สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(4 เมษายน 2568)--------LALIN แย้มไตรมาสแรกปีนี้ โกยยอดขายราว 1.3-1.4 พันลบ. ประเมินเหตุการณ์แผ่นดินไหวส่งผลบวกกับบ้านแนวราบมากขึ้น สะท้อนReal Demand , ย้ำแผนปี68 ปั้นยอดขาย 5 พันลบ. เปิด6-8 โครงการใหม่ ชี้การผ่อนปรนมาตรการ LTV นั้น จะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ในไตรมาส 2/68 นี้ ล่าสุดเปิดตัวโครงการ แลนซีโอ เพรสทีจ บางนา-ศรีวารี มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท ผลตอบรับดี

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขาย ไตรมาส 1/2568 เป็นไปในทิศทางที่ดี โดย บริษัทฯ คาดการณ์ว่า ยอดขาย (Presale) ในช่วง 3 เดือนแรก (มกราคม-มีนาคม) จะอยู่ที่ประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 20% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนแรก (มกราคม-กุมภาพันธ์) ตัวเลขของของการส่งออกเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจที่ยังคงเป็นบวก ส่งผลบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์

สำหรับไตรมาส 2/2568 บริษัทมีแผนเปิดตัว 2 โครงการใหม่ ขณะนี้ยังสรุปมูลค่าโครงการไม่ได้ โดยเป็นโครงการในทำเลกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 1 โครงการ และชลบุรี 1 โครงการ ซึ่งโครงการที่จะเปิดใหม่ในทำเลชลบุรีนั้น จะเป็นการเปิดตัวเพื่อทดแทนโครงการเดิมที่ขายหมดไป

ขณะที่ การผ่อนปรนมาตรการ LTV นั้น น่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ในช่วงไตรมาส 2/2568 นี้ ด้วยเช่นกัน

สำหรับปี2568 บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้จะเติบโตที่ระดับ 4,000 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมมูลค่า 600-700 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ทั้งหมดภายในช่วงระยะเวลา 2 เดือนจากนี้ อย่างไรก็ตาม จะมียอดขายรอโอนใหม่ๆ ที่เข้ามาทดแทนยอดขายรอโอนเดิมที่ทยอยรับรู้ไป

ด้านยอดขาย (Presale) ในปี 2568 ตั้งเป้าไว้ที่ 5,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน โดยมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 6-8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,000-5,000 ล้านบาท โดยล่าสุดเปิดตัวโครงการ แลนซีโอ เพรสทีจ บางนา-ศรีวารี มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท บนทำเลทองบางนา-ศรีวารี จ.สมุทรปราการ ซึ่งถือเป็นทำเลอนาคตที่น่าจับตามองที่สุดของกรุงเทพฯ จากการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมที่เชื่อมต่อทุกมิติของชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัว

ทั้งนี้ โครงการ แลนซีโอ เพรสทีจ บางนา-ศรีวารี เป็นบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม จำนวน 182 ยูนิต มีบ้าน 6 แบบ ระดับราคาขายตั้งแต่ 4-8 ล้านบาทต่อยูนิต ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดขายเฟส 1 (จำนวน 30 ยูนิต) มียอดขายแล้วประมาณ 60-70% ซึ่งจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือนเมษายนนี้

สำหรับ เหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ มองว่าจะส่งผลบวกกับสินค้าประเภทบ้านแนวราบมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เรียวดีมานด์ (Real Demand คือกลุ่มคนที่มีความต้องการในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยจริง) สลับมาดูโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีปัจจัยกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งยังเป็นปัจจัยหลักที่ต้องติดตาม ซึ่งยอดปฏิเสธสินเชื่อในอุตสาหกรรมยังอยู่ในระดับสูง