Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส : Daily Trading Focus

155

 

 




ภาวะตลาด : วานนี้มีการซื้อกลับของโปรแกรมเทรด โดย SET Index ในวันลงไปต่ำสุดที่ 1062.54 (-12.05 จุด) ซึ่งเป็นแนวรับหนึ่งของเรา และขึ้นไปสูงสุด 1094.38 (+19.79 จุด) จากการเลือกซื้อกลับหุ้นใหญ่บางบริษัท แต่ด้วยความไม่แน่นอนและยังไม่แน่ชัดว่าสงครามการค้าจะร้อนระอุมากแค่ไหน จึงมีแรงขายในจังหวะเด้งบ้าง ปิดตลาดดัชนีลดช่วงบวกมาที่ 1088.18 หรือ +13.59 จุด (+1.26%) ต่างชาติซื้อสุทธิ +431 ลบ. สถาบันในประเทศขายสุทธิ -356 ลบ.


ปัจจัยต่างประเทศ
+/- ทรัมป์ ประกาศระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ 90 วัน ยกเว้นจีนที่เก็บภาษีตอบโต้เพิ่มเป็ น 125% มีผลทันที หลังจีนเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเพิ่มอีก 50% เป็น 84% มีผล 10 เม.ย. และทรัมป์ ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ายาขนาดใหญ่ในเร็วๆนี้ ซึ่งปท.ที่ผลิตและส่งออกยาสูง คือ สหภาพ ยุโรป (เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ ฯลฯ), อินเดีย และจีน (สหรัฐนา เข้าวัตถุดิบในการผลิตยาจากจีนมาก)
- สก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐ ระบุว่าขณะนี้กำลังพิจารณาเอาหุ้นบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งทรัมป์ จะเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้
+ ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์กว่า 4% เป็น 62-65 US$/bbl แม้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ก่อนเพิ่ม 2.6 ล้านบาร์เรลมากกว่าคาด แต่ตลาดตอบรับที่ทรัมป์ ขยายเวลาใช้ภาษีตอบโต้ไป 90 วัน....หุ้น PTTEP มีสิทธิรีบาวด์ในช่วงสั้น สำหรับราคาถ่านหิน (NC) ถอยมาที่ 96.5 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ลดต่อมายัง 1128 (สูงสุดรอบนี้อยู่ที่ 1669) เป็น Sentiment ลบกับ PSL, TTA
+ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นแรง 8-12% เมื่อคืนนี้ คลายกังวลในระยะสั้นด้านดัชนี VIX ถอยลงมาที่ 35.75% หลังขึ้นไปสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 60.13 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงเป็น 4.25% หลังพุ่งไปสูงสุด 4.51% ในวันก่อนหน้า ค่าเงินบาท/US$ แข็งขึ้นเป็น 34.19 จากอ่อนสุดวานนี้ที่ 34.97
• สหรัฐ : ติดตามรายงานผลประชุมเฟด, ดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภค & ผู้ผลิตเดือนมี.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเม.ย.


ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
•/+ จับตาการลดดอกเบี้ยของไทย ซึ่งมีโอกาสที่จะปรับลดเร็วกว่าที่คาด โดยเราคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะลดอีกอย่างน้อย 0.50% ในช่วงที่เหลือของปีนี้


กลุยทธ์ :
มีสิทธิรีบาวด์ต่อ หลังสงครามการค้าผ่อนคลายลงในช่วงสั้น - การที่ทรัมป์ขยายเวลาใช้มาตรการภาษีตอบโต้ออกไป 90 วันกับประเทศต่างๆ ยกเว้นจีน ทำให้ Sentiment โดยรวมดีขึ้นในระยะสั้นแต่การที่สหรัฐแลกหมัดรุนแรงกับจีน ทำให้บาดเจ็บกันทั้งคู่ ก็ยังเป็นลบกับศก.สหรัฐและจีน รวมถึงกระทบศก.โลกเพราะสองปท.มีศก.ขนาดใหญ่อันดับ 1-2 ของโลก เราควรระวังหุ้นที่เกี่ยวกับศก.จีน (China play) ให้มากขึ้น กลยุทธ์ : เล่นสั้น แนะเข้าไว-ออกไว และยังเน้นถือครองหุ้น Defensive & Domestic Play เช่น ADVANC, CPALL, CK, STECON, PR9, BDMS, KTB, TTB, MTC, HMPRO, BEM เป็นต้น ส่วนซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวแนะนำ ทยอยสะสมจังหวะราคาอ่อนตัว สำหรับหุ้นกลุ่มนิคมฯ (AMATA, WHA, ROJNA ฯลฯ) มีโอกาสเด้งสั้นหลังร่วงแรง แต่ยังเสี่ยงว่าจีนอาจย้ายฐานการผลิตมาไทยน้อยลง ก็แนะนา เป็นการเล่นรอบสั้น


หุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุน :
CPALL (ราคาปิด 50.25 บาท) – ธุรกิจ defensive อิงกับการอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวัน และราคาต่อหน่วยไม่สูง บริษัทได้อานิสงค์จากฤดูร้อนที่จะมียอดขายเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น รวมถึงได้ประโยชน์จากการเดินทางมากในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ การขยายสาขาเป็นไปตามแผน คาดกำไรปกติปี 68 เติบโตเลขสองหลักที่ 10-14% แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 69 บาท


นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829


 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้