วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงแรง ต่ำสุดราว 68 จุด จากความกังวลสงครามการค้าจะทวีความรุนแรงขึ้นหลัง “ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ขู่เก็บภาษีจากจีนเพิ่มอีก 50% หากจีนไม่ยกเลิกมาตรการเก็บภาษีจากสหรัฐ 34% ที่ประกาศไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีแรงขายหลักมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรง ตามด้วยหุ้นกลุ่มธนาคาร และค้าปลีก ขณะที่มีแรงซื้อ นำโดยหุ้น DELTA ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,074.59 จุด -50.62 จุด -4.50% มูลค่าการซื้อขาย 66,714.48 ลบ. Program Trading -254.59 ลบ. ต่างชาติ -2,475.94 ลบ. TFEX +33,322 สัญญา ตราสารหนี้ +4,099.99 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า วันที่ 1 มกราคม ถึง 6 เมษายน 2568 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าเที่ยวไทย 10,072,244 คน สร้างรายได้ประมาณ 486,587 ล้านบาท โดยจ่านวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้
+ ที่ประชุมครม.มีมติให้ 1.ลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ (จากปกติ 2%) เหลือ 0.01% และ 2.ค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวในคราวเดียวกัน (จากปกติ 1%) เหลือ 0.01% สำหรับบ้านคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 320.01 จุด หรือ -0.84 ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ส่วนดัชนี S&P500 ปิดต่ำกว่า 5,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี จากความกังวลว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะเดินหน้าบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรกับประเทศต่าง ๆ ตามกำหนด
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ -1.85% ปิดที่ 59.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 4 ปีเพราะกังวลว่าสงครามการค้าที่รุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยและทำให้ความต้องการใช้พลังงานอ่อนแอลง
- สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากร 104% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันพุธที่ 9 เม.ย. จากการที่จีนตอบโต้สหรัฐ
- สัญญาดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจต้องเร่งลดดอกเบี้ยแม้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นและตัวเลขจ้างงานดีเกินคาด
- สหรัฐโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มฮูตีในเมืองโฮไดดาห์ ซึ่งเป็นเมืองท่าของเยเมน
- ก.พาณิชย์เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค. ยืนสูงระดับ 50 เล็กน้อย ปัจจัยหนุนหลักจาก 'แจกเงิน-ลดหนี้-ส่งออกขยายตัว' แต่มีปัจจัยเสี่ยงจากนโยบายทรัมป์ ภาระหนี้-ค่าครองชีพแพง กดดัชนีต่ำในอนาคต
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าว่ายังคงอยู่ในเกณฑ์ซบเซา กังวลสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ และสงครามการค้า
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงต่อตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย หลัง ทรัมป์ เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าจากไทยในอัตรา 36% ในสินค้านำเข้าทุกรายการซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 รองจากจีนและเวียดนามในวันนี้เป็นต้นไป ซึ่งไทยส่งออกสินค้าไปสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 9% ของยอดส่งออกรวมของไทยปี 2567 ที่ 3 แสนล้านดอลลาร์ มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,055-1,085 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
-หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO
- กรณี ธปท.ผ่อนปรนมาตรการ LTV แนะนำ top pick หุ้นที่อยู่อาศัย ได้แก่ AP LH SIRI SC SPALI QH
- ครม.เห็นชอบ. ร่าง พรบ. Entertainment Complex : VGI BTS PLANB
- หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : ANAN ORI NOBLE ITD TIPH TVH
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : HMPRO GLOBAL DOHOME SCGD TEAMG