AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่ง Sideways
กลยุทธ์ Selective Buy

Market Strategy
SET Index แรงขับเคลื่อนหลักในสัปดาห์นี้อยู่ที่ความคืบหน้าการเจรจาไทยกับสหรัฐฯ ในวันที่ 23 เม.ย. ทำให้ช่วงระหว่างการรอคอย แกว่งผันผวนออกข้างวันนี้มองกรอบ 1140-1160 จุด หุ้นเด่นชอบ WHA CPN

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา ปิดทำการเนื่องจากวัน Good Friday ด้านประเด็นการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ ยังมีอยู่ ล่าสุดอยู่ที่อุตสาหกรรมเดินเรือที่สหรัฐฯ เผยเตรียมเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเดินเรือที่ผลิตจากจีนที่จะมาเทียบท่าในสหรัฐฯ มีผล 14 ต.ค. 68 และทยอยเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มทุกปีเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยประเมินผลที่เกิดขึ้นจะทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น ซึ่งสุดท้ายเชื่อว่าจะผลักภาระไปที่ผู้บริโภคและเป็นความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯต่อไป แต่อย่างไร ก็ตามช่วงที่ค่าธรรมเนียมบังคับใช้ เราคาดว่าจะเห็นการเร่งนำเข้าสินค้าของผู้ประกอบการ ซึ่งสอดรับกับประธาน FED สาขาชิคาโกที่ให้ความเห็นว่ามีสัญญาณที่ผู้ประกอบการเร่งนำเข้าสินค้าก่อนที่มาตรการภาษีของคุณทรัมป์ จะมีผลบังคับใช้ ในสินค้ากลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค สถานการณ์ข้างต้นเรามองเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ ซึ่งเราชอบ CCET ที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าระดับวันที่ 2 เม.ย.68 ที่ -5% เทียบกับกลุ่มอิเล็คฯ ที่ ฟื้นตัว +2.2% ในช่วงเวลาเดียว

ประเด็นในประเทศความสนใจหลัก อยู่ที่การเจรจาภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่างๆ ต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนในแนวทางการเจรจา และเงื่อนไขที่สหรัฐฯ ยอมเปิดรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันที่ 23 เม.ย. ที่ไทยมีกำหนดหารือนัดแรกในระดับรัฐมนตรี นำทีมโดย รมว.คลังฯ นอกจากนี้ ติดตามตัวเลขส่งออกไทยเดือน มี.ค. (Consensus คาดยัง ขยายตัวได้โดดเด่น +12.8% YoY) และการรายงานงบฯ 1Q68 ซึ่งวันนี้จะเป็นการรายงาน KKP KBANK และ SCB

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 9.7 จุด หรือ 0.9% ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยกลุ่มที่หนุนมาจากกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ DELTA +4.6% CCET +2.8% กลุ่มไฟแนนซ์ยังแรงต่อ SAWAD +4.3% TIDLOR +3.4% SAK +3.5% จากความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยฯ ของ กนง.ได้ง่ายขึ้น กลุ่ม ICT จาก ADVANC TRUE จากคาดงบ 1Q68 ยังฟื้นตัว QoQ/YoY ด้านกลุ่มที่ Underperform คือ กลุ่มธนาคาร จาก BBL -1.7% จากคุณภาพสินทรัพย์และ NIM ที่ลดลงแม้งบ 1Q68 ออกมาดีกว่าคาด TTB -3.6% จากงบ 1Q68 ที่ต่ำกว่าคาดจาก NIM ที่ลดลง

DAILY Stock Pick
CPN
สะสมหุ้นกลุ่ม Domestic
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 79.00 บาท
CPN ประกาศเงินลงทุน 1.2 แสนล้านบาท ระหว่างปี 2568-72 โดยเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมระหว่างปี 68-70 รวมทั้งสิ้น 6 โครงการ (ยังไม่รวมในประมาณการของเรา) อาทิ เช่น The Central (พหลโยธิน), Central khonkaen campus ส่งผลให้มีพื้นที่เช่าทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 2.8 ล้านตร.ม. ในปี 72 จาก 2.3 ล้านตร.ม. ในปี 67 ส่วนธุรกิจอื่นยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่องจากทั้ง โรงแรม, อาคารสำนักงานให้เช่า, อสังหาริมทรัพย์ จนถึงปี 72
เราชอบ CPN เนื่องจากคาดกำไรตั้งแต่ปี 67-69 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) +8% มากกว่า 2% มาจากโครงการใหม่ที่เปิดตั้งแต่ปี 69 เป็นต้นไป (ยังไม่รวมโครงการใหม่เพิ่มเติมที่ประกาศเพิ่งประกาศไป) ในเชิงประเมินมูลค่า CPN ซื้อขายที่ PE68 ที่ 12 เท่า (-1.8SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) พร้อมกับคาดการณ์เงินปันผลปี 68 ที่ 4.5%

WEEKLY Stock Pick
WHA
ลุ้นไทยเจรจากับสหรัฐสัปดาห์นี้
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.00 บาท
ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะไม่กระทบต่อการโอนที่ดินของ WHA ในปี 2568 ซึ่งมีแผนโอนสูงสุด 2,251 ไร่ เริ่มรับรู้รายได้บางส่วนตั้งแต่ 1Q25 จากลูกค้ากลุ่มศูนย์ข้อมูลที่ไม่ถูกกระทบจากมาตรการภาษีนี้
ราคาหุ้นยังคง Underperform ปรับตัวลง -17% หลังการประกาศภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ มองเป็นโอกาสสะสมคาดหวังการเจรจาไทยที่น่าจะสามารถลดภาษีจาก 36% โดยในสัปดาห์นี้ประเทศไทยเจรจากับสหรัฐวันที่ 23 เม.ย. เป็น Sentiment หนุนการฟื้นตัวดังกล่าว

KEY FACTOR
กระแสเงินทุนต่างชาติมีสัญญาณที่ดีขึ้น ชะลอแรงขายลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง -904 ล้านบาท (เฉลี่ยขายสุทธิ -301 ล้านบาท ต่อวัน) ลดลงจาก -2,248 ล้านบาท (เฉลี่ย -450 ล้านบาท ต่อวัน) ในสัปดาห์ก่อนหน้า และจาก -6,971 ล้านบาท ในช่วงสัปดาห์ที่สหรัฐฯ ประกาศภาษีตอบโต้
ในสัปดาห์นี้จะมี 1) การรายงานตัวเลขส่งออกของไทย เดือน มี.ค. ซึ่ง Consensus ยังคงมองเชิงบวก คาดเติบโตได้โดดเด่นต่อเนื่องในช่วง +7.7% ถึง +22% (ค่ากลาง +12.8%) อย่างไรก็ตาม คาดว่าน่าจะมีผลมาจากการเร่งนำเข้าในภาคการผลิตก่อนที่สหรัฐฯใช้ภาษีตอบโต้ 2) การเจรจาอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกระหว่างสหรัฐฯ-ไทย ประเด็นกำแพงภาษีในระดับรัฐมนตรี นำทีมโดย รมว. คลังฯ ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่ความคืบหน้าและแนวทางที่จะนำไปสู่การผ่อนปรนภาษีให้ไทยลดลงจากระดับ 36% ในช่วงถัดไป

EYES ON
21 เม.ย. : จีนกำหนดดอกเบี้ย LPR 1 ปี และ 5 ปี
23 เม.ย. : รมว. คลังฯ นำทีมเข้าเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ, S&P Global PMI ภาคการผลิตและบริการ ของสหรัฐฯ, HCOB PMI ภาคการผลิตและบริการ ของ Eurozone

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