Today’s NEWS FEED

News Feed

ฟิทช์ ให้อันดับเครดิตภายในประเทศครั้งแรกแก่ บมจ. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 ที่ 'A-(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

230

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(10 เมษายน 2568)--------- ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ครั้งแรกแก่บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP ที่ 'A-(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ 'F2(tha)' โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
พร้อมกันนี้ฟิทช์ยังได้ให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีประกันสกุลเงินบาทของ SCAP ที่ออกเสนอขายไปแล้วที่ 'A-(tha)' โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมียอดคงค้างรวม 7.6 พันล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดตั้งแต่ พฤศจิกายน ปี 2568 - กุมภาพันธ์ ปี 2572

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตพิจารณาจากโครงสร้างอันดับเครดิตของกลุ่ม: อันดับเครดิตของ SCAP พิจารณาจากโครงสร้างอันดับเครดิตของกลุ่มบริษัทแม่ซึ่งคือ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD (‘A-(tha)’/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ)

ฟิทช์เชื่อว่าอันดับเครดิตของ SCAPไม่สามารถประเมินแยกจากกลุ่มเนื่องจากขนาดของธุรกิจที่ใหญ่และมีการบูรณาการ (integration) ด้านการดำเนินงานกับบริษัทอื่นๆในกลุ่มในระดับสูง ดังนั้นฟิทช์จึงให้อันดับเครดิตของ SCAP อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของกลุ่ม SAWAD เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีบริษัทย่อยหลัก 2 บริษัทคือ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด (S2014 มีขนาดสินทรัพย์และรายได้คิดเป็น 47% และ 45% ของกลุ่ม) และ SCAP (มีสินทรัพย์และรายได้คิดเป็น 33% และ 37% ของกลุ่ม) ทั้งนี้ กลุ่มกิจการมีตำแหน่งทางการตลาดและเครือข่ายธุรกิจในกลุ่มธุรกิจสินเชื่ออุปโภคบริโภคอยู่ในระดับที่ดี

ความเสี่ยงที่สูงกว่า, อัตราส่วนหนี้สินระดับปานกลาง: อันดับเครดิตของ SCAP สะท้อนถึงเครือข่ายการดำเนินงานในธุรกิจสินเชื่ออุปโภคบริโภคของกลุ่มที่มีมาอย่างยาวนาน ความสามารถในการทำกำไรที่เพียงพอ และอัตราส่วนหนี้สินที่อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งช่วยชดเชยความเสี่ยงของธุรกิจจากฐานลูกค้าที่มีรายได้ค่อนข้างต่ำซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่า สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต สามารถดูได้จากประกาศเรื่อง ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศครั้งแรกแก่ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น ที่ 'A-(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ที่จะออกเสนอขายที่ 'A-(tha)' ลงวันที่ 30 มกราคม 2568 (“Fitch Assigns Srisawad Corp. First-Time 'A-(tha)'/Stable Rating; Rates Upcoming THB Bonds 'A-(tha)') (https://www.fitchratings.com/site/pr/10298810)

การมีส่วนร่วมในระดับสูงต่อผลประกอบการของกลุ่ม: กลุ่ม SAWAD ให้บริการสินเชื่อแก่กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ค่อนข้างต่ำ โดย SCAP ให้บริการเช่าซื้อและสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งคิดเป็น 31% และ 3% ของสินเชื่อรวมของกลุ่ม ณ สิ้นปี 2567 ตามลำดับ ในขณะที่ S2014 มุ่งเน้นในการให้สินเชื่อจำนำทะเบียนเป็นหลัก ฟิทช์คาดว่า SCAP จะยังคงมีส่วนร่วมในระดับที่มีนัยสำคัญในการช่วยสนับสนุนเครือข่ายธุรกิจและผลการดำเนินงานของกลุ่มอย่างต่อเนื่องในระยะกลาง

