HotNews: ANAN ยินดีควักเงินคืนลูกค้า หากแอชตัน อโศก  เลื่อนโอน
        สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(  23 มีนาคม   2561)--- ANANระบุหากโครงการแอชตันอโศก  เลื่อนโอนกระทบรายได้รวมปีนี้ 18% เหลือ 2.8-3.4 หมื่นลบ. จากเป้า 3.8 หมื่นลบ.   ย้ำมั่นใจยอดขายในปีนี้ตามเป้าหมาย 3.5 หมื่นล้านบาท  คงแผนเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.5 หมื่นล้านบาท

         นายจอห์น มิลลาร์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนากลยุทธ์  บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN  เปิดเผยว่า   หากโครงการแอชตันอโศก มูลค่าโครงการ 6,700 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ไม่สามารถโอนได้ในปีนี้ บริษัทได้ประเมินผลกระทบของรายได้จะลดลง 18% มาอยู่ที่ 28,300-34,300 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้  38,000 ล้านบาท

        อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถโอนได้ภายในปีนี้ แม้ว่าจะเลื่อนการโอนไปเป็นไตรมาส 3/61 จากเดิมที่จะเริ่มโอนในไตรมาส 1/61 ซึ่งกระบวนการการพิจารณาของศาลจะใช้เวลา 1-2 ปี

        สำหรับลูกค้าที่ซื้อโครงการแอชตันอโศกไปนั้น บริษัทได้มีการโทรศัพท์สอบถามลูกค้าประมาณ 80% ของลูกค้าที่ซื้อทั้งหมด ซึ่งพบว่า 95% หรือมากกว่า 600 ยูนิต ยังยินดีที่จะเลื่อนการโอนไปถึง 26 มี.ค. 62 ตามที่บริษัทกำหนด โดยลูกค้าที่เลื่อนโอนออกไปบริษัทจะให้ส่วนลดเงินจอง เงินดาวน์ เงินทำสัญญา 7.5% แต่หากโครงการดังกล่าวไม่สามามรถโอนได้ทันตามกำหนด บริษัทก็ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน พร้อมกับดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารกรุงไทยในช่วงระยะเวลานั้น  

        ส่วนลูกค้าที่ไม่ต้องการยืดระยะเวลาการโอน บริษัทก็จะคืนเงินเต็มจำนวน หรือให้ลูกค้าเลือกโครงการที่บริษัทกำหนด 5 โครงการ ได้แก่ แอชตันจุฬา-สีลม แอชตันสีลม แอชตันเรสสิเด้นซ์ 41 และ ไอดีโอคิวสยาม-ราชเทวี และ คิวชิดลม-เพชรบุรี ซึ่งขึ้นกับความพึงพอใจของลูกค้า

        สำหรับยอดโอนในปี 61 บริษัทยังมั่นใจทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.8 หมื่นล้านบาท เพราะมีความมั่นใจว่าแผนการโอนโครงการแอชตัน อโศก จะยังโอนได้ภายในปีนี้ แต่บริษัทได้มองผลกระทบในกรณีที่โครงการแอชตัน อโศก เกิดความยืดเยื้อและทำให้การโอนต้องเลื่อนออกไปไม่สามารถโอนได้ทันในปี 61 ในด้านของผลโอนจะได้รับผลกระทบลดลงจากเป้าหมายยอดโอนที่ตั้งไว้ 18% มาอยู่ที่ 2.83-3.43 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อนที่มียอดโอนอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท

        ส่วนผลกระทบของยอดโอนในไตรมาส 1/61 หลังจากที่โครงการแอชตัน อโศก ได้เลื่อนการโอนออกไป มองว่ามีผลกระทบต่อยอดโอนในไตรมาส 1/61 เพียงเล็กน้อย เพราะมีโครงการที่จะเริ่มโอนตามแผนในไตรมาส 2/61 สร้างเสร็จและได้เริ่มทยอยโอนเร็วกว่ากำหนดมาในช่วงไตรมาส 1/61 คือ โครงการเวนิโอ สุขุมวิท 10 ซึ่งสามารถทดแทนการโอนโครงการแอชตัน อโศก ได้ส่วนหนึ่ง ส่วนโครงการอื่นๆในปีนี้จะยังคงมีการโอนตามแผน และไม่มีโครงการใดที่มีปัญหาในด้านการโอนหรือข้อกฏหมาย

