Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : TISCO แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 105 บาท

309

 


TISCO Financial Group (TISCO TB)
อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง แต่ราคาหุ้นมีอัพไซด์จำกัด

แนะนำ “ถือ” เพื่อรับเงินปันผลที่ดี แต่ชอบ KKP มากกว่า
เรามองว่า TISCO เป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดี ประกอบกับ ROE ที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) มีแนวโน้มกดดันการเติบโตของกำไร โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 68 จะเติบโตเพียง 2% YoY ขณะที่การปล่อยสินเชื่อน่าจะชะลอลงเพื่อรักษาคุณภาพสินทรัพย์ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง ทั้งนี้ เราคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ประมาณ 8% เนื่องจาก TISCO ยังรักษานโยบายการจ่ายปันผลในระดับสูง จึงแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 105 บาท (คิดเป็น P/BV 1.9 เท่าและ ROE 16.7%) โดยเราชอบ KKP (ราคาปัจจุบัน 55.50 บาท, แนะนำ “ซื้อ”, ราคาเป้าหมาย 65.00 บาท) มากกว่า จากการเติบโตของ EPS และ ROE ที่สูงกว่า

 

กำไร 1Q68 ลดลง YoY จาก credit cost ที่สูงขึ้น
กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 1.64 พันล้านบาท ลดลง 5% YoY จาก credit cost ที่เพิ่มขึ้น สินเชื่อหดตัว 2% QoQ ขณะที่ NIM ลดลง 10bps QoQ จากอัตราผลตอบแทนสินเชื่อที่ลดลง รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) เพิ่มขึ้น 3% YoY จากค่าธรรมเนียมบริหารจัดการกองทุน อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลง 20bps QoQ มาอยู่ที่ 47.9% ในไตรมาส 1/68 TISCO ตั้งสำรองหนี้สูญไว้ 386 ล้านบาท หรือเทียบเท่า credit cost ที่ 67bps เทียบกับ 47bps ในไตรมาส 1/67 อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 7bps QoQ เป็น 2.42% อย่างไรก็ดี อัตราการเกิด NPL ลดลงเหลือ 69bps ในไตรมาส 1/68 จาก 130bps ในปี 67 โดยรวมแล้ว รายได้รวมยังมีแนวโน้มอ่อนแอ เนื่องจากธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นเพื่อควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ในปีนี้

 

ชะลอการเติบโตของสินเชื่อเพื่อควบคุมคุณภาพสินทรัพย์
จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ CFO ให้มุมมองว่าเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอ และยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีที่กำลังจะเกิดขึ้น การเติบโตของสินเชื่อน่าจะต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 0-5% เนื่องจากธนาคารได้ลด LTV สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อและจำนำทะเบียน อย่างไรก็ตาม CFO คาดว่า credit cost ในปี 68 จะยังต่ำกว่าระดับที่ให้ไว้ที่ 100-120bps จากผลของโครงการ “You Fight WE Help” (YFWH) และแนวทางการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด โดยมีสินเชื่อที่ลงทะเบียนในโครงการ YFWH อยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท โดย 60% ได้รับการปรับโครงสร้างในไตรมาส 1/68 เรามองว่าโครงการนี้มีผลเป็นกลาง เนื่องจากช่วยลดทั้ง credit cost และ loan yield ไปพร้อมกัน

 


คาด NIM ฟื้นตัวจากต้นทุนทางการเงินลดลง credit cost เพิ่มขึ้น YoY
เราคาดว่า NIM จะค่อยๆ ฟื้นตัวจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงหลังการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายและการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในช่วงปี 68-69 ขณะที่ credit cost มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY จากเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ และฐานที่ต่ำในปีก่อน โดย CFO ระบุว่าการแข่งขันด้านเงินฝากจะเพิ่มขึ้นจากธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ที่กำลังจะเปิดตัว แต่เชื่อว่าผลกระทบต่อการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อจะน้อย ทั้งนี้ TISCO ไม่สนใจที่จะปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน เนื่องจากความสามารถในการบริหารความเสี่ยงของลูกหนี้ในกลุ่มนี้ต่ำ

 

Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้