ภาวะตลาด : SET Index วานนี้ร่วงแรง ระดับสูงสุด-ต่ำสุดในวันอยู่ที่ 1083.75 (-41.46 จุด) และ 1056.41 (-68.80 จุด) ดัชนีปิดตลาดที่ 1074.59 (-50.62 จุด หรือ -4.5%) มูลค่าซื้อขาย 6.7 หมื่นลบ. ความวิตกสงครามการค้ายังเป็นปัจจัยกดดันหลัก นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -2.45 พันลบ. สถาบันในปท.ขายสุทธิ -4.78 พันลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
- สงครามการค้า : ทรัมป์ ยืนยันเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ที่จะมีผล 9 เม.ย. ทั้งนี้สำนักข่าววอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า อีลอน มัสก์ ก็ได้พยายามยื่นคำร้องโดยตรงถึงปธน.ทรัมป์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกมาตรการภาษีนำเข้าฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จและมัสก์ได้แสดงจุดยืนว่าควรยกเลิกภาษีระหว่างสหรัฐกับยุโรปทั้งหมด ซึ่งเป็นท่าทีที่ขัดแย้งกับนโยบายของทรัมป์ ทางด้านจีน จะถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงถึง 104% มีผลวันที่ 9 เม.ย. โดยมาจากการที่จีนถูกสหรัฐเก็บภาษีเพิ่ม 2 รอบ คือ 20%+34% รวมเป็น 54% จีนจึงตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีจากสหรัฐ 34% ด้านทรัมป์ ก็โต้จีนด้วยการเรียกเก็บภาษีจากจีนอีก 50% รวมเป็นภาษีนำเข้าจากจีนจะเป็น 104%
- ราคาน้ำมันดิบมีความเสี่ยงขาลงมาก ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย นักวิเคราะห์โกลด์แมน แซคส์คาดถ้าศก.สหรัฐถดถอยแบบทั่วไป ราคาน้ำมันดิบ BRENT จะลงไปที่ 58 US$ ในสิ้นปี 68 และ 50 US$ ในสิ้นปี 69 แต่ถ้าถดถอยรุนแรงอาจลงไปต่ำกว่า 40 US$ จากปัจจุบันอยู่ที่ 64 US$/bbl
- ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน โดยช่วงแรกดีดขึ้นเพราะมีความหวังทรัมป์ จะเจรจาการค้า แต่ก็ร่วงและปิดลดลง เมื่อโฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่าทรัมป์ จะเดินหน้าบังคับใช้มาตรการภาษีตามกำหนด ดัชนี VIX พุ่งเป็น 52.33 สูงสุดในรอบ 5 ปี ดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนเป็น 102.7 ส่วนเงินบาท/US$ อ่อนค่าเป็น 34.9
- ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 98 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ดิ่งมาที่ 1192 (สูงสุดรอบนี้อยู่ที่ 1669)
• สหรัฐ : จับตารายงานผลประชุมเฟด, ดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภค & ผู้ผลิตเดือนมี.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเม.ย.
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• 3 มาตรการหลักที่ไทยเตรียมไปเจรจากับทรัมป์ คือ ลดภาษีนำเข้าบางรายการ-เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่เคยนำเข้ามาก่อน-ลดเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเข้า...ต้องติดตามว่าจะเป็นสินค้าประเภทใดบ้าง ซึ่งมีการกล่าวถึงการนำเข้าข้าวโพด ถั่วเหลืองจากสหรัฐเพิ่มขึ้น เพราะไทยผลิตใช้ในประเทศไม่พอ, ซื้อก๊าซจากโครงการใหม่ของสหรัฐในอลาสก้า & นำเข้าก๊าซอีเทนที่ไทยต้องใช้ เป็นต้น
• ครม.อนุมัติลดค่าโอนและจดจำนองที่พักอาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทเหลือ 0.01% จากปกติ 2% และ 1% มีผลถึง 30 มิ.ย.69...แม้ว่าเป็นข่าวบวกกับกลุ่มที่พักอาศัย แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ก็อาจกระตุ้นยอดขายและยอดโอนไม่ได้มากนัก เราจึงคงน้ำหนักลงทุน Underweight กลุ่มที่พักอาศัย
- ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนมี.ค.68 อยู่ในเกณฑ์ซบเซาที่ระดับ 60.93
กลุยทธ์ :
ทรัมป์ เดินหน้าเก็บภาษีรอบ 9 เม.ย.-จีนถูกเรียกเก็บ 104%; ตลาดหุ้นยังผันผวน - กลยุทธ์หลักในช่วงที่ตลาดอยู่บนความไม่แน่นอน ยังคงเป็นการปรับพอร์ตมาถือครองหุ้น Defensive & Domestic Play ได้แก่ ADVANC, CPALL, CK, STECON, PR9, BDMS, KTB, TTB, MTC, HMPRO, BEM เป็นต้น และWait & See รอดูข้อมูลใหม่ สำหรับ SET ได้ร่วงลงมา -23.3%YTD แล้ว ซึ่งอาจมีรีบาวด์สลับเป็นระยะ แต่ควรระวังการเด้งน้อยแล้วลงต่อ เล่นสั้นต้องเข้าไว-ออกไว
หุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุน :
PR9 – คาดกำไรสุทธิ 1Q68F เติบโตแกร่ง +24%YoY เป็น 196 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้เพิ่มขึ้น +14% YoY และ EBITDA margin ทรงอยู่ในระดับสูงที่ 25% ทั้งนี้รายได้คนไข้ต่างชาติเติบโตสูง โดยเฉพาะคนไข้ตะวันออกกลาง คือ การ์ตา และ UAE และคนไข้จีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังเซ็นสัญญากับบริษัทประกันใหญ่ของจีน สำหรับทั้งปี 68 คาดกำไรสุทธิขยายตัว +14% YoY สูงกว่าเฉลี่ยของกลุ่มร.พ.พรีเมียม แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 30 บาท (DCF)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829