        ด้านยอดขายในช่วงไตรมาส 1/61 คาดยังมีแนวโน้มที่ดี หลังจากที่บริษัทเปิดการขายโครงการใหม่ไปแล้วเมื่อวันที่ 10-11 มี.ค.ที่ผ่านมา คือ โครงการไอดีโอ สาทร-วงเวียนใหญ่ ซึ่งทำยอดขายได้สูงถึง 40% มากกว่าที่บริษัทคาดไว้ 40% ภายใน 3 เดือน อีกทั้งในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ บริษัทจะเปิดการขายโครงการใหม่อีก 1 โครงการ คือ โครงการยูนิโอ สุขุมวิท 72 โดยบริษัทมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.5 หมื่นล้านบาท และเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.5 หมื่นล้านบาท

        นายจอห์น  กล่าวทิ้งท้ายว่า แผนปี2561   บริษัทยังคงแผนเปิดโครงการ 7 แห่ง มูลค่า 19,000 ล้านบาท จากปีก่อน 6 โครงการ มูลค่า 25,200 ล้านบาท เพราะเราร่วมลงทุนกันมานานแล้ว ประกอบกับ ผู้ถือหุ้นไม่ว่าจะเป็นสถาบันต่างประเทศ ในประเทศ หรือแม้กระทั่งรายย่อยยังมั่นใจศักยภาพของเรา ซึ่งเห็นได้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

        อนึ่งเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2561 นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานกรรมการบริหาร  ANAN  ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Ananda Development ว่าทางโครงการแอชตัน อโศก (Ashton Asoke) ซึ่งเป็นคอนโดหรูสูง 50 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสี่แยกอโศก ติดทางลง MRT สถานีสุขุมวิท มีเหตุจำเป็นที่ต้องให้ลูกค้าของโครงการ เลื่อนการโอนรับมอบห้องออกไปอีก 1 ปี แม้ว่าขณะนี้การก่อสร้างโดยรวมจะเสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม เนื่องจากติดข้อกฎหมายกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย   
    
        บล.หยวนต้า  ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า 3 เหตุผลที่คงคำแนะนำ "SWITCH/SELL" 1) ปรับลดประมาณการกำไรปี 2561 ลง 32% เพื่อสะท้อนความเสี่ยงจากโครงการ แอชตัน อโศก ที่อาจโอนไม่ทันในปีนี้ 2) แผนธุรกิจในปีนี้ตั้งเป้าเปิดขายโครงการใหม่ลดลง 17% YoY และตั้งเป้ายอด Presales เพียงทรงตัวจากปีก่อนหน้า และ 3) คาดราคาหุ้นจะ Overhang ไปจนกว่ากรอบเวลาการโอนโครงการ แอชตัน อโศก จะมีความชัดเจน เราคงคำแนะนำให้เปลี่ยนหุ้นลงทุนเป็น SPALI ที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตเด่นในปีนี้

แอชตัน อโศก มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ... ปรับลดประมาณการกำไรปี 2561 ลง 32%   
        เราประเมินว่าโครงการคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก มูลค่า 6.7 พันล้านบาท (ขายแล้ว 98%) มีความเสี่ยงที่จะโอนไม่ทันภายในปีนี้ เนื่องจากยังไม่ได้รับใบอนุญาตจากทาง กทม. เปิดใช้อาคารเพราะติดปัญหาเรื่องทางเข้า-ออกของโครงการซึ่งเป็นที่ดินเพื่อใช้เป็นประโยชน์สาธารณะ ทำให้ ANAN ไม่สามารถโอนโครงการนี้ได้แม้ก่อสร้างเสร็จแล้วก็ตามและอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองกลาง ซึ่งอาจใช้เวลายาวนาน 1-2 ปี แม้ล่าสุด ANAN อยู่ระหว่างอุทธรณ์ไปยังกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อให้ กทม. ออกใบอนุญาตเปิดใช้อาคาร แต่เราคาดว่าผลการตัดสินจะไม่มี นัยยะสำคัญเพราะประเด็นสำคัญอยู่ที่คำตัดสินจากศาลปกครองกลางต่อกรณีฟ้องคดี กทม.-รฟม.