มีการบูรณาการในระดับสูงและการควบคุมอย่างใกล้ชิด: SAWAD ถือหุ้น 72.05% ใน SCAP และมีการควบคุมการบริหารจัดการของบริษัทลูกอย่างมีนัยสำคัญผ่านการแต่งตั้งคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง นอกจากนี้กลยุทธ์และการบริหารความเสี่ยงของทั้ง 2 บริษัทยังมีความสอดคล้องกันอย่างใกล้ชิด

ความร่วมมือในด้านการดำเนินงานและการต่อยอดธุรกิจ: SCAP และ SAWAD มีการผสานการดำเนินงานระหว่างกันอย่างใกล้ชิด SCAP ได้รับประโยชน์จากการบริการและทรัพยากรที่ใช้ร่วมกันกับกลุ่มเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของกิจการ นอกจากนี้ยังมีการผสานการดำเนินงานและการต่อยอดทางการตลาดกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่เกี่ยวข้องกัน (Cross-selling) และการแนะนำลูกค้า

การจัดหาแหล่งเงินทุนของกลุ่มสะท้อนถึงความยืดหยุ่นในการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fungibility): เงินทุนของ SCAP มีการบริหารจัดการที่ระดับกลุ่มโดยบริษัทมีเงินกู้ยืมจาก SAWAD คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 66% ของเงินกู้ยืมรวมของบริษัทลูก ณ สิ้นปี 2567 ฟิทช์คาดว่าความเชื่อมโยงด้านเงินทุนที่ใกล้ชิดนี้จะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งสะท้อนถึงความยืดหยุ่นในการจัดการสินทรัพย์หนี้สินและเงินทุนระหว่าง SCAP และ SAWAD ที่อยู่ในระดับสูง

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตของ SCAP จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับโครงสร้างเครดิตของกลุ่ม การปรับตัวด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญของโครงสร้างเครดิตของกลุ่มอาจส่งผลทางลบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCAP เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากผลประกอบการของกลุ่มมีการปรับตัวด้อยลงอย่างมาก เช่น หากอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่า 5.0% (ปี 2567: 3.6%) โดยไม่มีการสำรองหนี้สูญที่เพียงพอ ประกอบกับอัตราส่วนกำไรก่อนหักภาษีต่อสินทรัพย์เฉลี่ยมีการปรับตัวลดลงต่ำกว่า 2.0% (ปี 2567: 5.9%) เป็นระยะต่อเนื่อง หรือมีสัญญาณบ่งชี้ว่าความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของกลุ่มมีการปรับตัวอ่อนแอลงหรือระดับหนี้สินของกลุ่มมีการปรับตัวสูงขึ้น เช่น อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของทุนที่จับต้องได้เพิ่มสูงขึ้นเกิน 4.0 เท่า (ปี 2567: 1.9 เท่า) อาจส่งผลกดดันต่ออันดับเครดิต โดยการปรับตัวด้อยลงดังกล่าวน่าจะส่งผลให้เกิดการดำเนินการเชิงลบต่ออันดับเครดิตของ SAWAD ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ การปรับตัวถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญในการมีส่วนร่วมของ SCAP ต่อผลประกอบการรวมของกลุ่ม และหากความเชื่อมโยงของ SCAP ต่อกลุ่มมีการปรับตัวด้อยลง อาจส่งผลให้ฟิทช์มีการประเมินแนวทางการจัดอันดับเครดิตใหม่ และอาจส่งผลเชิงลบต่ออันดับเครดิตได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจบ่งชี้ได้จาก การปรับตัวลดลงของส่วนร่วมของ SCAP ต่อผลประกอบการกลุ่ม (contribution) ทั้งในด้านสินทรัพย์ ส่วนของผู้ถือหุ้น หรือรายได้ ที่ลดลงต่ำกว่า 25% หรือ ระดับการบูรณาการและการควบคุมจากบริษัทแม่ที่ด้อยลง เช่น หาก SAWAD ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงต่ำกว่า 70% การลดระดับการควบคุมการบริหารจัดการหรือการบูรณาการในการดำเนินงานต่างๆ การลดระดับการผสานและการต่อยอดทางธุรกิจ การเชื่อมโยงในด้านชื่อและตราสัญลักษณ์หรือการตลาดที่อ่อนแอลง หรือการลดระดับการสนับสนุนจาก SAWAD ในด้านการจัดหาเงินทุนและสภาพคล่อง อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในปัจจัยดังที่กล่าวมาในระยะสั้น
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ SCAP อาจถูกปรับลดอันดับลงเป็น 'F3(tha)' หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวถูกปรับลดอันดับลงเป็น 'BBB(tha)'

