คาด SET Index แกว่งตัว Sideways to sideways down : แรงกดดันคาดมาจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน หากแต่พอมีแรงพยุงจากความหวังต่อการเจรจาของไทยกับสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้
แนวรับ-ต้าน
1,140 –1,155
กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งงบ 1Q68 : ADVANC, AP, BDMS, CPF, MTC, QH, TRUE
2) Domesticplay : AEONTS, BEM, BJC, CK, OR, STECON, TIDLOR, UNIQ
3) Defensive : BCH, CHG, PR9, TTW
4) Selective : AAI, BTG, GFPT, ICHI
ความกังวลที่วนวนเวียนในสินทรัพย์เสี่ยง
กังวลภาวะเศรษฐกิจโลก จีนหันพึ่งตัวเอง : คาดแรงกดดันมาจากการที่นักลงทุนมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงความกังวลต่อความสัมพันธ์ของ 2 เศรษฐกิจขนาดใหญ่ สะท้อนจากเช้านี้ที่ Dow Jones Future ปรับตัวลง สวนทางกับราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวขึ้น ทั้งนี้ แม้สัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ เผยว่าเขาลังเลที่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนต่อไปและยังบอกเป็นนัยว่าอาจเปิดใจที่จะลดภาษีลงก็ได้ เนื่องจากอาจทำให้การค้าระหว่างกันหยุดชะงัก หากแต่การเจรจาทางการค้าอย่างเป็นทางของสหรัฐฯกับจีนยังมิได้เกิดขึ้นให้เห็น กอปรกับเศรษฐกิจจีนเหมือนว่าจะมีความพยายามหันมาพึ่งพาอุปสงค์ภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสัญญาณบ่งชี้ถึงภาพ Deglobalization สอดรับกับ 1)Bloomberg ซึ่งรายงานว่ากระทรวงพาณิชย์จีนให้คามั่นว่าจะใช้ตลาดในประเทศเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรับมือผลกระทบจากภายนอก และ 2)ข้อมูลของจีนที่บ่งชี้ว่าการใช้จ่ายรวมจากงบประมาณสาธารณะและบัญชีกองทุนของรัฐบาลอยู่ที่ 9.26 ล้านล้านหยวน ในช่วง 1Q68 เพิ่มขึ้น 5.6% y-y ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 3 ปีสำหรับ 1Q
หวังการเจรจาของไทยกับสหรัฐฯ : อย่างไรก็ตาม คาด SET Index ยังพอมีแรงพยุงจากความหวังว่าการเจรจาของไทยกับสหรัฐฯระดับรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 23 เม.ย.68 จะออกมาในโทนบวก หลังสหรัฐฯแสดงให้เห็นถึงท่าทีที่ประนีประนอมต่อเศรษฐกิจคู่ค้า สอดรับกับการพบปะของปธน.ทรัมป์ กับคณะผู้แทนญี่ปุ่น และนายกฯอิตาลีสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งต่างออกมาในโทนบวก อีกทั้ง ปธน.ทรัมป์ ยังแสดงความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าสหรัฐฯและสหภาพยุโรปจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ภายในระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน นอกจากนี้ ยังมีความหวังเบาๆต่อมาตรการทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยวันนี้จับตานายกฯมอบนโยบายโครงการ SMLให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในระดับชุมชนของรัฐบาล
ติดตามงบ 1Q68 และตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศ : ติดตามงบวันนี้ โดยบริษัทที่คาดจะเผยงบ ได้แก่ KBANK และ SCB ขณะที่ด้านตัวเลขเศรษฐกิจเช้านี้ติดตาม LPR ของจีน 1 และ 5 ปี ซึ่งตลาดคาดคงที่ 3.1% และ 3.6% ตามลำดับ ส่วนคืนนี้ติดตาม Leading Index เดือนมี.ค.68 ของสหรัฐฯ ตลาดคาด -0.5% m-m แย่ลงจาก -0.3% m-m ในเดือนก.พ.68
ปัจจัยเพิ่มเติม
(-) Moody’sRatings คาดว่าอัตราการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทที่มีเครดิตต่ำจะอยู่ที่ 3.1% ภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มขึ้นจากการคาดเดิมที่ 2.5% พร้อมเตือนหากเกิดแรงกระแทกเชิงลบขนาดใหญ่ อัตราการผิดนัดอาจพุ่งขึ้นได้สูงถึง 6%
(-) Allianzคาด GDP โลกปีนี้จะเติบโตเพียง 2.3% ต่าสุดนับตั้งแต่โควิด ปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้ง คือ ความไม่แน่นอนด้านนโยบาย การชะลอตัวของการบริโภคในประเทศพัฒนาแล้ว และความตึงเครียดจากการตอบโต้เชิงนโยบายระหว่างประเทศ
(-) จากการสำรวจของ CNBC พบว่าปธน.ทรัมป์ มีคะแนนความนิยมทางเศรษฐกิจแย่ที่สุดในอาชีพปธน.ของเขา ท่ามกลางความไม่พอใจมากมายเกี่ยวกับนโยบายภาษี อัตราเงินเฟ้อ และการใช้จ่ายของรัฐบาล
(-) DHL Express เผยจะระงับการจัดส่งสินค้าจากธุรกิจสู่ผู้บริโภคที่มีมูลค่ามากกว่า $800 ต่อบุคคลทั่วไปในสหรัฐฯตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.68 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกฎภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ส่งผลให้พิธีการศุลกากรมีระยะเวลานานขึ้น
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์