          จากความเสี่ยงดังกล่าว เราประเมินอย่างอนุรักษ์นิยมด้วยการนำโครงการ แอชตัน อโศก ออกจากประมาณการกำไรปี 2561 ทำให้กำไรปกติลดลง 32% เป็น 1,449 ล้านบาท แม้ยังเติบโต 15% YoY เป็นผลจากฐานต่ำในปีที่แล้ว นอกจากนี้ ความล่าช้าในการโอนโครงการดังกล่าวสร้างความเสี่ยงด้านอื่นๆตามมาและยังไม่รวมอยู่ในประมาณการของเรา เช่น 1) ดอกเบี้ยเงินกู้ราวเดือนละ 5 ล้านบาทและกรอบเวลาการชำระเงินต้นที่สนับสนุนโครงการดังกล่าว 2) ค่าใช้จ่ายจากมาตรการช่วยเหลือผู้ซื้อโครงการ และ 3) ผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัท  

แผนธุรกิจปีนี้ก็ไม่น่าสนใจ … กำไร 1Q61 แนวโน้มต่ำสุดของปี  
        ANAN ปรับลดมูลค่าโครงการเปิดขายใหม่ปีนี้ลง 17% YoY เป็น 3.5 หมื่นล้านบาทเพื่อลดความเสี่ยงจากสถานะการเงินที่เริ่มตึงตัวขึ้น และตั้งเป้ายอด Presales เติบโตเพียง 1% YoY เป็น 3.5 หมื่นล้านบาท ทำให้ความน่าสนใจลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นราว 15-20% และตั้งเป้ายอด Presales เติบโต 10-15% เรามองว่ามีความเสี่ยงที่ ANAN จะไม่สามารถทำได้ตามเป้าหากโครงการ แอชตัน อโศก ยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกระแสเงินสดโดยรวม นอกจากนี้ ผลประกอบการใน 1Q61 มีแนวโน้มทำระดับต่ำสุดของปีเนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่พร้อมโอนไม่มาก ได้แก่ Q ชิดลม มูลค่า 3 พันล้านบาท (ขายแล้ว 64%) และจะทำระดับสูงสุดของปีใน 4Q61 ตามแผนการโอนคอนโดมิเนียมใหม่อีก 4 โครงการมูลค่ารวมกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท     

คงคำแนะนำ "SWITCH/SELL" ราคาเหมาะสม 3.52 บาท
        แม้ตลาดตอบรับเชิงลบต่อความไม่แน่นอนในการโอนโครงการ แอชตัน อโศก ไปพอสมควรแล้วสะท้อนจากราคาหุ้น ANAN ที่อ่อนตัวถึง 33% YTD แต่เราประเมินว่าราคาหุ้น ANAN จะเกิดการ Overhang ไปจนกว่าประเด็นการโอนโครงการ แอชตัน อโศก จะคลี่คลายซึ่งอาจใช้เวลายาวนานกว่า 1 ปีและอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินตามมามากขึ้น เราจึงคงคำแนะนำ "เปลี่ยนหุ้นลงทุน/ขาย" ด้วยราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2561 ใหม่ที่ 3.52 บาทจาก 5.20 บาทอิงวิธี PER61 เท่ากับ 8.1x บน -0.5SD ของ PER เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีเพื่อสะท้อนความเสี่ยงในโครงการดังกล่าวที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเราแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนหุ้นลงทุนเป็น SPALI ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง
 ---จบ---