ปิดโซนแดง วกกลับมาเปิดโซนเขียว
TOP PICK WHA / IVL / CPALL

EXTERNAL FACTOR
ปธน. TRUMP ประกาศระงับขึ้นภาษี 90 วัน ให้ 75 ประเทศที่ไม่ตอบโต้ และลดอัตราภาษีลงอย่างมีนัยสำคัญ เหลือเพียงภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% แต่ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีน สู่ระดับ 125% จากเดิมที่ระดับ 104% โดยมีผลบังคับใช้ในทันที

หนุนให้วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวแรงราว 7.9% -12.2% และเช้านี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น +8.2%, ไต้หวัน +9.4%, เกาหลีใต้ +5% ซึ่งน่าจะเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อ SET INDEX ด้วยเช่นกัน

INTERNAL FACTOR
หากพิจารณาประเทศที่เกินดุลโลก มากกว่าพึ่งพาสหรัฐฯ เป็นหลัก น่าจะยังพอมีหน้าตักต่อรองสหรัฐได้ อาทิ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สวิตเซอร์แลนด์, เกาหลีใต้, เวียดนาม, ไทย, จีน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นโยบายภาษีของสหรัฐฯ มักมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งในช่วง 2Q68 เศรษฐกิจไทย ยังมีแนวโน้มถูกกดดัน จากการเก็บภาษีนำเข้าพื้นฐานของสหรัฐฯ 10%

ฝ่ายวิจัยฯ คาดการณ์ผลจากการส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงทุกๆ -1% จะกระทบต่อ GDP ราว -0.11%

INVESTMENT STRATEGY
ประเด็นสงครามการค้า กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนหายไปตลอด 5 เดือน กดดัน SET INDEX ย่อตัวลงมาเกิน -25% จนมี MARKET CAP ต่ำกว่า GDP ที่สำคัญ คือ มี P/BV เหลือเพียง 1 เท่า ต้นๆ เท่านั้น

ปัจจุบัน RECIPROCALTAX ถูกเลื่อนออกไป 90 วัน หนุนให้หุ้นโลกขึ้นแรง และหุ้นไทยมีโอกาสขึ้นแรงตาม

กลยุทธ์แนะนำเก็งกำไร 9 หุ้น GLOBALIZATOIN ย่อตัวลงลึก หวังดีดกลับแรง อย่าง WHA, AMATA, KCE, DELTA, SCGP, TOP, PTTGC, AOT, SCC

TRUMP ผ่อนคลายมาตรการภาษี หนุนตลาดหุ้นดีดแรง
ปธน. TRUMP ประกาศระงับขึ้นภาษี 90 วัน ให้ 75 ประเทศที่ไม่ตอบโต้ และลดอัตราภาษีลงอย่างมีนัยสำคัญ เหลือเพียงภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% แต่ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีน สู่ระดับ 125% จากเดิมที่ระดับ 104% โดยมีผลบังคับใช้ในทันที

หนุนให้วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวแรงราว 7.9% - 12.2% และเช้านี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น +8.2%, ไต้หวัน +9.4%, เกาหลีใต้ +5% ซึ่งน่าจะเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อ SET INDEX ด้วยเช่นกัน

หากพิจารณาประเทศที่เกินดุลโลก มากกว่าพึ่งพาสหรัฐฯ เป็นหลัก น่าจะยังพอมีหน้าตักต่อรองสหรัฐได้ อาทิ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สวิตเซอร์แลนด์, เกาหลีใต้, เวียดนาม, ไทย, จีน เป็นต้น โดยเบื้องต้นพิจารณาจาก “มูลค่าดุลการค้าทั่วโลก” เทียบกับ “มูลค่าการส่งออกที่อาจหายไปจากการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ” แล้ว มากกว่า 1 ส่วนในกรณีน้อยกว่า 1 อาจบ่งชี้ถึงกลุ่มประเทศที่พึ่งพิงการค้ากับสหรัฐฯ มากกว่าประเทศอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม นโยบายภาษีของสหรัฐฯ มักมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง ในช่วง 2Q68 เศรษฐกิจไทย ยังมีแนวโน้มถูกกดดันจากการเก็บภาษีนำเข้าพื้นฐานของสหรัฐฯ 10% ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯ คาดการณ์ผลจากการส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงทุกๆ -1% จะกระทบต่อ GDP รำว -0.11%

SET ปิดโซนแดง วกกลับมาเปิดโซนเขียว แนะเก็งกำไร หุ้น GLOBALIZATION ลงลึก
ประเด็นสงครามการค้า กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนหายไปตลอด 5 เดือน กดดัน SET INDEX ย่อตัวลงมาเกิน - 25% จนมี MARKET CAP ต่ำกว่า GDP ที่สำคัญ คือ มี P/BV เหลือเพียง 1 เท่า ต้นๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบัน RECIPROCAL TAX ถูกเลื่อนออกไป 90วัน หนุนให้หุ้นโลกขึ้นแรง และหุ้นไทยมีโอกาสขึ้นแรงตาม

ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ ทำการคัดกรอง หาหุ้น “น่าเก็งกำไร หวังดีดกลับเร็ว” ผ่านเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้

1. เป็นหุ้น GLOBALIZATION ขนาดใหญ่
2. ลงแรงเกิน -35% ในช่วง 5 เดือน
3. หวังรีบาวน์แรง มี BETA > 1 เท่า
4. หวังมีแรง COVER SHORT เสริม โดยมีมูลค่า SHORT คงค้างเกิน 0.3% หรือ 50 ล้านบาท
5. สถาบันฯ มีโอกาสสะสมเพิ่ม เพราะมี ESG RATING สูงกว่า A

ได้ผลลัพธ์ 9 หุ้น GLOBALIZATOIN ย่อตัวลงลึก หวังดีดกลับแรง อย่าง WHA, AMATA, KCE, DELTA, SCGP, TOP, PTTGC, AOT, SCC

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์