---ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันลดลงไม่รุนแรง---
คาดการณ์กำไรหลัก 1Q68F ลดลง -11% YoY และ -9% QoQ เป็น 16.69 พันล้านบาท จากปริมาณขายที่ลดลง จากการปิดซ่อมบำรุงแหล่งบงกช ในอ่าวไทย และปริมาณผลิตในตะวันออกกลาง และแอฟริกาลดลง ขณะที่ Unit cost เพิ่มขึ้น ด้านราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น +2% QoQ เป็น 46.62 ดอลลาร์/boe (-1% YoY) เฉพาะราคาก๊าซคาดว่าจะเพิ่ม +2%YoY, +2%QoQ เป็น 6.0 ดอลลาร์/mmbtu (มี Lag time ราว 12 เดือนจากการปรับราคาน้ำมัน)
แนวโน้มท้าทาย จาก 1) มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวรุนแรง และอุปสงค์น้ำมันลดลง โดยมีการคาดการณ์ว่า ความต้องการใช้น้ำมันอาจหดตัว 2-3 แสนบาร์เรล/วัน คิดเป็น 20% ของการเติบโตในปี 68F, 2) กลุ่มโอเปกพลัส มีมติเพิ่มการผลิตเป็น 4.11 แสนบาร์เรล/วัน ตั้งแต่พ.ค.68 ซึ่งสูงขึ้นจากแผนเดิมที่จะเพิ่มการผลิต 1.35 แสนบาร์เรล/วัน
นักวิเคราะห์ฝ่ายวิจัยฯ DBSVTH คาดว่าการลดลงของราคาน้ำมันมีผลกระทบต่อ PTTEP ไม่รุนแรง เนื่องจากบริษัทมีรายได้อิงกับธุรกิจก๊าซกว่า 70% ซึ่งราคาก๊าซมีแนวโน้มดีกว่าน้ำมันในช่วงนี้
แนะนำซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ให้ราคาพื้นฐาน 169 บาท (DCF) เนื่องจากปีนี้ปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้น ช่วยลดทอนการอ่อนลงของราคาน้ำมัน ขณะที่ราคาก๊าซคาดว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนั้นบริษัทได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาลจำกัด
นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethbik@dbs.com : Tel. 02 857 7833