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
โครงสร้างเครดิตของกลุ่มที่ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นอาจส่งผลเชิงบวกต่ออันดับเครดิตของ SCAP โดยอาจบ่งชี้ได้จาก การปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของคุณภาพสินทรัพย์และโครงสร้างการจัดหาเงินทุน (funding profile) ของกลุ่ม ซึ่งบ่งชี้ได้จากอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ปรับตัวดีขึ้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.5% อย่างต่อเนื่อง และมีอัตราส่วนการสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับสูงกว่า 100% และสามารถดำรงสภาพคล่องของบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้นได้ตลอดช่วงวัฏจักรของธุรกิจ ในขณะที่กลุ่มยังคงสามารถรักษาโครงสร้างความเสี่ยงให้มีความสม่ำเสมอสอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อ
จากปัจจัยที่ได้กล่าวมานี้ ฟิทช์เห็นว่าโอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตนั้นยังจำกัดในระยะสั้น นอกจากนี้การประเมินอันดับเครดิตก็จะพิจารณาเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับในประเทศจากฟิทช์ด้วยเช่นกัน

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ SCAP อาจถูกปรับเพิ่มขึ้นเป็น 'F1(tha)' หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCAP ได้รับการปรับเพิ่มอันดับ

อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน: อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของ SCAP อยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท แสดงถึงภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท และอยู่ในระดับเดียวกันกับตราสารหนี้อื่นที่มีภาระผูกพันในลักษณะเดียวกัน โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีการกำหนดเงื่อนไขสัญญา (Covenant) ที่บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ณ สิ้นปีไม่เกิน 6.0 เท่า

หุ้นกู้ที่ออกเสนอขายไปแล้วที่ได้รับการจัดอันดับ มีดังนี้

Thai BMA Symbol ISIN วันครบกำหนด
• SCAP25NA TH0076035B09 16 พฤศจิกายน 2568
• SCAP262A TH0076036209 23 กุมภาพันธ์ 2569
• SCAP266A TH0076036605 13 มิถุนายน 2569
• SCAP268A TH0076036803 8 สิงหาคม 2569
• SCAP26NA TH0076036B08 16 พฤศจิกายน 2569
• SCAP272A TH0076037207 23 กุมภาพันธ์ 2570
• SCAP272B TH0076A37202 23 กุมภาพันธ์ 2570
• SCAP276A TH0076037603 13 มิถุนายน 2570
• SCAP282A TH0076038205 23 กุมภาพันธ์ 2571
• SCAP282B TH0076A38200 23 กุมภาพันธ์ 2571
• SCAP286A TH0076038601 13 มิถุนายน 2571
• SCAP292A TH0076039203 5 กุมภาพันธ์ 2572

อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท

วันที่มีการประชุมพิจารณาอันดับเครดิต
4 เมษายน 2568

แหล่งที่มาของข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการวิเคราะห์เป็นไปตามรายละเอียดที่อธิบายไว้ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดของ SCAP มีดังนี้:
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ให้อันดับเดรดิตที่ ‘A-(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ให้อันดับเดรดิตที่ ‘F2(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันให้อันดับเครดิตที่ 'A-(tha)'

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้