SET ผันผวน แต่ก็ใกล้ถึงโซนบรรจุกระสุนเพิ่ม
TOP PICK ADVANC / BEM
EXTERNAL FACTOR
วานนี้สินทรัพย์ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงผันผวนต่องเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งในผั่งสหรัฐฯ โดยช่วงเปิดตลาดดัชนี DOW JONES ดีดตัวขึ้นไปมากกว่า 1,000 จุด ก่อนที่จะร่วงลงมาปิดที่ -0.84%
ขณะที่ปัจจัยกดดันหลักๆ ยังคงเป็นความกังวล TRADE WAR จะรุนแรงขึ้น หลังประเทศที่ ได้ดุลกับสหรัฐฯ และสหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากประเทศเหล่านี้สูง อย่างจีน และยุโรป “ไม่ยอมถอย” ประกาศตอบโต้กลับสหรัฐฯ เพิ่มเติม
สหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่ม 50% (รวมเป็น 104%) มีผล 9 เม.ย. 68
INTERNAL FACTOR
ประชุมครม. วานนี้ (8 เม.ย. 68) มีมติเห็นชอบต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนฯ จากเดิม 2% เหลือ 0.01% และค่าจดจำนองจากเดิม 1% เหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายและประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2569
ในมุมมองของฝ่ายวิจัย คาดผลักดันผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นจาก 2Q68 ที่มองเป็นจุดต่ำสุดของปี
สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์มองว่า AP และ SPALI เข้าเกณฑ์มากสุด
INVESTMENT STRATEGY
SET INDEX 5 เดือน ย่อตัวลงมาเกิน -25% จนมี MARKET CAP เหลือเพียง 13.2 ล้านล้านบาท ต่ำกว่า GDP ไทยพอสมควร ที่สำคัญ คือ มี P/BV เหลือเพียง 1 เท่า เท่านั้น
ในอดีตเวลา SET INDEX ปรับตัวลงมาเกิน -25% ยังมีโอกาสผันผวนได้อีก 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน แต่ระยะยาวฟื้นได้ดีมาก เช่นเดียวกับเวลาที่มี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า
ประเมินแนวรับสำคัญทางพื้นฐานของ SET INDEX ที่ต้องทยอยสะสมหุ้นเพิ่ม คือ 1060 จุด และ 1026 จุด ส่วนหุ้นวันนี้ยังเลือก หุ้น DOMESTIC ผันผวนต่ำ ADVANC, BEM, CPALL
การต่อรองภาษีไม่นิ่ง กดดันสินทรัพย์เสี่ยงผันผวนต่อ
วานนี้สินทรัพย์ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงผันผวนต่องเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งในผั่งสหรัฐฯ โดยช่วงเปิดตลาดดัชนี DOW JONES ดีดตัวขึ้นไปมากกว่า 1,000 จุด ก่อนที่จะร่วงลงมาปิดที่ -0.84% ขณะที่ปัจจัยกดดันหลักๆ ยังคงเป็นความกังวล TRADE WAR จะรุนแรงขึ้น หลังประเทศที่ได้ดุลกับสหรัฐฯ และสหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากประเทศเหล่านี้สูง อย่างจีนและยุโรป “ไม่ยอมถอย” ประกาศตอบโต้กลับสหรัฐฯ เพิ่มเติ่ม
จีนเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เพิ่มติม 34% เริ่ม 10 เม.ย. 68 พร้อมกับกีดกันสหรัฐฯ ผ่าน NON-TARIFF จนดีล TIKTOK ล่ม ถูกเลื่อนออกไป 25%
EU เก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เพิ่มติม 25% เริ่ม 16 พ.ค. 68
ขณะที่ท่าทีล่าสุดของสหรัฐฯ เตรียมตอบโต้ “จีน” กลับอีกครั้ง เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติม 50% (รวมเป็น 104%) มีผลบังคับใช้ 9 เม.ย. 68 หลังจากให้เวลาจีนไปแล้ว 1 วัน (DEADLINE 8 เม.ย. 68 เวลำ 12.00 น. ตามเวลาไทย) แต่กลับไม่มีการเจรจา และยกเลิกภาษีตอบโต้เก็บ 34%
สำหรับการเก็บภาษีตอบโต้ในประเทศต่างๆ เทียบกับมูลค่านำเข้าของสหรัฐฯ กรณีสหรัฐฯ เก็บภาษีจีน 104% จะทำให้สหรัฐฯ ได้ดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นราว4.6 แสนล้านเหรีญฯ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 51% ของทั้งหมดที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีตอบโต้ (185 ประเทศ) ส่วนไทยคิดเป็นสัดส่วนราว 3%
ทั้งนี้การตอบโต้ทางการค้า ล้วนเป็นต่อสู้กันระหว่างประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีโอกาสกดดันปริมาณการค้าโลก และเสี่ยงกระทบต่อการพิ่ม DOWNSIDE ภาพรวมเศรษฐกิจได้ในที่สุด ขณะที่สำนักเศรษฐกิจต่างๆ อาจปรับลดคาดการณ์ WORLD GDP GROWTH ปีนี้ ได้เช่นกัน (ปัจจุบันคาดการณ์เฉลี่ย 3.1%)
SET ผันผวน แต่ก็ใกล้ถึงโซนบรรจุกระสุนเพิ่ม
