Today’s NEWS FEED

News Feed

ก.ล.ต. เดินหน้ามาตรการสกัดบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลเข้มข้น – ยกระดับปิดกั้นใช้แพลตฟอร์มต่างชาติเป็นช่องทางฟอกเงิน ลดความเสียหายประชาชน

185

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(8 เมษายน 2568)---ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) และพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 (พ.ร.ก. อาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ) เพื่อยกระดับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและบัญชีม้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างความปลอดภัยในการทำธุรกรรมด้านการเงินของประชาชนและเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ โดยกฎหมายทั้ง 2 ฉบับจะมีผลใช้บังคับเมื่อเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาในลำดับต่อไป

 

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ยกระดับการสกัดกั้นบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2567 และเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 ได้ร่วมกันจัดทำมาตรการและออกมาตรฐานการป้องกันและจัดการบัญชีม้าของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Industry Standard ที่เทียงเคียงได้กับการจัดการบัญชีม้าของภาคการธนาคาร

 

การปรับปรุง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ และ พ.ร.ก. อาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ในครั้งนี้ จะทำให้การดำเนินมาตรการสกัดกั้นบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเพิ่มความชัดเจนของกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งยกระดับมาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในต่างประเทศเป็นช่องทางฟอกเงิน โดยสามารถดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศที่มีพฤติกรรมการชักชวนหรือโฆษณาการให้บริการ (solicit) กับผู้ลงทุนในประเทศไทย ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนเพิ่มความเข้มข้นและขยายความร่วมมือในการจัดการปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีระหว่างภาคธนาคาร ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ประกอบด้วย

 

          (1) มาตรการจัดการบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัล

                     - กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล การคัดกรอง และระงับธุรกรรมหรือบัญชีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกับธนาคารพาณิชย์ รวมถึงอยู่ภายใต้กลไกการคืนเงินแก่ผู้เสียหายซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายได้รับเงินคืนรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดรายชื่อบุคคลหรือเลขที่กระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล (wallet) ที่เกี่ยวข้องอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (blacklist) และห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทำธุรกรรมกับบุคคลที่มีรายชื่อหรือกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว

                     - กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และโทรคมนาคม ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มีความรับผิดชอบร่วมในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหากมิได้ปฏิบัติตามมาตรฐานหรือมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนด

                     - กำหนดความผิดสำหรับเจ้าของบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้รับจ้างเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และเปิดบัญชีกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลก็จะได้รับโทษในระดับเดียวกัน

 

          (2) มาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในต่างประเทศเป็นช่องทางฟอกเงิน

                     - กำหนดมาตรการยับยั้งและป้องกันไม่ให้แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ Peer-to-peer (P2P) ในต่างประเทศ ซึ่งเข้าข่ายเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น ๆ ในต่างประเทศ เข้ามาให้บริการกับผู้ลงทุนในประเทศ

                     - กำหนดให้กระทรวงดีอี สามารถดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศที่มีพฤติกรรมการชักชวนหรือโฆษณาการให้บริการ (solicit) กับผู้ลงทุนในประเทศไทย ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย

 

ทั้งนี้ การปรับปรุงกฎหมายใหม่จะช่วยเสริมให้การบังคับใช้กฎหมายกับแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศในปัจจุบันของ ก.ล.ต. มีประสิทธิภาพเข้มข้นขึ้น เนื่องจากมีการกำหนดพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นการ solicit บุคคลในประเทศไทยที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น การมีทางเลือกชำระเงินเป็นสกุลเงินบาทแก่ผู้ลงทุน การรับชำระเงินผ่านบัญชีเงินฝากในประเทศไทย หรือการใช้ภาษาไทยบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เป็นต้น

 

"ก.ล.ต. จะร่วมมือกับกระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยว รวมทั้ง TDO และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ในการดำเนินการตามกฎหมายทั้งสองฉบับดังกล่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นช่องทางในการฟอกเงิน และลดความเสียหายของประชาชนจากอาชญากรรมทางออนไลน์" เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้