่น บ.รถยนต์จำนวนหนึ่งถูกยกเลิกคำสั่งซื้อ, ธุรกิจท่องเที่ยวกังวลว่าถ้าเงินเยนแข็งค่าขึ้นอาจทำให้จน.นักท่องเที่ยวลดลง
+/• ราคาน้ำมันดิบ WTI & BRENT รีบาวด์ 1.2 ดอลลาร์ เป็น 64-67 US$/bbl หลังสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ ด้านสัญญาทองคำอ่อนลง -0.17% จากการแข็งค่าเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ลดลงเป็น 94.1 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ยืนที่ 1261 (สูงสุด 1669) ด้าน US Bond Yield 10 ปี ลดลงเป็น 4.355% ค่าเงิน US$ แข็งเป็น 99.407 เงินบาท/US$ อ่อนค่าสู่ 33.51
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
•/+ FAA สหรัฐประกาศยกระดับมาตรฐานการบินของไทยจาก CAT2 เป็น CAT1 บินตรงเข้าสหรัฐได้ในรอบ 10 ปี และเปิดช่องให้เพิ่มเส้นทางการบินหรือความถี่ในการบินไปยังปท.ที่ให้ค.สำคัญกับการประเมินของ FAA...เป็น Sentiment บวกกับธุรกิจสนามบินและสายการบิน แต่ยังไม่เห็นผลบวกในระยะสั้นมากนัก
• การเมืองไทย – นายกฯปฎิเสธกระแสข่าวการปรับพรรคภูมิใจไทยออกแล้วดึงพปชร.เข้ามาแทน ด้านเลขาธิการพรรคพปชร.ยืนยันไม่กลับเข้าร่วมรัฐบาลแน่นอน
•/+ ปัจจัยติดตาม : การเจรจาภาษีการค้าไทย-สหรัฐ ขณะนี้รอว่าจะได้คิวเมื่อไร, รายงานงบ real sectors, ผลประชุมกนง.วันที่ 30 เม.ย., สถานการณ์การเมืองไทย
+ หุ้น Defensive & Domestic Play ที่น่าสนใจ ได้แก่ ADVANC, CPALL, CK, STECON, PR9, BDMS, KTB, TTB, MTC, HMPRO, BEM
กลุยทธ์ :
ดีดกลับก่อนถึง 1118 การขึ้นมีแนวต้าน 1155/1166 ผ่านได้จะเป็นบวก – หากดัชนีจะแกว่งตัวขึ้นก็ไม่ควรลงหลุดต่ำกว่า 1130-1127 อีก แต่ถ้าหลุดต่ำกว่าจะลงไปใกล้ 1118 หรือ 1096 ที่จะทำให้ดีดกลับได้ ไม่หลุดยังเป็นการทำฐานเพื่อรอทดสอบแนวต้าน 1155/1166 หุ้นเทคนิคแนะนำ เป็น CK, TRUE
หุ้นพื้นฐานแนะนำ:
BA (ราคาปิด 15.80 บาท) – บริษัทได้รับผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีนจำกัด เนื่องจากสัดส่วนรายได้นักท่องเที่ยวจีนต่ำกว่า 5% ของรายได้รวม ลูกค้าหลักจะเป็นยุโรปที่เข้ามาเที่ยวเกาะสมุย นักวิเคราะห์ในตลาดคาดกำไรสุทธิ 1Q25F เติบโตสูง QoQ และขยายตัวเล็กน้อย YoY โดยหลักมาจากอัตราค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง แม้ว่าจะมีขาดทุนจากการทำประกันความเสี่ยง ราคาปัจจุบันมี P/E ปีนี้ 9 เท่า แนะนำ ซื้อ การวิเคราะห์เทคนิคระยะสั้น มีแนวต้าน 16.40, 16.80-17.00 บาท; Stop loss ถ้าหลุด 15 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829