SET INDEX 5 เดือน ย่อตัวลงมาเกิน -25% จนมี MARKET CAP เหลือเพียง 13.2 ล้านล้านบาท ต่ำกว่า GDP ไทย 67 ที่ 18.6 ล้านล้านบาท พอสมควร ที่สำคัญ คือ มี P/BV เหลือเพียง 1 เท่า เท่านั้น
ในอดีตเวลา SET INDEX ปรับตัวลงมาเกิน -25% ยังมีโอกาสผันผวนได้อีก 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน แต่ระยะยาวฟื้นได้ดีมาก
เช่นเดียวกับเวลาที่ SET มี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า มักเกิดขึ้นน้อยเพียงแค่ 1% กว่าๆ ตลอด 25 ปี และมักจะทยอยปรับตัวขึ้นได้ดีในระยะกลางยาวเช่นเดียวกัน
ภายใต้ความผันผวนกับ TRADE WAR 2 ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการประเมินแนวรับสำคัญ ทางพื้นฐานของ SET INDEX ที่ต้องทยอยสะสมหุ้นเพิ่ม คือ 1060 จุด (อิง EPS 80 บาท/หุ้น, EYG 5.8% (สูงสุด ตอนโควิด), ดอกเบี้ยนโยบาย 2%) และ 1026 จุด (อิง EPS 80 บาท/หุ้น, EYG 5.8%(สูงสุดตอนโควิด), ดอกเบี้ยนโยบาย 1.75%) ส่วนหุ้นวันนี้ยังเลือก หุ้น DOMESTIC ผันผวนต่ำ ADVANC, BEM, CPALL
ต่ออายุลดค่าโอนฯ-จดจำนอง บ้านไม่เกิน 7 ล้านบาท ถึง 30 มิ.ย. 2569
ที่ประชุมครม. วานนี้(8 เม.ย. 2568) มีมติเห็นชอบต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนฯ จากเดิม 2% เหลือ 0.01% และค่าจดจำนองจากเดิม 1% เหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายและประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2569
เป็นไปตามมุมมองที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าจะมีการต่ออายุมาตรการดังกล่าว โดยอายุมาตรการในครั้งนี้ขยายเพิ่ม จากปกติให้ถึงสิ้นงวดปี ไปจนถึง 30 มิ.ย. 2569 ที่เป็นช่วงเวลาเดียวกับมาตรการผ่อนคลาย LTV ของแบงค์ชาติ (เริ่ม 1 พ.ค. 2568 – 30 มิ.ย. 2569) ย่อมเป็นสัญญาณที่ดีต่อกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย ในการช่วยประคองตลาดหลัง เผชิญกับวิกฤติรอบใหม่จากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนฯ-จดจำนอง จะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มคนซื้อ เนื่องจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ประมาณ 19,850 บาท สำหรับบ้านมูลค่า 1 ล้านบาท (ปกติค่าธรรมเนียมโอนฯ อยู่ในอัตรา 2% หรือ 2 หมื่นบาท โดย แบ่งคนละครึ่ง หรือ 1 หมื่นบาท สำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อมีการปรับลดเหลือ 0.01% หรือฝั่งละ 0.05% ทำให้ผู้ซื้อประหยัดไป 9,950 บาท ส่วนค่าจดจำนองปกติเป็นภาระของผู้ซื้ออย่างเดียว หากลดเหลือ 0.01% จากเดิม 1% ของวงเงินกู้ ดังนั้นหากกู้เต็ม 100% ทำให้เกิดการประหยัดไปอีก 9,900 บำท) และประหยัดเพิ่มเป็น 138,950 บาท สำหรับบ้านราคา 7 ล้านบาท (กรณีกู้เต็ม 100%) ขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดใน SET จะได้อานิสงค์เช่นกัน เนื่องจากพอร์ตสินค้าส่วนใหญ่มีราคาครอบคลุมระดับดังกล่าวอยู่แล้ว สร้างโอกาสให้การส่งมอบของ BACKLOG ที่เข้าข่ายเกณฑ์ราคาตามมาตรการสามารถโอนฯ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงกระตุ้นการระบายสต๊อกคงค้างทั้ง แนวราบ/คอนโดฯ
แม้มาตรการลดค่าโอนฯ-จดจำนองข้างต้น และการผ่อนปรน LTV จะเริ่มใช้ตั้งแต่ พ.ค. 2568 แต่ฝ่ายวิจัยคาดผลบวก จากมาตรการดังกล่าวน่าจะสนับสนุนต่อการดำเนินงานกลุ่มฯ ตั้งแต่ 2H68 เป็นต้นไป หลังความกังวลต่อเหตุ แผ่นดินไหวผ่อนคลายลง และความเชื่อมั่นของผู้ซื้อเริ่มกลับมา ประกอบกับการเปิดโครงการใหม่ โดยเฉพาะแนวราบ และการส่งมอบคอนโดฯ ใหม่ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลัง ตลอดจนโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยของแบงค์ชาติ ช่วงครึ่งหลังของปีในมุมมองของฝ่ายวิจัย คาดผลักดันผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นจาก 2Q68 ที่มองเป็นจุดต่ำสุดของปี สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นทั้งลดค่าโอนฯ-จดจำนอง ควบคู่กับผ่อนคลาย LTV บวกกับมีพอร์ต สินค้าหลากหลาย เน้นแนวราบ, BACKLOG และสินค้าพร้อมขายระดับสูง ส่วนใหญ่อยู่กลุ่มราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท , ฐานะการเงินแข็งแรง และปันผลสูงกว่า 6% มองว่า AP และ SPALI เข้าเกณฑ์มากสุด
Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์